โครงการเฝ้าระวังตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม |
รหัสโครงการ | 60-50094-2-14 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.ควนโดน |
วันที่อนุมัติ | 24 มีนาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2560 |
งบประมาณ | 10,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวธิดา เหมือนพะวงศ์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | วรวิทย์ กะเส็มสะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.814,100.06place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม เป็นปัญหาที่คุกคามสุขภาพสตรีทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย มีอุบัติการณ์ของโรคสูงเป็นอันดับ 1 ในปี 2557 และพบว่าสตรีทุก 16 คน มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกได้ 1 คน โรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (human Papilloma virus หรือ HPV ) โดยกระบวนการเกิดเกิดมะเร็งปากมดลูกใช้เวลาเฉลี่ย 5-15 ปี พบว่าสตรีที่ติดเชื้อไวรัสกลุ่ม ความเสี่ยงสูง มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 400 เท่า เมื่อเทียบกับสตรีที่ไม่พบการติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อดังกล่าวอาจจะหายเองได้ด้วยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในกรณีที่ติดเชื้อ ยังคงอยู่หรือฝั่งแน่นที่ปากมดลูกก็จะมีพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ เนื่องจากโรคนี้มรระยรก่อน มะเร็งให้ตรวจพบได้ ดังนั้นดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก จะทำให้พบระยะก่อนมะเร็ง และมะเร็งระยะเริ่มแรก ช่วยให้สามารถรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้ ถึงแม้ว่ามะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมทำให้เกิดความสูญเสียและเป็นสาเหตุการตายในอัตราที่สูง แต่ก็เป็นโรคที่สามารถรักษาได้ และการพยากรณืโรคค่อนข้างดี ถ้าสามารถตรวจพบและให้การรักษาในระยะเริ่มแรก ซึ่งร้อยละ 80 ของสามารถครวจพบได้โดยการตรวจคัดกรองเบื้องต้น แป๊ปสเมียร์ (Pap smear) และการตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน เพื่อค้นหาความผิดปกติ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการแนะนำให้ปฎิบัติมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธ๊ที่ไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะการตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง และสามารถปฎิบัติได้ง่ายด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษใดๆ ช่วยในการตรวจ ประหยัดเวลา และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคดังกล่าว ปี 2559 พบ ผู้ป่วยรายใหม่มะเร็งเต้านม จากการตรวจคัดกรอง จำนวน 1 คน และความผิดปกติอื่นๆจำนวน 5 คน และผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงเซลล์บริเวณปากมดลูก ที่ต้องได้รับการตรวจพิเศษ จำนวน 2 ราย และความผิดปกติอื่นๆ จำนวน 10 ราย ซึ่งผู้ป่วยและผู้ที่พบความผิดปกติต่างๆ ได้รับการรักษาและการติดตามอย่างต่อเนื่องทางผู้รับผิดชอบโครงการ จึงได้จัดทำโครงการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของกิจกรรมการดำเนินงาน และประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเฝ้าระวังตนเองให้ปลอดภัยจากโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมได้ ด้วยการเรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการตรวจเบื้องต้นได้จากเจ้าหน้าที่หรือแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุข อันจะเป็นการสร้างสุขนิสียในการตรวจสุขภาพของประชาชนให้มีความสนใจ และตระหนักในการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งในโอกาสต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และตระหนักในเรื่องของมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกสามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้องมากว่าร้อยละ 80
|
||
2 | 2. เพื่อค้นหาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกเพื่อลดอัตราป่วยและตายด้วยมะเร็งปากมดลูกและเต้านม
|
||
3 | 3. เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายสตรีอาสาต้านมะเร็งในชุมชน
|
||
4 | 4. เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานให้เหมาะสมกับพื้นที่และมีประสิทธิภาพเพิ่มประสิทธิผล
|
ขั้นเตรียมการ 1. จัดทำเวทีแลกเปลี่ยนการดำเนินงาน กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อร่วมวางแผนการดำเนินงานตามโครงการ 2. จัดทำสื่อ เอกสาร วัสดุทางการแพทย์เพื่อการประชาสัมพันธ์และการดำเนินงาน 3. ประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อชุมชนและหน่วยบริการ 4. จัดทำทะเบียนกลุุ่มสตรีเป้าหมาย ขั้นดำเนินการ 1. ผลิตสื่อที่เกียวข้อง ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ 2. ประชาสัมพันธ์ผ่าน อสม. แกนนำ หอกระจายข่าว วิทยุชุมชน 3. เสริมสร้างองค์ความรู้ และทักษะ สตรีแกนนำในชุมชน 4. จัดทะเบียนรายชื่อสตรกลุ่มเป้าหมายให้แกนนำ แต่ละหมู่/ชุมชน เพื่อแจ้งให้แต่ละคนติดตามกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่รับผิดชอบมารับบริการตรวจคัดกรอง และติดตามกลุ่มเป้าหมายที่ไปรับบริการที่สถานบริการอื่นๆ เพื่อการเก็บความครอบคลุมการเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในรอบปี (นับผลงานเฉพาะรายใหม่) 5. เสริมสร้างทักษะและพัฒนาศักยภาพ ความรู้เรื่องการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และการตรวจมะเร็งปากมดลูกและวิธีการตรวจอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้บริการในการตรวจมะเร็งปากมดลูก 6. การดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 6.1 จัดเตรียมบุคลากรใสถานบริการเพื่อช่วยในการให้บริการ 6.2 จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับให้บริการการตรวจอย่างพอเพียง 6.3 จัดคลีนิคให้บริการ การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap Smear 6.4ในรายพบความผิดปกติ จัดทำใบส่งต่อไปโรงพยาบาลแม่ข่าย 7.ประเมินคุณภาพให้บริการ
หญิงวัยเจริญพันธ์ได้รับการตรวจค้นหามะเร็งปากมดลูกมากกว่าร้อยละ 25 และสามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้องมากกว่าร้อยละ 90 สำหรับผู้ที่ตรวจพบความผิดปกติได้รับการส่งต่อเพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องร้อยละ 100 และได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2560 14:15 น.