โครงการผมสวยไร้เหา ด้วยแชมพูสมุนไพร
แบบการวิเคราะห์และการสังเคราะห์ปัจจัยกำหนดความสำเร็จของโครงการ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับคน กลุ่มคน เครือข่าย (เช่น มีความรู้ มีทักษะ มีความชำนาญ มีศักยภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น)
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า รายละเอียด หลักฐาน แนวทางการพัฒนาต่อ
เด็กนักเรียนและผู้ปกครองมี ความรู้เรื่องการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่ถูกต้อง มากขึ้น
• ครูและอาสาสมัครสาธารณสุขมี ทักษะในการผลิตและใช้แชมพูสมุนไพรป้องกันเหา ด้วยตนเอง
• กลุ่มแม่บ้านและเยาวชนมี ความชำนาญในการผสมสูตรสมุนไพรท้องถิ่น เพื่อใช้ดูแลสุขภาพผมอย่างปลอดภัย
• ชุมชนมี ศักยภาพในการพึ่งพาตนเองด้านการดูแลสุขอนามัยของเด็กนักเรียน โดยไม่ต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์เคมี
• เกิด เครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน–รพ.สต.–ชุมชน ในการรณรงค์ “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา” อย่างต่อเนื่อง
จากการดำเนินโครงการ “ผมสวยไร้เหา ด้วยแชมพูสมุนไพร” พบว่า
เด็กนักเรียนในโรงเรียนเป้าหมาย รวมถึงผู้ปกครองและครูผู้ดูแลสุขภาพนักเรียน
มีความตื่นตัวในการดูแลสุขอนามัยของเส้นผมและหนังศีรษะมากขึ้น
โดยได้เรียนรู้วิธีการทำแชมพูสมุนไพรจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ใบย่านาง ใบสะเดา มะกรูด และตะไคร้หอม
สามารถนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวันเพื่อลดปัญหาเหาในเด็กนักเรียน
ครูและอสม.มีทักษะในการสาธิตและให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้อย่างถูกต้อง
กลุ่มแม่บ้านเกิดการรวมตัวกันเพื่อผลิตแชมพูสมุนไพรไว้ใช้ในครัวเรือน และบางส่วนผลิตจำหน่ายในชุมชน
เกิดการต่อยอดสู่กิจกรรมเรียนรู้เชิงอาชีพของนักเรียนและเยาวชน
นอกจากนี้ยังเกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน รพ.สต. และกลุ่มชุมชน
เพื่อรณรงค์ “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา” อย่างต่อเนื่อง
-ภาพถ่าย
-อบรม
-พัฒนาสูตรแชมพูสมุนไพร ให้มีคุณภาพดีขึ้น เช่น เพิ่มส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผม
หรือปรับกลิ่นให้น่าใช้มากขึ้น เพื่อสร้างความยั่งยืนในการใช้จริง
-ติดตามและประเมินผลระยะยาว ทุก 3–6 เดือน เพื่อดูอัตราการกลับมาของเหา
และปรับปรุงกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดนโยบาย เกิดข้อตกลงชุมชน เกิดมาตรการทางสังคม)
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า รายละเอียด หลักฐาน แนวทางการพัฒนาต่อ
- เกิดข้อตกลงร่วมในชุมชน
โรงเรียน ผู้ปกครอง อสม. และรพ.สต. มีมติร่วมกันให้เด็กนักเรียนทุกคน
ตรวจสุขภาพศีรษะทุกเดือน และใช้แชมพูสมุนไพรเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดูแลสุขภาพประจำ
- เกิดนโยบายระดับโรงเรียน
โรงเรียนบรรจุกิจกรรม “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา” ไว้ในแผนงานอนามัยโรงเรียนประจำปี
และจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการดูแลผมและหนังศีรษะทุกภาคเรียน
- เกิดมาตรการทางสังคมในชุมชน
• ครอบครัวในชุมชนให้ความร่วมมือในการดูแลลูกหลานให้สะอาด ปลอดเหา
• ร้านตัดผมในพื้นที่เข้าร่วมรณรงค์ “ตัดผมสะอาด ปลอดเหา” โดยใช้เครื่องมือที่ผ่านการทำความสะอาด
• กลุ่มแม่บ้านผลิตแชมพูสมุนไพรจำหน่ายในราคาถูก เพื่อให้ทุกครัวเรือนเข้าถึงได้
- เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขอนามัยในโรงเรียน
ห้องน้ำและห้องสุขาถูกจัดให้สะอาด มีมุม “ศีรษะสะอาด” พร้อมสื่อความรู้
และจัดให้มีวันสุขภาพผมประจำเดือน
จากการดำเนินโครงการ “ผมสวยไร้เหา ด้วยแชมพูสมุนไพร” พบว่า
ชุมชนและโรงเรียนได้ร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลสุขอนามัยของเส้นผมและหนังศีรษะ
โดยมีการจัดตั้งข้อตกลงร่วมระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และอสม.
