พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยโรคทางจิตเวชและยาเสพติด เขตเทศบาลเมืองตากใบ จังหวัดนราธิวาส ปี 2564
ชื่อโครงการ | พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยโรคทางจิตเวชและยาเสพติด เขตเทศบาลเมืองตากใบ จังหวัดนราธิวาส ปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L7487-1-16 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลตากใบ |
วันที่อนุมัติ | 12 มกราคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2564 - 15 ธันวาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 40,200.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางวาสนา กาญจนะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสุธา รุกขพันธ์ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จิตเภทเป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่มีอาการทางจิต ทั้งอาการเฉียบพลันและอาการรุนแรง มีการดำเนินโรคแบบเรื้อรัง เป็นโรคที่มีความผิดปกติด้านความคิด การรับรู้ อารมณ์และพฤติกรรม (สุวนีย์,2554;อรพรรณ,2554) อุบัติการณ์การเกิดโรคจิตเภทในประเทศไทยพบผู้ป่วยประมาณ 15.2 ต่อ 100,000 คนต่อปี และประมาณร้อยละ 95 ของผู้ป่วยจะเจ็บป่วยเรื้อรังไม่หายขาดและร้อยละ 70 มีโอกาสกลับเป็นซ้ำสูง (กรมสุขภาพจิต,2555) สำหรับสถานการณ์โรคจิตเภท ในอำเภอ ตากใบปี 2557 - 2560 มีผู้ป่วยจิตเภททั้งหมด 270,275 และ 287 คนตามลำดับ ซึ่งค่ารักพยาบาลในส่วนของผู้ป่วยนอกเฉลี่ยในผู้ป่วยจิตเภททั้งหมด 3,000 – 5,000 บาท ต่อคนต่อปี (ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศโรงพยาบาลตากใบ, 2560) จะเห็นได้ว่ารัฐต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการักษาพยาบาลผู้ป่วยจิตเภทเป็นเงินจำนวนมาก จากการที่ผู้ป่วยมีอาการกำเริบซ้ำ ควบคุมอาการไม่ได้ หรือแม้กระทั่งการมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยและญาติ พบว่ามีจำนวนหนึ่งที่พยายามแสวงหาทางช่วยเหลือโดยการนำผู้ป่วยไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ เช่น การดื่มยาต้ม การเป่าเสก น้ำมนต์ การทำพิธีขับไล่ผี/วิญญาณ และเมื่อรักษาไปแล้วผู้ป่วยยิ่งมีอาการไม่ดีขึ้น ก็จะไม่กล้านำผู้ป่วยกลับเข้ามารักษาต่อในโรงพยาบาล แต่จะนำผู้ป่วยไปล่ามขังแทน ส่งผลให้ผู้ป่วยกำเริบหนักมากขึ้นและอาการทางจิตผู้ป่วยยิ่งแย่ลง(บุษกร, 2557) จากข้อมูลการดำเนินงานในคลินิกจิตเวชของโรงพยาบาลตากใบในปี 2562 และ 2563 พบว่ามีผู้ป่วย จิตเวชเพิ่มขึ้นจำนวน 522 คน และ 588 คน ซึ่งปัญหาที่พบในผู้ป่วยคือการกลับเป็นซ้ำและการมีพฤติกรรมรุนแรงทำร้ายตนเองและบุคคลอื่นๆ ส่งผลให้ไม่สามารถนำผู้ป่วยส่งมารับบริการที่โรงพยาบาลได้ จากปัญหาดังกล่าวจึงได้ประชุมคณะกรรมการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดขึ้น โดยมีเนื้อหาการใช้ พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ. 2551 และ 2562 มีสาระเนื้อหาเกี่ยวกับสิทธิ์ของผู้ป่วยที่จะได้รับการรักษา และบทบาทของเจ้าพนักงาน ในการนำส่งผู้ป่วยเข้ารับการดูแลรักษา จากการประชุมดังกล่าวคณะกรรมการต้องการให้มีการอบรมให้ความรู้เรื่องผู้ป่วยจิตเวช การเจรจาต่อรองและการจำกัดพฤติกรรม เพื่อให้สามารถดูแลส่งต่อผู้ป่วยจิตเวชได้อย่าง มีประสิทธิภาพ กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดโรงพยาบาลตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ได้โครงการพัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยโรคทางจิตเวชและยาเสพติด เขตเทศบาลเมืองตากใบ จังหวัดนราธิวาส ปี 2564 นี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการดูแลรักษาและควบคุมอาการทางจิตได้ และไม่มีพฤติกรรมรุนแรงต่อบุคคลในชุมชน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1).เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคทางจิตเวช สาเหตุ การวินิจฉัย และการรักษา 2).เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความสามารถในการดูแลผู้ป่วยโรคทางจิตเวช ได้อย่างเหมาะสม 3).เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความสามารถในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคทางจิตเวช และครอบครัวให้สามารถป้องกัน การกำเริบซ้ำที่จะเกิดขึ้นและดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข 4).เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีการนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
|
0.00 | |
2 | ๑. เพื่อจัดซื้อวัสดุที่จำเป็นมาใช้ในงานของกองทุนฯ ๒. จ่ายค่าตอบแทนการประชุม ๓. ค่าอาหารและอาหารว่างและเครื่องดื่ม 1) ผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติดได้เข้ารับการบำบัดรักษามากกว่าร้อยละ80 2) อัตราการกลับเป็นซ้ำในผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติดลดลงไม่เกินร้อยละ5 3) คณะกรรมการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติดมีความรู้เรื่องการดูแลผู้ป่วยจิตเวช และยาเสพติด การเจรจาต่อรองและการจำกัดพฤติกรรม |
0.00 |
3.1 จัดทำโครงการและเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ 3.2 กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 50 คน 3.3 ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.4 จัดเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์และสถานที่ 3.5 กำหนดกิจกรรมในการดำเนินโครงการ ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆดังนี้ - บรรยายวิชาการด้านจิตเวช โดย นพ.โนราห์ ทศนสุวรรณ แพทย์เฉพาะด้านจิตเวช - การเจรจาต่อรองและการจำกัดพฤติกรรม โดย คุณเริงฤทธิ์ ประชาตรี และคณะ จาก รพ.จิตเวชสงขลา ราชนครินทร์ - แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน 3.6 สรุปและประเมินผลโครงการ
1) อัตราการกลับเป็นซ้ำในผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติดลดลง 2) ผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติดได้รับการส่งต่อรักษาพยาบาล 3) ครอบครัว ชุมชนปลอดภัยจากพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติด
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2564 14:26 น.