โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (3-5 ปี) ในโรงเรียนบ้านกลิ้งกลอง
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (3-5 ปี) ในโรงเรียนบ้านกลิ้งกลอง |
รหัสโครงการ | 63-L1523-2-19 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนบ้านกลิ้งกลอง |
วันที่อนุมัติ | 9 มีนาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2563 |
งบประมาณ | 16,795.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางเสาวภา รัตนิยะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสาววิมลรัตน์ นวลนิ่ม |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาเมืองเพชร อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.559,99.465place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 44 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๕๔ กำหนดหน้าที่ของรัฐต้องดําเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย โดยรัฐต้องดําเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาเพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการดําเนินการด้วย พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 กำหนดให้เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนตำบลมีอำนาจหน้าที่จัดระบบการบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง ตามมาตรา 16 (๙) ในด้านการจัดการศึกษา และพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 13 พ.ศ. 2552 กำหนดให้เทศบาลตำบลมีหน้าที่ตามมาตรา 50 (6) ให้ราษฎรได้มีการศึกษาอบรม
โรงเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือเป็นสถานศึกษา ตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรับผิดชอบส่งเสริมและสนับสนุนการอบรมเลี้ยงดู จัดประสบการณ์ และส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ให้เด็กเล็กมีความพร้อมทางด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย มีคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อศักยภาพในการจัดการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งจัดให้มีการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยที่เหมาะสมในช่วงรอยต่อตั้งแต่ก่อนระดับอนุบาลจนถึงระดับประถมศึกษาอย่างต่อเนื่อง การมีพัฒนาการที่สมวัยนั้นถือได้ว่าเป็นคุณภาพชีวิตประชากรอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชากรวัยเด็กช่วงอายุ 2-5 ปี นั้นถือได้ว่าเป็นช่วงวัยแห่งการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยเรียนอย่างเป็นทางการตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ โดยเด็กในช่วงวัยดังกล่าวมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ทั้งทางด้านสมอง ร่างกาย อารมณ์และจิตใจที่สามารถเป็นปัจจัยสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเรียนรู้ในอนาคต
การดำเนินงานของโรงเรียนบ้านกลิ้งกลองในปัจจุบัน ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้มีการส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพอนามัยของเด็กเป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากถ้าเด็กมีสุขภาพอนามัยดีแล้ว เด็กก็จะมีความพร้อมในการที่จะเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ โรงเรียนบ้านกลิ้งกลองได้มีการจัดกิจกรรม/โครงการเกี่ยวกับสุขภาพให้กับเด็ก ผู้ปกครอง และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี และรวมทั้งจัดสถานที่อนามัยภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านการป้องกันโรคต่างๆ และบันทึกพัฒนาการ คัดกรองสุขภาพประจำวัน ซึ่งโรงเรียนบ้านกลิ้งกลองเห็นว่าในการส่งเสริมพัฒนาเด็กปฐมวัยนั้น ควรที่จะต้องมีการติดตาม ประเมินผล เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาเฝ้าระวัง หาวิธีการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างหลากหลาย จึงต้องการที่จะนำหลักการเฝ้าระวังและการส่งเสริมพัฒนาเด็กปฐมวัย (DSPM) มาใช้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการพัฒนาดังกล่าว เนื่องจากคู่มือ DSPM เป็นคู่มือที่พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก รวมถึงอสม. ใช้เฝ้าระวังการเจริญเติบโตของลูกหลานอย่างใกล้ชิด หากสงสัยล่าช้าก็สามารถแก้ไขส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการสมวัยตามคำแนะนำในคู่มือ DSPM นี้ได้ทันที ประกอบกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่งให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดกระบวนการเรียนการสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมีคุณภาพด้วยความยั่งยืน การปลูกฝังปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับผู้เรียน จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เนื่องจากเป้าหมายการสอนเด็กปฐมวัยมีจุดเน้นหรือมาตรฐานหลักอยู่ที่การพัฒนาทางร่างกาย การเคลื่อนไหว การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้แข็งแรงว่องไว รวมถึงพัฒนาสมอง เพื่อให้มีพัฒนาการทางด้านความคิดความเข้าใจตามวัย พัฒนาจิตใจ ให้เด็กสามารถช่วยเหลือแบ่งปัน ทำงานเป็นกลุ่มได้ รู้จักมีน้ำใจ และรู้จักให้อภัย ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น มีความรัก ความเมตตาต่อมนุษย์และสัตว์ รู้แพ้รู้ชนะ มากกว่าเน้นเรื่องวิชาการ
โรงเรียนบ้านกลิ้งกลอง จึงเห็นว่ากองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นได้เน้นให้มีโครงการบูรณาการด้านอาหาร โครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้เหมาะสมตามวัย ผู้จัดทำโครงการจึงเห็นความสำคัญของการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยให้เหมาะสมตามวัยโดยนำการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ร่วมกับแบบประเมินเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) เพื่อให้ครู และผู้ปกครองมีความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย รับรู้วิธีส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยรวมถึงผลกระทบจากพัฒนาการล่าช้า และส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการตามวัย มีความพร้อมในการศึกษาระดับสูงต่อไปได้ด้วยดี
