โครงการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยง ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยง ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย |
รหัสโครงการ | 64-L-1505-1-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านควนเคี่ยม |
วันที่อนุมัติ | 6 มกราคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 29,250.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวรัตนา สีผม แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.474,99.648place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 160 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขไทยเปิดเผยว่า คนไทยป่วยด้วย 5 โรคไม่ติดต่อเรื้อรังอันตราย เพิ่มขึ้นนาทีละ 1 คน โดยในปี 2561 พบผู้ป่วยสะสมจํานวนกว่า 2 ล้านคน และคาดว่ายังมีผู้ป่วยซ่อนเร้นอีกเป็นจํานวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อายุต่ํากว่า 40 ปีที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหากพบว่าความดันโลหิตสูงจะหมายถึงว่าไตเริ่ม เสื่อมและทําให้อัตราตายจากโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น การทํางานของไตเสื่อมเร็วขึ้น 2-3 เท่า การ เสื่อมของประสาทตาเพิ่มมากขึ้นดังนั้นจะเห็นได้ว่าการคุมความดันโลหิตสูงให้ดี ก็จะสามารถป้องกันโรคแทรกซ้อนที่ เกิดจากโรคเบาหวานและความดัน ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต โรคจอประสาทตา เสื่อม ได้อีกด้วย จากสถิติ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน และความดันของหน่วยงาน รพ.สต.บ้านควนเคี่ยม3 ปีย้อนหลัง พบว่า 2560- 2563 มีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ และจากการศึกษาวิถีชุมชน พบว่า เป็นประชาชนกลุ่ม วัยทํางาน มักชอบรับประทานอาหารแบบเร่งรีบ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก และไม่ตระหนักถึงประโยชน์และโทษของอาหารที่ ตนได้รับจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินในส่วนนี้ได้ จากการศึกษาพบว่า ปัจจุบันศาสตร์การแพทย์แผนไทยเข้ามามีส่วนในการช่วยป้องกันควบคุมโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย อย่างกว้างขวาง และได้ผลอย่างเห็นได้ชัด แพทย์แผนไทย รพ.สต.บ้านควนเคี่ยม จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันโรคดังกล่าวในกลุ่มเสี่ยง จึงได้จัดทําโครงการ การป้องกัน และควบคุมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยง ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ขึ้น เพื่อช่วยลดการใช้ ยาแผนปัจจุบันลดค่าใช้จ่ายเรื่องยาที่เพิ่มขึ้นของหน่วยงานลดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เกิดจากโรคเบาหวาน ความดัน ๆ ให้ยั่งยืน และคงอยู่กับประชาชนบ้านควนเคี่ยมต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมโครงการสามารถคุมระดับน้ําตาลในกระแสเลือด และระดับความดันโลหิตได้ในเกณฑ์ปกติ หลังการเข้าร่วมโครงการผู้เข้าร่วมโครงการสามารถคุมค่า ระดับน้ําตาลในกระแสเลือด และระดับความดันโลหิตได้ ร้อยละ 80 |
80.00 | |
2 | ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำทฤษฏีการแพทย์แผนไทยเข้ามามีส่วนร่วม ผสมผสานกับการดูแลตนเองได้ หลังการเข้าร่วมโครงการผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 |
80.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 160 | 29,250.00 | 0 | 0.00 | |
1 ต.ค. 63 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติและการติดตามผล การป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงด้วยศาตร์การแพทย์แผนไทย | 160 | 29,250.00 | - |
- เสนอแผนเพื่อจัดทําโครงการ
- เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ
- ประชาสัมพันธ์โครงการฯ และคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ความดันฯ จํานวน 160 คน พร้อมแจ้งกลุ่มเป้าหมายให้ทราบอย่างทั่วถึง
- จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ด้วยศาสตร์การแพทย์ แผนไทย ของประชาชนบ้านควนเคียม
- ดําเนินการติดตามผลโครงการด้วยแบบบันทึก การป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิต สูง ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ของประชาชนบ้านควนเคี่ยม
- สรุปผลและรายงานผลการดําเนินงาน
ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ได้เข้าร่วมโครงการ สามารถสามารถคุมค่าระดับน้ําตาลในกระแสเลือด และระดับ ความดันโลหิตของตนเองได้ และสามารถดูแลตนเองโดยนําทฤษฎีการแพทย์แผนไทยเข้ามามีส่วนร่วม ผสมผสานกับ การดูแลตนเองของผู้ป่วยในปัจจุบันได้อย่างยั่งยืน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2564 13:26 น.