กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ชื่อโครงการ โครงการเผ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVIC-19) ภายในโรงเรียนบ้านกูวา

ที่อยู่ อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา จังหวัด ยะลา

รหัสโครงการ 63-L4115-2-01 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2563

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการเผ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVIC-19) ภายในโรงเรียนบ้านกูวา จังหวัดยะลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ห้วยกระทิง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการเผ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVIC-19) ภายในโรงเรียนบ้านกูวา

บทคัดย่อ

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำ การดูแลเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กับตนเองและเด็กนักเรียน 2. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถ ป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมถึงโรค ระบาดหรือโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ให้กับตนเองและเด็กนักเรียน 3. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ 1. ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 2. ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถป้องกันโรคให้กับตนเอง และเด็กนักเรียนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ 3. ครูมีความรู้และทักษะในการทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ ทางเดินและบริเวณภายในและภายนอกอาคารหรือครัวเรือน
4. สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนาโคโรนา 2019 (COVIC-19) ซึ่งย่อมาจาก “Coronavirus disease 2019” เป็นตระกูลเดียวกันโรคซาร์สที่ระบาดเมื่อปี 2545 ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลันปอดอักเสบและมีภาวะแทรกซ้อน พบแหล่งกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น มลฑลหูเป่ย ประเทศจีน จากที่มีผู้ป่วยมีอาการคล้ายปอดอักเสบและไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนมาก จึงมีการเก็บตัวอย่างของคนไข้เหล่านี้ไปถอดรหัสพันธุกรรมและได้พบว่าเป็นเชื้อ ไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ 7 ที่ถูกค้นพบ เป็นตระกูลเดียวกับโรคซาร์ส (SARS) และเมอร์ส (MERS) จากข้อมูลศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เวลา มีรายงานผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก รวม 210 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 นครรัฐ เรือ Diamond Princess เรือ Grands Princess และเรือ MS Zaandam ในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 จำนวน 6,281,132 ราย มีอาการรุนแรง 53,403 ราย เสียชีวิต 374,182 ราย โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยยืนยัน 10 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 1,837,170 ราย บราซิล 514,992 ราย รัสเซีย 414,878 ราย สเปน 286,509 ราย สหราชอาณาจักร 274,762 ราย อิตาลี 232,997 ราย อินเดีย 191,041 ราย ฝรั่งเศส 188,882 ราย เยอรมนี 183,494 ราย และ เปรู 164,476 ราย ส่วนจีน เป็นอันดับที่ 16 มีจำนวนผู้ป่วย 84,147 ราย (รวม ฮ่องกง 1,085 ราย มาเก๊า 45 ราย) และสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ณ เวลา 18.00 น. พบผู้ป่วยที่มีอาการตามนิยามเฝ้าระวังโรครายใหม่จำนวน 5,500 ราย รวมยอดผู้ที่ได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการสะสมทั้งหมด จำนวน 200,411 ราย ขณะนี้พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 3,082 ราย รักษาหายและแพทย์ให้กลับบ้าน 2,966 ราย ผู้ป่วยยืนยันที่เสียชีวิต 57 ราย
      ตามที่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ครูเฝ้าสังเกตการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษาอย่างใกล้ชิด หากพบนักเรียนที่มีอาการไข้ขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ลดยาก ปวดศีรษะและลำตัว มีอาการไอต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีน้ำมูก ให้รีบพบแพทย์หรือโทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ทั้งนี้ การเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำเป็นต้องมีการดำเนินการให้ความรู้ คำแนะนำ การดูแล เฝ้าระวังป้องกันตนเองให้กับผู้ปกครอง ครูผู้ดูแลเด็ก รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการระบาดของโรคฯ แก่ตนเองและเด็กนักเรียน
      มาตรการที่สำคัญคือ การป้องกันตนเองมิให้สัมผัสกับโรคโดยการหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมลภาวะและไม่อยู่ ใกล้ชิดผู้ป่วยไอหรือจาม รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย และการล้างมือ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ปกครอง เด็กนักเรียน ครู ผู้ประกอบอาหารกลางวัน และบุคลากรกองการศึกษาฯ ทุกคนสามารถเข้าถึงหน้ากากอนามัย และการล้างมือเพื่อป้องกันโรค ไม่เฉพาะโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เท่านั้น รวมถึงโรคระบาดหรือโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือขาดตลาด ดังนั้น โรงเรียนบ้านกูวา จึงเห็นควรจัดให้มีการดำเนินการให้ความรู้ คำแนะนำ การดูแลเฝ้าระวังป้องกันตนเองและเด็กนักเรียนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการทำความสะอาดอาคารเรียน

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 2. ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถป้องกันโรคให้กับตนเอง และเด็กนักเรียนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ 3. ครูมีความรู้และทักษะในการทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ ทางเดินและบริเวณภายในและภายนอกอาคารหรือครัวเรือน
4. สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น