ให้มีการตรวจสุขภาพศีรษะนักเรียนอย่างต่อเนื่องทุกเดือน
รวมถึงรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรท้องถิ่นที่ปลอดภัยจากสารเคมี
โรงเรียนได้กำหนดนโยบาย “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา”
เป็นหนึ่งในแผนงานอนามัยโรงเรียนประจำปี
และจัดมุมสื่อความรู้ในห้องเรียนและห้องน้ำเกี่ยวกับการดูแลผมให้สะอาด
พร้อมจัด “วันสุขภาพผม” เพื่อให้นักเรียนร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
-ภาพถ่าย
-อบรม
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของร้านตัดผมและกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่น
โดยจัดอบรมและให้ป้ายรับรอง “ร้านสะอาด ปลอดเหา”
เพื่อเป็นแรงจูงใจและสร้างมาตรฐานสุขอนามัยในชุมชน
การเปลี่ยนกลไก และกระบวนการในชุมชนที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดกลุ่ม ชมรม เครือข่าย เกิดกระบวนการเรียนรู้ เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม)
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า รายละเอียด หลักฐาน แนวทางการพัฒนาต่อ
- เกิดกลุ่มและชมรมสุขภาพผมสะอาด
ภายในโรงเรียนมีการจัดตั้ง “ชมรมผมสวยไร้เหา” โดยมีนักเรียนแกนนำสุขภาพร่วมกับครูอนามัย
ทำหน้าที่ตรวจสุขภาพศีรษะเพื่อนนักเรียนและรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการดูแลผมที่ถูกต้อง
- เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในชุมชน
ชุมชน โรงเรียน และ รพ.สต. ได้ร่วมกันจัดเวิร์กช็อปการทำแชมพูสมุนไพร
สาธิตการใช้สมุนไพรท้องถิ่น เช่น มะกรูด ใบย่านาง ใบสะเดา และตะไคร้หอม
เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ทุกคนมีส่วนร่วมลงมือปฏิบัติจริง
- เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านสุขอนามัยผมและหนังศีรษะ
ระหว่างโรงเรียน รพ.สต. กลุ่มแม่บ้าน อสม. และร้านตัดผมในชุมชน
เพื่อร่วมกันติดตาม ดูแล และส่งต่อความรู้ให้ครอบครัวในพื้นที่
- เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
ทั้งเด็ก เยาวชน ครู ผู้ปกครอง และหน่วยงานท้องถิ่น
ร่วมกันออกแบบกิจกรรม เช่น การแข่งขันแต่งคำขวัญ “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา”
และการประกวดผลิตภัณฑ์แชมพูสมุนไพรจากวัตถุดิบในท้องถิ่น
- เกิดการพัฒนาศักยภาพแกนนำสุขภาพ
นักเรียนและอสม. ที่เข้าร่วมโครงการได้รับการอบรมเพิ่มเติม
สามารถขยายผลและถ่ายทอดความรู้ให้โรงเรียนอื่นหรือหมู่บ้านใกล้เคียงได้
จากการดำเนินโครงการ “ผมสวยไร้เหา ด้วยแชมพูสมุนไพร”
พบว่าชุมชนเกิดกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ
โดยโรงเรียน รพ.สต. และกลุ่มแม่บ้าน ได้ร่วมกันวางแผนและดำเนินกิจกรรมในทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การคัดเลือกสมุนไพรในท้องถิ่น การผลิตแชมพู ทดลองใช้ และประเมินผล
ภายในโรงเรียนได้จัดตั้ง “ชมรมผมสวยไร้เหา”
มีนักเรียนแกนนำสุขภาพเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมรณรงค์ให้เพื่อนๆ
ดูแลสุขภาพผมอย่างถูกวิธี และรายงานผลการตรวจสุขภาพศีรษะต่อครูอนามัยทุกเดือน
ส่งผลให้เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนสอนเพื่อน
ในระดับชุมชน กลุ่มแม่บ้านและอสม. ได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการ
สามารถผลิตแชมพูสมุนไพรใช้เองในครัวเรือน และถ่ายทอดความรู้ต่อให้คนในหมู่บ้าน
