โครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนตาดีกา หมู่ที่3 บ้านท่าโพธิ์ตก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนตาดีกา หมู่ที่3 บ้านท่าโพธิ์ตก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านท่าโพธิ์ตก |
วันที่อนุมัติ | 22 กุมภาพันธ์ 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,554.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ประธานกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านท่าโพธิ์ตก |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.796,100.416place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 80 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาสุขภาพช่องปากนับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ประชาชนให้ความสำคัญน้อย เนื่องจากผลกระทบของโรคที่เกิดในช่องปากมีผลต่อการเสียชีวิตน้อยกว่าโรคอื่น ๆ จึงเป็นสาเหตุทำให้โรคในช่องปากมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ จากการสำรวจสภาวะช่องปากของประเทศไทย ครั้งที่ 8 ปี พบว่า อัตราการเกิดโรคฟันผุในกลุ่มเด็กอายุ 3 ปี และ 12 ปี ร้อยละ 52.9 ร้อยละ 58.7 ตามลำดับ ปัญหาโรคเหงือกอักเสบเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มเด็กวัยรุ่นและวัยทำงาน ร้อยละ 66.3 และ 62.4 ตามลำดับ ส่วนตำบลท่าโพธิ์ มีอัตราโรคฟันผุมากกว่าตำบลอื่นๆ โดยพบว่าเด็กอายุ 3 ปี มีอัตราฟันผุ ร้อยละ 41.41 และเด็กอายุ 12 ปี ฟันผุร้อยละ 26.92 ซึ่งปัญหาดังกล่าว ส่งผลผลกระทบทั้งด้านร่างกาย เช่น ปวดบวม ด้านจิตใจ เช่น เป็นทุกข์ ไม่มีจิตใจทำงาน ด้านสังคม เช่น อาย จากการไม่มีฟันเคี้ยว และด้านสติปัญญา เกิดจากปัจจัยหลาย ๆอย่าง ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการแปรงฟัน ความรู้ความเข้าใจการดูแลสุขภาพช่องปาก เป็นต้น ปัจจัยของสังคม เช่น สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพช่องปาก ปัจจัยทางเครือข่ายสังคม วัฒนธรรม เช่น การมีส่วนร่วมในการป้องกันโรค และระบบบริการ
ซึ่งการป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากที่ดี คือการปลูกฝังให้เกิดการดูแลการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองตั้งแต่เล็ก ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการป้องกันจากหลาย ๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานสาธารณสุข เช่น การทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการทันตกรรม สถาบันครอบครัว เช่น การฝึกการแปรงฟัน การโรงเรียน เช่น การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อในการดูแลสุขภาพช่องปาก ชุมชนและสังคม เช่น การสร้างกระแสสังคมในการดูแลสุขภาพช่องปาก เป็นต้น ทั้งนี้โรงเรียนสอนศาสนาเป็นหนึ่งสถานที่ที่สำคัญในการปลูกฝังการดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียน ซึ่งหมู่ที่ 3 บ้านท่าโพธิ์ตก มีโรงเรียนสอนศาสนา (ตาดีกา) จำนวน 1 แห่ง มีเด็กจำนวน 80 คน จากการสำรวจพบว่า ไม่มีการดำเนินกิจกรรมการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของนักเรียน รวมถึงไม่มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อในการดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียน ซึ่งการไม่ดำเนินกิจกรรมข้างต้นนั้น สามารถนำไปสู่การลุกลามของปัญหาโรคฟันผุที่รุนแรงขึ้นในอนาคตได้
อสม.หมู่ที่ 3 บ้านท่าโพธิ์ตก จึงมีความประสงค์เสนอโครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากแก่นักเรียนโรงเรียนตาดีกา หมู่ที่ 3 บ้านท่าโพธิ์ตก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อขอรับงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ เพื่อใช้แก้ปัญหาเรื่องโรคในช่องปากของนักเรียนให้ลดน้อยลงและเพื่อส่งเสริมป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากให้เกิดความยั่งยืน ตลอดจนผลักดันให้เป็นโรงเรียนสอนศาสนาต้นแบบในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากแก่ตำบลอื่น ๆ ต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้นักเรียนสามารถดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองได้อย่างถูกวิธี นักเรียนได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการ ร้อยละ 80 นักเรียนมีความรู้ด้านการดูแลสุขภาพช่องปากเพิ่มขึ้น ร้อยละ 40 |
0.00 | |
2 | เพื่อสร้างมาตรการการควบคุมและการป้องการการเกิดโรคในช่องปากของนักเรียนโรงเรียนตาดีกา โรงเรียนมีมาตรการการดูแลสุขภาพช่องปากเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 มาตรการ |
0.00 | |
3 | เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพช่องปาก โรงเรียนมีสถานที่แปรงฟัน/สถานที่เก็บแปรงสีฟันเพียงพอ นักเรียนมีอุปกรณ์ในการทำความสะอาดช่องปาก ร้อยละ 80 โรงเรียนมีสื่อด้านทันตสาธารณสุข อย่างน้อย 1 สื่อ |
0.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 |
1.1 ขั้นเตรียมการ 1.1.1 ศึกษาและสำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย 1.1.2 จัดทำโครงการขออนุมัติ
1.2 ขั้นดำเนินกิจกรรม
กิจกรรมที่ 1 อบรมให้ความรู้การดูแลสุขภาพช่องปาก (แรลลี่)
- การทำแบบทดสอบก่อนอบรม (Pre-test)
- การอบรมผ่านการบรรยายและฝึกทดลอง
- การทำแบบทดสอบหลังอบรม (Post-test)
กิจกรรมที่ 2 จัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำดูแลสุขภาพช่องปากภายในอาคารเรียน (จัดสถานที่)
- ประชุม วางแผนการดำเนินงาน
- ร่วมจัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำดูแลสุขภาพช่องปากภายในอาคารเรียน
กิจกรรมที่ 3 ร่วมวางแผนสร้างนโยบาย/มาตรการการแปรงฟันก่อนละหมาดดุฮุริ (ละหมาดตอนเที่ยง)กับครูและนักเรียน
- ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง
- ประชุม วางแผนการดำเนินงาน
- ร่วมทำข้อตกลง/นโยบายการดูแลสุขภาพช่องปากในโรงเรียน
กิจกรรมที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามการแปรงฟันก่อนละหมาดดุฮุริ (ละหมาดตอนเที่ยง)ของนักเรียน
- ประชุมวางแผนการดำเนินงาน
- ลงพื้นที่ติดตามการแปรงฟันของนักเรียน
- ลงประเมินผลการทำความสะอาดช่องปากของนักเรียน
1.3 ขั้นสรุปผลการดำเนินโครงการ
- นักเรียนให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองมากขึ้น
- ปัญหาสุขภาพช่องปากของเด็กในตำบลท่าโพธิ์ลดน้อยลง
- เป็นต้นแบบของโรงเรียนสอนศาสนา ด้านการดูแลสุขภาพช่องปาก แก่ตำบลอื่นๆ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 14:33 น.