โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรค ปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรค ปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64 - L 5287 - 1 - 20 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลท่าแพ |
วันที่อนุมัติ | 1 ธันวาคม 2020 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2021 - 15 กันยายน 2021 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 15 กันยายน 2021 |
งบประมาณ | 41,212.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสุณี ศรียาน |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลท่าแพ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.791,99.964place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ม.ค. 2021 | 15 ก.ย. 2021 | 41,212.00 | |||
รวมงบประมาณ | 41,212.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 500 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาโรคไม่ติดต่อเช่นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางโรคเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นและมีแนวโน้มการเกิดโรคเพิ่มและมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากสุขภาพที่ไม่ถูกต้องของประชาชน เช่น การสูบบุหรี่ การบริโภคอาหารที่ไม่ถูกสันส่วนและไม่เหมาะสมทางโภชนาการ ขาดการออกกำลังกายและมีความเครียดจากครอบครัวและสังคม จากการศึกษาแนวปฏิบัติการบริการป้องกันควบคุมโรคและความดันโลหิตสูงพบว่าปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคที่เป้นปัจจัยเสี่ยงหลัก ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ ปัจจัยรอง ได้แก่ ภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ขาดการเคลื่อนไหว การออกำลังกาย การบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล การบริโภคอาหารที่เค็มจัด หวานจัด รวมทั้งรับประทานผักและผลไม้ที่ไม่เพียงพอ รวมทั้งประชาชนมีความรู้ที่ไม่ถูกต้องและไม่ตระหนักถึงความรุนแรงของโรคที่ไม่ติดต่อเหล่านั้น ด้านการให้การบริการเชิงรุกของโรงพยาบาลท่าแพ ได้จัดทำโครงการคัดกรองเบาหวานความดันซึ่งผลการดำเนินงานแม้ว่าทำให้ผลงานการค้นหาทำได้ครอบคลุมเพิ่มมากขึ้นและสามารถคัดกรองได้เพิ่มขึ้นปีงบประมาณ 2563 นี้ พบว่า กลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น จากข้อมูลพบกลุ่มเสีายงเบาหวาน จำนวน 213 ราย และเสี่ยงสูง 26 ราย ที่ต้องเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มป่วยเบาหวานรายใหม่ 6 ราย และพบกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง จำนวน 100 ราย และเสี่ยงสูง 61 ราย พบป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่ 3 ราย จากการคัดกรองทั้งหมด แต่ก็ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตได้ครอบคลุมเป้าหมายทั้งหมด เนื่องจากประชาชนบางส่วนยังไม่มีความตระหนัก ดังนั้นเพื่อป้องกันควบคุมและป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขิ้นและเพื่อพัฒนาศักยภาพของประชาชนให้เกิดความตระหนักในการสร้างภูมคุ้มกัน เฝ้าระวัง และดูแลตนเองให้มีพฟติกรรมลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง กลุ่มงานบนิการปบมภูมิและองค์รวมโรงพยาบาลท่าแพ จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อผลักดันให้ประชาชนที่ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยมีการเข้าคลินิค DPAC และส่งเสริมให้มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ในเรื่อง 3 อ 2 ส .และสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม ลดปัจจัยเสี่ยงและอัตราเกิดโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง มีสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเรื้องรังก็จะได้รับการดูแลตามมาตราฐานเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่อไป ดังนั้น กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลท่าแพ ได้เล้งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง/เบาหวาน ผู้ป่วยเรื้องรัง เพื่อไม่ให้เป็นผู้ป่วยรายใหม่ และผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนของโรคเดิม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องมีแนวปฏิบัติในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ ร้อยละ 80 ประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 35 ปี ขึ้นไป มีความรู้เพื่อส่งเสริมและป้องกันตนเองโรคความดันโลหิตสูง ด้วย 3 อ. 2 ส. โรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ |
80.00 | |
2 | 2. เพื่อให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมบริโภค ที่เหมาะสมในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนได้
|
50.00 | |
3 | 3. เพื่อสร้างเครือข่ายกลุ่มเสี่ยงป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 80 เกิดเครือข่ายกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง |
80.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 500 | 0.00 | 0 | 0.00 | |
1 ม.ค. 64 - 15 ก.ย. 64 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้ | 500 | 0.00 | - | ||
1 ม.ค. 64 - 15 ก.ย. 64 | กิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ | 0 | 0.00 | - |
- ขั้นเตรียมการ 1.1 ประชุมชี้แจง รายละเอียดโครงการ แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้นำท้องถิ่น และอาสาสมัครสาธารณสุขรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่ององค์ความรู้ วัตถุประสงคืโครงการและแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมฯ 1.2 จัดทำฐานข้อมูลกลุ่มเสี่ยงแบ่งพื้นที่กลุ่มเป้าหมายให้แก่ อสม.ผู้รับผิดชอบครอบครัว ส่งกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อเข้ารับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมฯ 1.3 จัดทำโครงการให้ความรู้โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคความดันโลหิตสูง ตำบลท่าแพ ปีงบประมาณ 2564 1.4 เสนอโครงการเพื่อของบประมาณต่อกองทุนหลักประกันสุขภาพ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าแพ
- ขั้นดำเนินการ 2.1 ประชาสัมพันธ์ให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ดำเนินโครงการ ทราบรายละเอียดโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคความดันโลหิตสูง 2.2 ออกให้ความรู้โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ และ 3อ. 2ส. เพื่อให้ประชากรที่มีความเสี่ยงในพื้นที่มีความตระหนัก และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพได้มากขึ้น และ สามารถเข้ารับบริการได้อย่างรวดเร็ว 2.3 แจกแผ่นพับโรคความดันโลหิตเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ และ 3อ. 2ส. ทุกหลังคาเรือนในตำบลท่าแพ
- สรุปรายงานผลการดำเนินงานโครงการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ
- ประชากรกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องและมีแนวทางปฏิบัติในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ประชากรกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมบริโภค ที่เหมาะสมในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อนได้อย่างยั่งยืน
- ผู้ป้วยที่มีอาการด้วยโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ สามารถมารับบริการในโรงพยาบาลได้ทันท่วงที เกิดเครือข่ายกลุ่มเสี่ยงโรคความดันดลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อน ของโรงพยาบาลท่าแพ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2020 16:04 น.