ขณะเดียวกัน รพ.สต. ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการ
ร่วมติดตามผลและให้คำแนะนำเรื่องมาตรฐานการผลิตและสุขอนามัย
โครงการนี้ยังส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือ
ระหว่างโรงเรียน–ชุมชน–รพ.สต.–องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพผมอย่างต่อเนื่อง
จนเกิดกลไกที่เข้มแข็งและขับเคลื่อนกิจกรรมได้ด้วยตนเอง
ภาพถ่ายกิจกรรม การอบรมเชิงปฏิบัติการผลิตแชมพูสมุนไพร ระหว่างโรงเรียน รพ.สต. และกลุ่มแม่บ้าน
• รายชื่อสมาชิกชมรม “ผมสวยไร้เหา” พร้อมตารางกิจกรรมและแผนการตรวจสุขภาพศีรษะนักเรียนรายเดือน
เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในชุมชน
• รพ.สต. โรงเรียน และกลุ่มชุมชนร่วมกันติดตามผลการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร
• จัดประชุมเครือข่ายชุมชนประจำปี เพื่อปรับปรุงกระบวนการและแนวทางรณรงค์
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับคน กลุ่มคน เครือข่าย (เช่น มีความรู้ มีทักษะ มีความชำนาญ มีศักยภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น) |
|||
| การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า | รายละเอียด | หลักฐาน | แนวทางการพัฒนาต่อ |
|---|---|---|---|
เด็กนักเรียนและผู้ปกครองมี ความรู้เรื่องการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่ถูกต้อง มากขึ้น • ครูและอาสาสมัครสาธารณสุขมี ทักษะในการผลิตและใช้แชมพูสมุนไพรป้องกันเหา ด้วยตนเอง • กลุ่มแม่บ้านและเยาวชนมี ความชำนาญในการผสมสูตรสมุนไพรท้องถิ่น เพื่อใช้ดูแลสุขภาพผมอย่างปลอดภัย • ชุมชนมี ศักยภาพในการพึ่งพาตนเองด้านการดูแลสุขอนามัยของเด็กนักเรียน โดยไม่ต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์เคมี • เกิด เครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน–รพ.สต.–ชุมชน ในการรณรงค์ “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา” อย่างต่อเนื่อง |
จากการดำเนินโครงการ “ผมสวยไร้เหา ด้วยแชมพูสมุนไพร” พบว่า เด็กนักเรียนในโรงเรียนเป้าหมาย รวมถึงผู้ปกครองและครูผู้ดูแลสุขภาพนักเรียน มีความตื่นตัวในการดูแลสุขอนามัยของเส้นผมและหนังศีรษะมากขึ้น โดยได้เรียนรู้วิธีการทำแชมพูสมุนไพรจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ใบย่านาง ใบสะเดา มะกรูด และตะไคร้หอม สามารถนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวันเพื่อลดปัญหาเหาในเด็กนักเรียน ครูและอสม.มีทักษะในการสาธิตและให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้อย่างถูกต้อง กลุ่มแม่บ้านเกิดการรวมตัวกันเพื่อผลิตแชมพูสมุนไพรไว้ใช้ในครัวเรือน และบางส่วนผลิตจำหน่ายในชุมชน เกิดการต่อยอดสู่กิจกรรมเรียนรู้เชิงอาชีพของนักเรียนและเยาวชน นอกจากนี้ยังเกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน รพ.สต. และกลุ่มชุมชน เพื่อรณรงค์ “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา” อย่างต่อเนื่อง |
-ภาพถ่าย -อบรม |
-พัฒนาสูตรแชมพูสมุนไพร ให้มีคุณภาพดีขึ้น เช่น เพิ่มส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผม หรือปรับกลิ่นให้น่าใช้มากขึ้น เพื่อสร้างความยั่งยืนในการใช้จริง -ติดตามและประเมินผลระยะยาว ทุก 3–6 เดือน เพื่อดูอัตราการกลับมาของเหา และปรับปรุงกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น |
