โครงการผลของการปรับเปลี่ยนทัศนคติ การบริโภคอาหาร และยารับประทานยาบำรุงเลือดเพื่อลดปัญหาภาวะซีดในหญิงวัยเจริญพันธ์
| ชื่อโครงการ | โครงการผลของการปรับเปลี่ยนทัศนคติ การบริโภคอาหาร และยารับประทานยาบำรุงเลือดเพื่อลดปัญหาภาวะซีดในหญิงวัยเจริญพันธ์ |
| รหัสโครงการ | 04/2560 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคอกช้าง |
| วันที่อนุมัติ | 25 กรกฎาคม 2560 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2560 - 31 ธันวาคม 2560 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | |
| งบประมาณ | 15,000.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวชฎาพรกองแก้ว |
| พี่เลี้ยงโครงการ | |
| พื้นที่ดำเนินการ | อำเภอธารโต จังหวัดยะลา |
| ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มวัยทำงาน | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจัยแห่งการพัฒนาประเทศที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง คือ ทรัพยากรมนุษย์ (ประชากร) ซึ่งในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้านอย่างยั่งยืนนั้นจำเป็นต้งมีการพัฒนาศักยภาพควบคู่ไปกับการการปละกฝัง คุณธรรม จริยธรรม (Moraue Virtue) ให้กับเด็กและเยาวชนของประเทศ เพราะผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพดีต้องมีรากฐานจากกระบวนการหล่อหลอมทางสังคม (Socialization) ที่มีประสิทธิภาพต่อเนื่องและสอดประสานกันจากทุกภาคส่วนของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันพื้นฐานทางสังคมที่สำคัญที่สุดในการทำหน้าที่หล่อหลอมและขัดเกลาความเป็นมนุษย์ให้สมาชิกในครอบครัวด้วยการอบรม เลี้ยงดู ให้ความรัก ความเอื้ออาทร พร้อมทั้งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และถ่ายทอดวัฒนธรรมอันดีงามให้สมาชิกในครอบครัว
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | เพื่อศึกษาและแก้ไขภาวะโลหิตจางจากขาดธาตุเหล็กในหญิงวัยเจริญพันธ์ หญิงวัยเจริญพันธุ์ได้รับความรู้ และการศึกษา การแก้ไขภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก |
||
| 2 | เพื่อเปลี่ยนแปลงความรู้ ค่าฮีมาโตคริส พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็ก และการปฏิบัติตัวของหญิงวัยเจริญพันธ์ุ หญิงวัยเจริญพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงค่าฮีมาโตคริส พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็ก และการปฏิบัติตัวในการลดปัญหาภาวะโลหิตจาง |
0.00 | |
| 3 | ลดปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในหญิงวัยเจริญพันธ์ุ ลดปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในหญิงวัยเจริญพันธ์ุไม่ให้เกินร้อยละ 10 |
0.00 |
| hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
| วันที่ | กิจกรรม | 0 | 15,000.00 | 1 | 15,000.00 | |
| 4 ก.ย. 60 - 4 ก.ย. 61 | จัดอบรมให้ความรู้แก่หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง | 0 | 15,000.00 | ✔ | 15,000.00 | |
- จัดอบรมให้ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน่ 30 คน เรื่องแนวทางควบคุมป้องกันโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก,ผลกระทบการขาดธาตุเหล็ก, อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
- เจาะเลือดครั้งที่ 1 เพื่อบันทึกค่าฮีมาโตคริสในหญิงตั้งครรภ์ก่อนการเริ่มทำการรับประทานยาและอาหารบำรุงธาตุเหล็กอย่างจริงจัง
- ตรวจอุจจาระกลุ่มตัวอย่างทุกคนเพื่อหาไข่พยาธิ
- ให้ยาเฟอรัสซัลเฟต ขนาด 60 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด เป็นเวลา 2-3 เดือนในรายที่มีค่าฮิมาโตคริสต่ำกว่า 36 %
- ในรายที่พบไข่พยาธิจะให้ยา Albendazole 1 ครั้ง จำนวน 4 เม็ด โดยให้กินก่อนนอน และให้ยาเฟอรัสซัลเฟต
- นัดประชุมครั้งที่ 2 เพื่อเจาะเลือดครั้งที่ 2 เพื่อบันทึกค่าฮีมาโตคริสในหญิงตั้งครรภ์
- เก็บข้อมูลหลังดำเนินงานเพื่อเปรียบเทียบผลก่อนและหลังดำเนินโครงการฯ
- ติดตามเยี่ยมบ้านเพื่อให้ความรุู้และแนะนำวิธีการกินยาเม์็ดเสริมธาตุเหล็กและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการกินยา โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่
- หญิงที่ได้รับการอบรมให้ความรุู้แนะนำ ให้ความรู้แก่เพื่อนบ้านและสมาชิกในครอบครัว
- หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ในเรื่องการควบคุมป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ทำให้เกิดความตระหนักในการดูแลสุขภาพตัวเอง และสมาชิกในครอบครัว
- ภาวะซีดในหญิงตั้งครรภ์ลดลงกว่าร้อย 10
- เกิดเครือข่ายแกนนำในการควบคุมป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กระดับหมู่บ้าน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2560 11:34 น.