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | (๑) เพื่อให้ครู และผู้ปกครองมีความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (๒) เพื่อให้ครู และผู้ปกครองรับรู้วิธีส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (3) เพื่อส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการตามวัย (๑) ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายมีความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (๒) ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายรับรู้วิธีการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (๒) ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายมีพัฒนาการตามวัย |
1.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 176 | 16,795.00 | 0 | 0.00 | |
1 พ.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมที่ 1 การอบรมให้ความรู้ และการรับรู้ปัญหา โดยใช้กระบวนการกลุ่ม | 44 | 4,625.00 | - | ||
1 พ.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมที่ 2 การสะท้อนความคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นกิจกรรมกลุ่มย่อย | 44 | 910.00 | - | ||
1 พ.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมที่ 3 การตัดสินใจเลือกวิธีปฏิบัติ | 44 | 1,075.00 | - | ||
1 พ.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมที่ 4 การคงไว้ซึ่งการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ | 44 | 10,185.00 | - |
- ระยะเตรียมการดำเนินโครงการ
- ศึกษาข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของโรงเรียนบ้านกลิ้งกลอง
- ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับการการส่งเสริมสุขภาพพัฒนาของเด็ก
- กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
- เขียนโครงร่างโครงการ
- ขออนุมัติโครงการ
2.ระยะการดำเนินโครงการ
2.1 ประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยก่อนเข้าร่วมโครงการ โดยคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM)
2.2 พบเด็กปฐมวัยมีพัฒนาการล่าช้าดำเนินการส่งต่อโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ประตำบลในเขตรับผิดชอบ
2.3 ดำเนินกิจกรรมตามคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM)
กิจกรรมที่ 1 การอบรมให้ความรู้ และการรับรู้ปัญหา โดยใช้กระบวนการกลุ่ม
- บรรยายพร้อมสื่อประกอบการบรรยาย ได้แก่ power point สถานการณ์พัฒนาการเด็กปฐมวัย ผลกระทบจากพัฒนาการล่าช้า วิธีการใช้งานคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) โดยวิทยากรจากสาธารณสุขอำเภอสิเกา
-ร่วมวิเคราะห์ปัจจัยสาเหตุที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้า
- ร่วมสรุปอภิปรายประโยชน์ของการเฝ้าระวังและส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัย
กิจกรรมที่ 2 การสะท้อนความคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นกิจกรรมกลุ่มย่อย
-ระบุวิธีการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยภายในองค์กรที่สามารถกระทำได้
-ร่วมอภิปรายกลุ่มโดยให้ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอ
กิจกรรมที่ 3 การตัดสินใจเลือกวิธีปฏิบัติ
-วางแผนการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยโดยกระบวนการกลุ่มระดมความคิดเพื่อกำหนดแนวทาง วิธีการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
-ดำเนินการตามแผนส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย และร่วมกันจัดบริบทศูนย์เด็กเล็กให้เอื้อต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐม
-กิจกรรม “สวนผัก ส่งเสริมพัฒนาการ”
กิจกรรมที่ 3 การคงไว้ซึ่งการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ
- การกำกับติดตาม และสอบถามปัญหาอุปสรรคหลังจากที่ได้ลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้
จำนวน 3 ครั้ง ในเดือนที่ 1 2 และ 3
- เดือนที่ 4 กิจกรรมกีฬาพัฒนาการเป็นเลิศ
- มอบเกรียติบัตร หนูน้อยสดใส พัฒนาการเป็นเลิศ
- ประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยหลังเข้าร่วมโครงการ โดยคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริม
พัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM)
- กระตุ้นพัฒนาการในเด็กปฐมวัยที่มีพัฒนาการไม่สมวัย หากพบเด็กปฐมวัยมีพัฒนาการไม่สมวัยให้ดำเนินการส่งต่อไปยัง คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐม
ณ โรงพยาบาลตรัง
3.ระยะประเมินผล
3.1 ประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย โดยคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ
3.2 ประเมินการสะท้อนความคิดอย่างมีวิจารณญาณ ด้วยการร่วมวิเคราะห์ปัจจัยสาเหตุที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้า
3.3 ประเมินการตัดสินใจเลือกวิธีปฏิบัติโดยการร่วมกำหนดวางแผนการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย วิธีการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย จนกระทั้งนำไปสู่การปฏิบัติได้
3.4 ประเมินการคงไว้ซึ่งการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพโดยการติดตามพัฒนาการเด็กปฐมโดย กิจกรรมกีฬาพัฒนาการเป็นเลิศ
1.ครู และผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้น 2.ครู และผู้ปกครองรับรู้ผลกระทบพัฒนาการล่าช้า และตระหนักและให้ความสำคัญถึงการส่งเสริม พัฒนาการเด็กปฐมวัยมากขึ้น 3.ครูและผู้ปกครองรับรู้วิธีการส่งเสริมพัฒนาการที่ถูกต้อง และสามารถปฏิบัติได้อย่างยั่งยืน 4.เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการสมวัย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2563 14:14 น.