กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกชะงาย

1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม

โครงการตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดกลุ่มเกษตรกรและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปีงบประมาณ 2564

ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา

กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกชะงาย

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกชะงาย

นางปานิมาส รุยัน ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกชะงาย

หมู่ที่ 2, 3, 4 , 5 ,6 และ 8 ตำบลโคกชะงาย

2. ความสอดคล้องกับแผนงาน

แผนงานอาหารและโภชนาการ

3. สถานการณ์

สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 ร้อยละของเกษตรกรที่ตรวจพบสารเคมีตกค้างในเลือดเกินมาตรฐานความปลอดภัย

 

44.35
2 ร้อยละเกษตรกรที่มีสารเคมีในเลือดเกินมาตรฐานความปลอดภัยนัดมาตรวจซ้ำ

 

43.13

ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เกษตรกรมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้น เนื่องจากรูปแบบการเกษตรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมรูปแบบเดิม จากการเกษตรทำเพื่อการบริโภคมาเป็นการเกษตรเศรษฐกิจ เกษตรกรต้องการเพิ่มผลผลิตและรักษาคุณภาพของสินค้า สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชได้ถูกนำมาใช้ในแปลงผักและไร่นาของเกษตรกรอย่างแพร่หลาย ประกอบกับการขาดองค์ความรู้ในการใช้สารเคมีส่งผลให้เกิดสารพิษตกค้างในผัก และสะสมในลำห้วย หนอง คลองบึง ฯลฯ การบริโภคผักและใช้แหล่งน้ำที่มีการสะสมสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้ร่างกายที่ได้รับสารพิษมีอาการเฉียบพลัน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ท้องร่วง ตาพร่า หายใจติดขัด ฯลฯ ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการได้รับพิษสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เฉลี่ยปีละ 2,013 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 45-54 ปี (กรมควบคุมโรค,2563) จากการเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลผลการตรวจเลือดประชาชนจังหวัดพัทลุง ในปี 2563 พบว่า มีประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้รับการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือด ร้อยละ 71.33 พบว่า มีเกษตรกรที่มีผลการตรวจเสี่ยงและไม่ปลอดภัย ร้อยละ 44.88 และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นในปี 2563 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกชะงายดำเนินการตรวจเลือดหาสารเคมีในเกษตรกร จำนวน 115 คนพบว่า เกษตรกรที่ตรวจพบสารเคมีตกค้างในเลือดเกินมาตรฐานความปลอดภัย จำนวน 51 คน ร้อยละ 44.35 กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวเป็นกลุ่มวัยแรงงานหากกลุ่มวัยแรงงานเกิดการเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของครอบครัวและจังหวัด ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขตำบลบ้านโคกชะงายเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการใช้สารเคมี และรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมีจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง จึงได้จัดทำโครงการตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดกลุ่มเกษตรกรและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปีงบประมาณ 2564 จากภัยสารเคมีกำจัด ศัตรูพืชและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและส่งเสริมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันและลดอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเกษตรกร และสร้างความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคในชุมชน

ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม

4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

  • บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
  • ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทุกคนมีความรู้ในการเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง จากการใช้สารเคมีในเกษตรกร

กลุ่มเป้าหมายทุกคนมีความรู้ในการเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง จากการใช้สารเคมีในเกษตรกร ร้อยละ 80

68.00 80.00
2 กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือดที่มีภาวะเสี่ยง หรือเสี่ยงสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดื่มสมุนไพรรางจืด

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือดที่มีภาวะเสี่ยง หรือเสี่ยงสูงทุกคนได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดื่มสมุนไพรรางจืด

115.00 300.00

5. กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
กลุ่มเป้าหมายจำแนกเพิ่มเติม
กลุ่มเกษตรกรที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 300

6. ระยะเวลาดำเนินงาน

วันเริ่มต้น 01/11/2020

กำหนดเสร็จ 31/07/2021

7. วิธีการดำเนินงาน

  • กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
  • งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด

กิจกรรมที่ 1 ตรวจคัดกรองและสำรวจพฤติกรรมการใช้สารเคมีในเลือดเกษตรกร

ชื่อกิจกรรม
ตรวจคัดกรองและสำรวจพฤติกรรมการใช้สารเคมีในเลือดเกษตรกร
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ
  • กระดาษทดสอบหาปริมาณโคลีนเอสเตอเรสจำนวน 3 ชุด ๆ ละ 1,000 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
  • ถ่ายเอกสารแบบสำรวจพฤติกรรมฯ จำนวน 300 ชุด ๆ ละ 3 บาท เป็นเงิน 900 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
1 พฤศจิกายน 2020 ถึง 31 มกราคม 2021
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
  • กลุ่มเกษตรกรได้รับการตรวจคัดกรองและสำรวจพฤติกรรมการใช้สารเคมีในเลือด
จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
3900.00

กิจกรรมที่ 2 อบรมความรู้ทักษะการเฝ้าระวังการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และดื่มสมุนไพรรางจืด

ชื่อกิจกรรม
อบรมความรู้ทักษะการเฝ้าระวังการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และดื่มสมุนไพรรางจืด
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ
  • ค่าตอบแทนวิทยากร จำนวน 1 คน คนละ 3 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 600 บาท เป็นเงิน 1,800 บาท
  • ค่าอาหารอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 120 คน ๆ ละ 1 มื้อ ๆ ละ 25 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
1 มกราคม 2021 ถึง 30 เมษายน 2021
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
  • กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือดที่มีภาวะเสี่ยง หรือเสี่ยงสูงทุกคนได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดื่มสมุนไพรรางจืด
จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
4800.00

กิจกรรมที่ 3 ตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรซ้ำ

ชื่อกิจกรรม
ตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือดเกษตรกรซ้ำ
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ
  • กระดาษทดสอบหาปริมาณโคลีนเอสเตอเรสจำนวน2 ชุดชุดละ 1,000 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
1 เมษายน 2021 ถึง 31 กรกฎาคม 2021
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
  • เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและตรวจซ้ำ ระดับความเสี่ยงสารเคมีลดลง
จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
2000.00

งบประมาณโครงการ

จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 10,700.00 บาท

หมายเหตุ :
งบประมาณทุกรายการสามารถถัวเฉลี่ยกันได้

8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง

ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

- กลุ่มเป้าหมายทุกคนมีความรู้ในการเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง จากการใช้สารเคมีในเกษตรกร ร้อยละ 80
- กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือดที่มีภาวะเสี่ยง หรือเสี่ยงสูงทุกคนได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดื่มสมุนไพรรางจืด
- เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและตรวจซ้ำ ระดับความเสี่ยงสารเคมีลดลง


>