โครงการสตรีปากแตระร่วมใจสู้ภัยมะเร็งปากมดลูก
ชื่อโครงการ | โครงการสตรีปากแตระร่วมใจสู้ภัยมะเร็งปากมดลูก |
รหัสโครงการ | 60-L5224-1-12 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต. |
วันที่อนุมัติ | 16 มิถุนายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 17,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | รพ.สต. |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปากแตระ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.766,100.358place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคมะเร็งเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ ปีหนึ่งมีคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทุกชนิด ปีละ 4,500รายโดยมีอัตราตายเป็นอับดับ 2 รองจากโรคหัวใจและหลอดเลือดและยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้น โดยเฉพาะโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งของมะเร็งในสตรี พบได้ถึง 3 คน ในประชากรหนึ่งแสนคนอัตราการตายเท่ากับ58.35ในปี 2558และเพิ่มเป็น 63.42ในปี 2559 (กระทรวงสาธารณสุข, 2548)และจากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าสตรีไทยมีแนวโน้มการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้นจากปี 2547ซึ่งมีอัตราตายด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก 2.4ต่อแสนประชากร และเพิ่มเป็น 3.1ต่อแสนประชากรในปี 2548 (กระทรวงสาธารณสุข, 2548)ในแต่ละปีมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกเสียชีวิตประมาณ 4,500ราย ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 30 -60ปี ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจ Pap Smearและหากทำทุก 2ปี สามารถลดการเป็นมะเร็งระยะลุกลามได้ 92 % ถึงแม้กระบวนการตรวจเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูก จะง่ายสะดวกราคาถูก แต่ยังพบว่าสตรีจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญ มีทัศนคติ ที่ไม่ดีต่อการตรวจ PapSmear สตรีที่เป็นมะเร็งส่วนใหญ่มักจะมี สถานะทางเศรษฐกิจต่ำมีความรู้น้อยมีปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตรวจมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ความรู้ความเชื่อด้านสุขภาพปัญหาในการมาตรวจความอายความรู้สึกเจ็บไม่สบายความวิตกกังวลถึงผลการตรวจและความรุนแรงของโรค(สริตา, 2558)
จากผลการดำเนินงานตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากแตระ ปี 2559 พบว่า มีสตรีวัยเจริญพันธุ์อายุ 30 -60 ปี จำนวน 646คนได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีPap smears จำนวน 221คน ร้อยละ 34.21ของสตรีวัยเจริญพันธุ์ในกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นจำนวนที่ยังไม่คลอบคลุม100% ทั้งนี้เนื่องมาจากประชาชน ยังมีทัศนะคติที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการตรวจและความจำเป็นในการประกอบอาชีพ อีกทั้งอาจเข้าใจว่าโรคมะเร็งปากมดลูกไม่เกิดกับทุกคนเพราะในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ยังพบผู้ป่วยน้อยเมื่อเทียบกับโรคอื่น ๆ
ดังนั้นเพื่อให้การคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและสามารถพบผู้ที่มีความ ผิดปกติตั้งแต่แรกเริ่มก่อนเป็นโรคมากขึ้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากแตระ จึงได้จัดทำโครงการสตรีปากแตระร่วมใจสู้ภัยมะเร็งปากมดลูกปี 2560ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
- ประชุมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงนโยบาย
- สำรวจข้อมูลสตรีอายุ 30 - 60ปี
- เขียนโครงการเสนอเพื่อขออนุมัติ
- ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ
4.1ประชุมเชิงปฏิบัติการแก่อสม.ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินงานจำนวน4 หมู่บ้านจำนวน 60คน
4.2ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เรื่องการรณรงค์ตรวจค้นหา มะเร็งปากมดลูกในชุมชน จำนวน 4หมู่บ้าน โดยผ่านสื่อเสียงตามสาย แผ่นพับ ป้ายประชาสัมพันธ์
4.3รณรงค์ตรวจคัดกรอง โรคมะเร็งปากมดลูกสตรี อายุ 30 - 60ปี ติดตาม ให้ความรู้ (ในกลุ่มเป้าหมายที่ไม่มาตรวจ)ระหว่าง มกราคม -กันยายน 2560
- ในสถานบริการ
- หน่วยเคลื่อนที่ในชุมชน
- มอบของขวัญจูงใจแก่สตรีกลุ่มเป้าหมายที่มารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
- รายงานผลการรณรงค์ตรวจคัดกรอง
- อสม.ออกติดตามสตรีกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้มารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
5.สรุปผลการดำเนินงานปัญหาอุปสรรค
6. ประชุม อสม.และคณะทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้บทเรียนที่ได้จากการดำเนินงาน
1.จำนวนสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30 - 60ปีได้รับบริการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก เพิ่มขึ้น ตามเกณฑ์มาตรฐาน
2.จำนวนผู้ป่วยที่ค้นพบเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ได้รับการรักษาพยาบาลในระยะแรกของการเป็นโรคมะเร็ง
3.ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของภาครัฐ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2560 16:28 น.