กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน NCD
รหัสโครงการ 64-L3066-01-15
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่ากำชำ
วันที่อนุมัติ 9 ธันวาคม 2563
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2564
งบประมาณ 30,600.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นายบุญยา แวโต
พี่เลี้ยงโครงการ นายนาเซร์ หวังจิ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกิจกรรมทางกาย , แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 40 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสริมสร้างทักษะในการจัดการตนเองเพื่อป้องกันโรค
70.00

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

1.1 กลุ่มโรค NCDs (Noncommunicable diseases หรือโรคไม่ติดต่อ) ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลก ทั้งในมิติของจำนวนการเสียชีวิตและภาระโรคโดยรวม โดยประเทศไทย มีอัตราการเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อต่ำสุดเมื่อเทียบในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก (SEARO) จากข้อมูลปีพ.ศ.2559 โรคไม่ติดต่อยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของประชาชนไทยทั้งในแง่ภาระโรคและอัตราการเสียชีวิตอัตราการเสียชีวิต ก่อนวัยอันควร (30-69 ปี) จากโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ ประกอบด้วย โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจขาดเลือด, โรคเบาหวาน, ภาวะความดันโลหิตสูง และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 ถึงปีพ.ศ. 2559 หลังจากนั้น มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยและคงที่ในปีพ.ศ. 2561 โดยโรคหลอดเลือดสมองมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงที่สุดเท่ากับ 44.3 รายต่อประชากรแสนคน และอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคหลอดเลือดสมองในผู้ชายสูงกว่าเพศหญิง 1.2 สภาพปัญหา : อุบัติการณ์การเกิดโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวานรายใหม่มีแนวโน้มลดลง โดยมีปัจจัยเชิงบวกด้านพฤติกรรม ในประชากรที่ดีขึ้นทั้งในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ และวัยรุ่น คือ ความชุกของการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงเชิงลบที่คุกคามสุขภาพคือการบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล และการมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ อาจกล่าวได้ว่าการลดลงของอุบัติการณ์เบาหวาน และภาวะความดันโลหิตสูง เป็นผลจากมาตรการการควบคุม ป้องกันโรค และปัจจัยเสี่ยงของภาวะความดันโลหิตสูงที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในบางช่วงเวลาความชุกของ ปัจจัยเสี่ยง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ทว่ายังคงเป็นการเปลี่ยนแปลงในอัตราที่ไม่มาก นอกจากนั้นอาจสะท้อนว่าควรเพิ่มมาตรการ และ ความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการเพื่อปรับแนวโน้มให้เปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการด้านการควบคุมการบริโภค อาหารหวาน มัน และเค็ม นอกจากนั้นควรมีการสำรวจข้อมูลสถานการณ์การบริโภคอาหารและปริมาณโซเดียมที่บริโภคต่อวันอย่างต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของกลุ่มวัยทำงานตำบลท่ากำชำ ปี 2561-๒๕๖3 พบว่ากลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูง ยังคงมีจำนวนใกล้เคียงกันทุกปี แสดงให้เห็นว่ากลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูง ไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือ ไม่สามารถจัดการกับปัจจัยเสี่ยงได้ ปี 2563 กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยเบาหวาน จำนวน 82 คน กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูง จำนวน 74 คนในขณะที่กลุ่มป่วยรายใหม่โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีแนวโน้มลดลงแต่ผู้ป่วยยังไม่สามารถควบคุมโรคได้ ปีงบประมาณ 2563 ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมโรคได้ ร้อยละ 22.63(เกณฑ์ร้อยละ 50) โรคเบาหวานสามารถควบคุมโรคได้ร้อยละ7.8 (เกณฑ์ร้อยละ ๔๐) ในขณะที่กลุ่มป่วยข้างต้น ได้รับการคัดกรองCKD ร้อยละ 46.96 (เกณฑ์ร้อยละ 8๐) 1.3 ความเร่งด่วน / ผลที่คาดหวัง : จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไขปัญหา เฝ้าระวัง ติดตามกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ป้องกันไม่ให้ป่วย และกลุ่มป่วยสามารถควบคุมโรคได้ เกิดเครือข่ายในการดูแลสุขภาพที่เข้มแข็งโดยเน้นการสร้างเสริมสุขภาพ การพึ่งพาตนเอง รพ.สต.ท่ากำชำ จึงได้จัดทำโครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้านNCD โดยใช้กลไกการดำเนินงานของเครือข่ายสุขภาพในชุมชนเพื่อขับเคลื่อนงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ในการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง ไม่ให้ป่วย และกลุ่มป่วยสามารถควบคุมโรคได้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อกลุ่มเป้าหมายเกิดความตระหนักทางสุขภาพแล้ว จะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดภาวะการเป็นโรค ชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อน ชุมชนเข้มแข็งด้านสุขภาพ สามารถดูแลสุขภาพกันเองในชุมชนได้

