โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวัยทำงาน ลดเสี่ยงโรคเรื้อรัง ตำบลลำไพลปี งบประมาณ 2563
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวัยทำงาน ลดเสี่ยงโรคเรื้อรัง ตำบลลำไพลปี งบประมาณ 2563 |
รหัสโครงการ | 63-L5192-1-2 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.ท่าไทร |
วันที่อนุมัติ | 4 สิงหาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 57,740.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวโสภิดา แก้วได้ปาน |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.721,100.93place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 450 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงหัวใจหลอดเลือดสมอง มะเร็ง ฯลฯเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน ทำให้เกิดความพิการและตายก่อนวัยอันควร การเกิดโรคมีสาเหตุจากหลายปัจจัยเสี่ยงที่มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย และนำไปสู่การเจ็บป่วยแทรกซ้อนที่สำคัญ อาทิ โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคไตวายเรื้อรัง (CKD) โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) แผลเรื้อรัง การถูกตัดขา ตัดนิ้ว เป็นต้น ความเจ็บป่วยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขโดยรวม ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่านอกจากการบริการทางคลินิกแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพมีความสำคัญและจำเป็นในการแก้ไขปัญหาโรคติดต่อดังกล่าวซึ่งการบริการสุขภาพภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานที่จำเป็น รวมทั้งการบริการสุขภาพเพื่อป้องกันและควบคุมโรคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ถือเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กรรมพันธุ์ อายุ และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้เช่น ความอ้วน ความเครียด การออกกำลังกาย พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม การดื่มสุรา สูบบุหรี่ ซึ่งหากประชาชนไม่สามารถควบคุมปัจจัยดังกล่าว ร่วมกับการมีอายุที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไปย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และต้องได้รับการรักษารับประทานยาตลอดชีวิต อีกทั้งหากมีพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา ส่งผลให้สูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากการคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงในกลุ่มวัยทำงาน ระบบคลังข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตำบลลำไพล ปี 256๒ พบว่า เสี่ยงต่อโรคเบาหวานจำนวน 771 คน เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 234 คน ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 1,379 คน ป่วยโรคเบาหวานจำนวน 431 คน ตำบลลำไพล เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในกลุ่มวัยทำงานจึงจัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริม กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน ตระหนัก รับรู้ถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น เป็นบุคคลที่มีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อลดอัตราการเกิดผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ ๑. อัตราผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ลดลง |
40.00 | |
2 | เพื่อให้ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังเบาหวานและความดันโลหิตสูงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม |
50.00 | |
3 | เพื่อลดและชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนในกลุ่มป่วย ร้อยละของผู้ป่วย CKD ที่มีอัตราการลดลงของ eGFR<4 ml / min / 1.73 m2 / yr |
66.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 450 | 57,740.00 | 3 | 57,740.00 | |
1 ม.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงลดโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง | 150 | 22,540.00 | ✔ | 22,540.00 | |
1 ม.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง | 150 | 17,600.00 | ✔ | 17,600.00 | |
24 ส.ค. 63 | กิจกรรมที่ ๓ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วยโรคไต ระยะที่ ๑-๓ | 150 | 17,600.00 | ✔ | 17,600.00 |
๑. เสนอแผนงานให้อนุกรรมการกลั่นกรอง
๒. เสนอแผนงานต่อคณะกรรมการกองทุนเพื่อขออนุมัติงบประมาณ
๓. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยง/ปัจจัยเสี่ยงเข้าร่วมโครงการ
๔. จัดเตรียมเอกสาร/ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๕. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
๕.๑ กิจกรรมที่ ๑ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงลดโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง
- กลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิตสูง นำมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการเจาะเลือด FPG
ทดสอบความทนทานต่อกลูโคส ( 75 กรัม Oral Glucose Tolerance Test (OGTT)
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และให้คำปรึกษารายบุคคล พร้อมชี้แจงผลเลือด FBS
- ติดตามดูแลกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูงและเบาหวานด้านสุขภาพ โดยการติดตาม 7 วัน ,
๑ เดือน,๓ เดือน
๕.๒ กิจกรรมที่ ๒ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
- จัดปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โรคเรื้อรังเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพด้วย 3 อ2 ส
- หลัง ๓ เดือน เจาะเลือดชุดใหญ่ โดยนำมาเปรียบเทียบกับผลเลือดครั้งแรก
- ติดตามดูแลกลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและเบาหวานด้านสุขภาพ โดยการติดตาม 7 วัน ,
๑ เดือน,๓ เดือน
๕.๓ กิจกรรมที่ ๓ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วยโรคไต ระยะที่ ๑-๓
- จัดปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โรคเรื้อรังเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพด้วย 3 อ2 ส
- หลัง ๓ เดือน เจาะเลือดชุดใหญ่ โดยนำมาเปรียบเทียบกับผลเลือดครั้งแรก
- ติดตามดูแลผู้ป่วยโรคไต ระยะ ๑-๓ ด้านสุขภาพ โดยการติดตาม 7 วัน ,๑ เดือน,๓ เดือน
๖. ประเมินความรู้ผู้เข้ารับการอบรมก่อน - หลังการอบรม
๗. สรุปผลการดำเนินงาน/รายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ทราบ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2563 14:09 น.