โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแต |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแต |
วันที่อนุมัติ | 19 มีนาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2563 |
งบประมาณ | 11,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางดารุณี มากแก้ว |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ก.ค. 2563 | 30 ก.ย. 2563 | 11,300.00 | |||
รวมงบประมาณ | 11,300.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 513 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการเกษตรทำให้มีการผลิตสารเคมีกำจัดศัตรูพืชใช้อย่างแพร่หลาย ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในผลผลิตทางการเกษตร มีการศึกษาอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างกว้างขวางและพบว่า สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้สามารถถูกสะสมในร่างกายมนุษย์ได้เป็นเวลานาน ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ การดูดซึมทางผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และการรับประทาน ซึ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใดและปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่างๆออกมาเช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกันเป็นต้น
ตำบลปันแต เป็นตำบลหนึ่งที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมโดยมีพื้นที่ ที่ใช้ในการเกษตร ซึ่งประกอบไปด้วย การทำนาปี ทำสวนยางพารา พืชล้มลุกทางการเกษตรอีกหลายชนิด ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืชจึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่รุนแรง และสูง ในปีงบประมาณ 256๒ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแตได้มีการเจาะเลือดผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง พบว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือด ทั้งสิ้นจำนวน ๗๒๘ คน มีผลดังนี้ เจาะเลือดประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๑ พบว่า ปกติ ร้อยละ ๒.๓๓ ปลอดภัย ร้อยละ ๔๒.๘๖ เสี่ยง ร้อยละ ๓๒.๒๘ และไม่ปลอดภัย ร้อยละ ๒๒.๕๓ กรณีพบว่า เสี่ยงและไม่ปลอดภัยในครั้งที่ ๑ เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๒ มีผู้มาเจาะเลือดครั้งที่ ๒ ร้อยละ ๔๙.๘๗ พบว่า ปกติ ร้อยละ ๐ ปลอดภัย ร้อยละ ๑๑.๕๖ เสี่ยง ร้อยละ ๕๓.๒๗ และไม่ปลอดภัย ร้อยละ ๓๕.๑๗ กลุ่มเสี่ยงที่มาเจาะเลือดครั้งที่ ๒ มีผลเลือดเท่าเดิม ร้อยละ ๔๙.๒๕ ดีขึ้น ร้อยละ ๓๗.๖๙ แย่ลง ร้อยละ ๑๓.๐๖ จะเห็นได้ว่า ผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงนั้นมีสารเคมีในเลือดอยู่ในกลุ่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ทาง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแตร่วมกับกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลปันแตได้เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพของผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงในพื้นที่ตำบลปันแต จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลง ในตำบลปันแตขึ้น เพื่อให้ผู้สัมผัสและเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อหาสารเคมีตกค้างในกระแสเลือด ว่าอยู่ในระดับใด เพื่อเฝ้าระวังและรักษาต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑ เพื่อระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป ร้อยละ ๑๕ ของประชาชนอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจสารเคมีในเลือด |
0.00 | |
2 | เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร้อยละ ๘๐ ของประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 513 | 11,300.00 | 1 | 11,300.00 | |
1 ก.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | ตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๓๕ ปีขึ้นไป | 513 | 11,300.00 | ✔ | 11,300.00 |
1 ประชุมชี้แจงโครงการและแนวทางการดำเนินงานให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
๒ จัดทำแผนงานโครงการเพื่อขอรับการอนุมัติจากประธานกองทุน
๓ จัดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ และนัดวันเวลาและสถานที่ในการตรวจ
๔ ดำเนินการตรวจหาสารเคมีตกค้างครั้งที่ ๑ สอบถามข้อมูลพฤติกรรมของเกษตรกรเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
๕ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชนที่มีผลสารเคมีตกค้าง เสี่ยงและไม่ปลอดภัย
๖ ดำเนินการตรวจหาสารเคมีตกค้างครั้งที่ ๒ ซ้ำในเกษตรกรที่มีผลสารเคมีตกค้าง เสี่ยงและไม่ปลอดภัย
๗ ติดตามประเมินผล
๑ เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงมีระดับสารเคมีตกค้างในเกณฑ์ปกติและปลอดภัย ๒ เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2563 00:00 น.