กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสิ่งแวดล้อม
รหัสโครงการ 61-L8286-3-03
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทต.ยะรัง
วันที่อนุมัติ 11 มิถุนายน 2561
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 11 มิถุนายน 2561 - 27 กรกฎาคม 2561
กำหนดวันส่งรายงาน
งบประมาณ 43,350.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
ละติจูด-ลองจิจูด 6.769,101.299place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานอนามัยแม่และเด็ก
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

เด็กปฐมวัย คือ เด็กที่มีอายุตั้งแต่ปฏิสนธิถึง 6 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ทราบว่า การอบรมและเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเด็กวัยนี้ต้องการการเรียนรู้ ในสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้านจากบิดามารดา คนรอบข้าง และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดพัฒนาการที่เป็นรากฐานของ บุคลิกภาพ อุปนิสัย และการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจ สมอง สติปัญญา ความสามารถ เพราะเด็กในช่วงตั้งแต่ปฏิสนธิในครรภ์แม่จนถึง 4 ปี ระบบประสาทและสมองจะเจริญเติบโตในอัตราสูงสุด (ประมาณ 80 % ของผู้ใหญ่) การอบรมปลูกฝังสร้างเสริมพัฒนาการทุกด้านให้แก่เด็กปฐมวัยได้เจริญ เติบโตเต็มศักยภาพในช่วงอายุนี้ จะเป็นรากฐานที่ดีจะให้เขาเติบโตเป็นเยาวชนและพลเมืองที่ดี เฉลียวฉลาด คิดเป็น ทำเป็นและมีความสุข เด็กปฐมวัยจะมีชีวิต รอดและเติบโตได้ก็ด้วยการพึ่งพาพ่อแม่ และผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่คอยให้การช่วยเหลือเลี้ยงดู ปกป้องจากอันตราย หากผู้ใหญ่ให้ความรักเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด อบรมเลี้ยงดูโดยเข้าใจถึงพัฒนาการของเด็กจะช่วยส่งเสริมให้เด็กพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการพื้นฐานที่เปลี่ยนไปตามวัยได้อย่างเหมาะสมให้เกิดคงวามสมดุลกันทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สติปัญญา และสังคม แล้วจะส่งผลให้เด็กจะเติบโตแข็งแรง แจ่มใส มีความมั่นคงทางใจ รู้ภาษา ใฝ่รู้และใฝ่ดี พร้อมที่จะพัฒนาตนเองในขั้นต่อไป ทำให้เป็นคนเก่งและคนดีอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีประโยชน์