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดนโยบาย เกิดข้อตกลงชุมชน เกิดมาตรการทางสังคม) |
|||
| การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า | รายละเอียด | หลักฐาน | แนวทางการพัฒนาต่อ |
|
จากการดำเนินโครงการ “ผมสวยไร้เหา ด้วยแชมพูสมุนไพร” พบว่า ชุมชนและโรงเรียนได้ร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลสุขอนามัยของเส้นผมและหนังศีรษะ โดยมีการจัดตั้งข้อตกลงร่วมระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และอสม. ให้มีการตรวจสุขภาพศีรษะนักเรียนอย่างต่อเนื่องทุกเดือน รวมถึงรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรท้องถิ่นที่ปลอดภัยจากสารเคมี โรงเรียนได้กำหนดนโยบาย “ศีรษะสะอาด ปลอดเหา” เป็นหนึ่งในแผนงานอนามัยโรงเรียนประจำปี และจัดมุมสื่อความรู้ในห้องเรียนและห้องน้ำเกี่ยวกับการดูแลผมให้สะอาด พร้อมจัด “วันสุขภาพผม” เพื่อให้นักเรียนร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง |
-ภาพถ่าย -อบรม |
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของร้านตัดผมและกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยจัดอบรมและให้ป้ายรับรอง “ร้านสะอาด ปลอดเหา” เพื่อเป็นแรงจูงใจและสร้างมาตรฐานสุขอนามัยในชุมชน |
การเปลี่ยนกลไก และกระบวนการในชุมชนที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดกลุ่ม ชมรม เครือข่าย เกิดกระบวนการเรียนรู้ เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม) |
|||
| การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า | รายละเอียด | หลักฐาน | แนวทางการพัฒนาต่อ |
|
จากการดำเนินโครงการ “ผมสวยไร้เหา ด้วยแชมพูสมุนไพร” พบว่าชุมชนเกิดกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ โดยโรงเรียน รพ.สต. และกลุ่มแม่บ้าน ได้ร่วมกันวางแผนและดำเนินกิจกรรมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกสมุนไพรในท้องถิ่น การผลิตแชมพู ทดลองใช้ และประเมินผล ภายในโรงเรียนได้จัดตั้ง “ชมรมผมสวยไร้เหา” มีนักเรียนแกนนำสุขภาพเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมรณรงค์ให้เพื่อนๆ ดูแลสุขภาพผมอย่างถูกวิธี และรายงานผลการตรวจสุขภาพศีรษะต่อครูอนามัยทุกเดือน ส่งผลให้เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนสอนเพื่อน ในระดับชุมชน กลุ่มแม่บ้านและอสม. ได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการ สามารถผลิตแชมพูสมุนไพรใช้เองในครัวเรือน และถ่ายทอดความรู้ต่อให้คนในหมู่บ้าน ขณะเดียวกัน รพ.สต. ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการ ร่วมติดตามผลและให้คำแนะนำเรื่องมาตรฐานการผลิตและสุขอนามัย โครงการนี้ยังส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างโรงเรียน–ชุมชน–รพ.สต.–องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพผมอย่างต่อเนื่อง จนเกิดกลไกที่เข้มแข็งและขับเคลื่อนกิจกรรมได้ด้วยตนเอง |
ภาพถ่ายกิจกรรม การอบรมเชิงปฏิบัติการผลิตแชมพูสมุนไพร ระหว่างโรงเรียน รพ.สต. และกลุ่มแม่บ้าน • รายชื่อสมาชิกชมรม “ผมสวยไร้เหา” พร้อมตารางกิจกรรมและแผนการตรวจสุขภาพศีรษะนักเรียนรายเดือน |
เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในชุมชน • รพ.สต. โรงเรียน และกลุ่มชุมชนร่วมกันติดตามผลการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร • จัดประชุมเครือข่ายชุมชนประจำปี เพื่อปรับปรุงกระบวนการและแนวทางรณรงค์ |