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสริมสร้างทักษะในการจัดการตนเองเพื่อป้องกันโรค

กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสริมสร้างทักษะในการจัดการตนเองเพื่อป้องกันโรค

90.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม

กิจกรรมหลักที่ 1.การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูงรวมทั้งการวางระบบการติดตามร่วมกับ อสม. รายละเอียดค่าใช้จ่าย -ค่าอาหารกลางวัน 51 คน อัตราคน ละ 50 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 2,550 บาท
-ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 51 คน อัตราคน ละ 25 บาท 2 มื้อ จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 2,550 บาท
-ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่ม (บุคลากรของรัฐ) 2 คน อัตราคน ละ 300 บาท จำนวน 3 ชม. เป็นเงิน 1,800 บาท
รวมงบประมาณกิจกรรมที่ 1  เป็นเงิน 6,900  บาท
กิจกรรมหลักที่ 2.การติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูง ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดย อสม.
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
-ค่าอาหารกลางวัน อสม. 11 คน อัตราคน ละ 50 บาท จำนวน 6 วัน เป็นเงิน 3,300 บาท
-ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม อสม. 11 คน อัตราคน ละ 25 บาท 2 มื้อ จำนวน 6 วัน เป็นเงิน 3,300 บาท
-ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูง 40 คน อัตราคน ละ 25 บาท 1 มื้อ จำนวน 6 วัน เป็นเงิน 6,000 บาท
-ค่าพาหนะ อสม. 11 คนๆ ละ 50 บาท จำนวน 6 วัน เป็นเงิน 3,300 บาท
รวมงบประมาณกิจกรรมที่ 2  เป็นเงิน 15,900  บาท
กิจกรรมหลักที่ 3.ติดตามความก้าวหน้าถอดบทเรียนของกิจกรรม ทบทวนปัญหา อุปสรรคในการทำงาน ปรับปรุงแผนงาน
-ค่าอาหารกลางวัน 60 คน อัตรา คนละ 50 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 3,000 บาท
-ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 60 คน อัตรา คนละ 25 บาท 2 มื้อ จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 3,000 บาท
-ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่ม (บุคลากรของรัฐ) 2 คน อัตราคนละ 300 บาท จำนวน 3 ชม. จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 1,800 บาท
รวมงบประมาณกิจกรรมที่ 3    เป็นเงิน 7,800  บาท รวมงบประมาณทั้งหมด  30,600  บาท

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง มีทักษะในการจัดการกับปัจจัยเสี่ยงได้ไม่กลายเป็นผู้ป่วยรายใหม่
2.ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง ได้รับการคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางไตอย่างครอบคลุม
3.เกิดหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เข้มแข็ง มีการดำเนินงานที่เป็นระบบ ต่อเนื่อง มีผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม
4.อบต. มีส่วนร่วมในการส่งเสริม สนับสนุน ทั้งปัจจัยเอื้อและปัจจัยเสริมในหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2564 14:33 น.