พัฒนาการ (Development) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงด้านการทำหน้าที่ (Function) และวุฒิภาวะ (Maturation) ของอวัยวะระบบต่างๆ รวมทั้งตัวบุคคล ให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำสิ่งที่ยากสลับซับซ้อนมากขึ้น ตลอดจนการเพิ่มทักษะใหม่ๆ และความสามารถในการปรับตัวต่อสภาวะแวดล้อมหรือภาวะใหม่ในบริบทของครอบครัวและสังคม พัฒนาการของมนุษย์จำแนกเป็น 5 ด้านได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ พัฒนาการเป็นการศึกษาเรื่องลักษณะการเปลี่ยนแปลงในด้านโครงสร้างต่างๆของร่างกายที่เด็กแต่ละคนจะพัฒนาไปถึงรวมการเพิ่มของขนาดทางร่างกาย รวมถึง การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ในทางที่พึงปรารถนาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย อารมณ์ ทางสังคม และทางสติปัญญา ซึ่งจะเกิดติดต่อกันไปเรื่อยๆ จากระยะหนึ่งไปสู่อีกระยะหนึ่ง เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านโครงสร้าง (Structure) และแบบแผน(Pattern) ของอินทรีย์ทุกส่วน การเปลี่ยนแปลงนี้จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เป็นขั้นๆ จากระยะหนึ่งไปสู่อีกระยะหนึ่ง เพื่อที่จะไปสู่วุฒิภาวะทำให้อินทรีย์มีลักษณะและความสามารถใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ดี คำทั้งสองนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดกล่าวคือ จะมีพัฒนาการเกิดขึ้นได้นั้นย่อมต้องอาศัยความเจริญเติบโตของร่างกายเป็นพื้นฐาน มนุษย์ทุกผู้คน ถ้าไม่มีการเจริญเติบโตแล้วย่อมจะไม่มีความสามารถใดๆหรือลักษณะใหม่ใดๆ เกิดขึ้นเลย คำว่า “ความเจริญเติบโตและพัฒนาการ” มีความหมายที่คล้ายกัน คือ ความเจริญเติบโต (Growth) หมายถึง ความเปลี่ยนแปลงในด้านขนาด รูปร่าง สัดส่วน ตลอดจนกระดูกและกล้ามเนื้อ เมื่อเราพูดถึงความเจริญเติบโตของมนุษย์ จากความหมายดังกล่าวข้างต้นอาจสรุปคำว่า พัฒนาการมนุษย์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับตัวมนุษย์ทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สติปัญญาและสังคมอย่างเป็นลำดับขั้น โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ย่อมจะมีลำดับขั้นตอนของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงอายุ และเมื่อร่างกายมีการเจริญเติบโตตามสัดส่วนที่ควรจะเป็นในช่วงอายุนั้นๆกระบวนการต่างๆ ที่ถึงพร้อมทั้งช่วงเวลาและ โครงสร้างทางร่างกายก็จะทำให้มนุษย์มีความสามารถที่จะกระทำได้และสามารถแสดงออกได้โดยระบบต่างๆ ของร่างกายโดยมีวุฒิภาวะเป็นตัวควบคุม โดยไม่ต้องเร่ง เมื่อร่างกายพัฒนาการถึงความสามารถทางด้านต่างๆ ก็จะเป็นได้เอง

จึงถือว่าเด็กปฐมวัย คือ ทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การจัดให้ได้รับการศึกษา และการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยในทางที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าถือว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เด็กปฐมวัยจะต้องได้รับความรัก ความอบอุ่น ความใกล้ชิด ความเข้าใจ เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปพร้อมกันทุกด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาของเด็กแต่ละคน โดยต้องคำนึงถึงความต้องการ ความสามารถ และความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยให้เด็กได้เรียนรู้จากการสังเกต การคาดคะเน และประมวลทักษะต่างๆ จากประสบการณ์โดยตรงผ่านการเล่น การสำรวจ และการลงมือกระทำด้วยตนเองโดยผ่านกิจกรรมบูรณาการที่เหมาะสมกับพัฒนาการ (กรมวิชาการ. 2544 : 23-43) เพราะสังคมการอบรมบ่มเพาะเด็กปฐมวัยนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างรากฐานของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในก้าวย่างแรกของการเรียนรู้ โลกในศตวรรษที่ 21 ต้องการทักษะสำคัญเพื่อการก้าวสู่วิถีสุขภาวะ รวมไปถึงทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม ทักษะการเรียนรู้ และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ทักษะด้านสื่อ สารสนเทศ และเทคโนโลยี เด็กในศตวรรษที่ 21 จึงควรมีทักษะที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวได้ ริเริ่มเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความรับผิดชอบ ตลอดจนมีภาวะผู้นำและมีความรับผิดชอบ

เมื่อเด็กในระดับปฐมวัย คือ ทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจึงเป็นสถานที่ที่เด็กๆ จะได้รับการพัฒนาในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ สมอง การเรียนรู้ บุคลิกภาพ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลยะรัง ร่วมด้วยคณะกรรมการกองทุนหลักการประกันสุขภาพเทศบาลตำบลยะรัง และกองการศึกษา เทศบาลตำบลยะรัง จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลยะรัง เด็กนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปเผยแพร่ยังกลุ่มเพื่อนตลอดจนผู้ใกล้ชิดต่อไป

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

 

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2560 02:16 น.