โครงการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เพื่อสุขภาพตำบลบูกิต ประจำปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เพื่อสุขภาพตำบลบูกิต ประจำปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-l2479-2-17 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มไฮโดรโปนิกส์ตำบลบูกิต |
วันที่อนุมัติ | 23 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 10,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นาง โนรไลลา โต๊ะเซ็ง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของคนประเทศไทย การปลูกพืชในสมัยก่อนจะใช้วิธีการปลูกพืชในดิน ซึ่งการปลูกพืชในดินก็เป็นวิธีที่นิยมปฏิบัติกันทั่วไป ทั้งนี้เพราะเป็นวิธีที่ง่าย ประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ แต่ก็พบปัญหามากเช่นกัน ซึ่งได้แก่ ปัญหาสภาพอากาศ เช่น ในฤดูแล้ง พื้นดินจะแห้งและขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เป็นอุปสรรคในการเพาะปลูก เพราะการปลูกพืชวิธีนี้ใช้ดินเป็นองค์ประกอบหลัก ความเสี่ยงในผลผลิต สมัยก่อนการเพาะปลูกนั้นจะทำเพื่อบริโภคในครัวเรือน ส่วนที่เหลือก็นำไปแลกเปลี่ยนกับเครื่องอุปโภค บริโภคแทนการใช้เงินซื้อ การเพาะปลูกระบบนี้จึงเป็นการเพาะปลูกแบบพอเพียง จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องศัตรูพืช แต่ปัจจุบันจุดประสงค์ของการปลูกเปลี่ยนมาเป็นเพื่อการค้า และใช้ระบบการปลูกแบบขยายวงกว้างซึ่งมีความยากลำบากในการป้องกันปัญหาจากศัตรูพืช ดังนั้นจึงมีการนำยาฆ่าแมลงเข้ามาใช้ เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มีความสวยงาม และเมื่อนำออกสู่ตลาดจะขายได้ราคาดี แต่การทำเช่นนี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อรับประทานเข้าไปเป็นเวลานาน สารพิษเหล่านี้ก็จะสะสมและตกค้างอยูในร่างกาย ข้อจำกัดของสถานที่ ขึ้นชื่อว่าการปลูกพืชในดินก็จะต้องปลูกในสถานที่ที่เป็นดิน ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เช่น แฟลต หรือ อาคารชุด ไม่สามารถเพาะปลูกได้ จากปัญหาข้างต้นนี้ทำให้มีผู้นำวิธีการปลูกพืชแบบใหม่เข้ามาใช้เพื่อลดปัญหาข้างต้น ซึ่งวิธีการที่ว่านี้ก็คือ “การปลูกพืชแบบไร้ดิน (Soilless Culture)” ไฮโดรโปนิกส์ มีประโยชน์หลักๆ 2 ประการด้วยกัน ประการแรกคือช่วยให้มีสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมได้มากขึ้นสำหรับการเติบโตของพืชแทนที่จะเป็นการใช้ดินอย่างเดิม ทำให้กำจัดตัวแปรที่ไม่ทราบออกไปจากการทดลองได้จำนวนมากประการที่สองก็คือ พืชหลายชนิดจะให้ผลผลิตได้มากในเวลาที่น้อยกว่าเดิม และในบางครั้งก็มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิมด้วย ซึ่งในสภาพแวดล้อมและสภาพการเศรษฐศาสตร์หนึ่งๆการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์จะให้ผลกำไรแก่เกษตรกรมากขึ้น และด้วยการปลูกที่ไม่ใช้ดินจึงทำให้พืชไม่มีโรคที่เกิดในดิน ไม่มีวัชพืช ไม่ต้องจัดการดินและยังสามารถปลูกพืชใกล้กันมากได้ด้วยเหตุนี้พืชจึงให้ผลผลิตในปริมาณที่มากกว่าเดิมขณะที่ใช้พื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีการใช้น้ำน้อยมากเพราะมีการใช้ภาชนะ หรือระบบวนน้ำแบบปิดเพื่อหมุนเวียนน้ำเมื่อเทียบกับการเกษตรแบบเดิมแล้ว นับว่าใช้น้ำเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น ด้วยคุณภาพที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ไฮโดรโปนิกส์มีประโยชน์กับการปลูกพืชที่ไม่ใช่วิธีการแบบเดิมๆ นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ได้เสนอมานานแล้ว ผู้จัดทำโครงการเห็นว่าการปลูกผักแบบไร้ดิน เป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะทำให้การเกษตรของบ้านเราสามารถก้าวไกลไปได้อีก อีกทั้งยังสามรถทำได้โดยไม่ต้องมีพื้นที่ที่กว้างขวางมากนัก และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้สนใจที่จะทำการเกษตรในแนวนี้ ทั้งเป็นการช่วยเหลือผู้ บริโภคในอีกทางหนึ่งด้วย เพราะในปัจจุบัน ผักไฮโดรโปนิกส์เป็นพืชผักที่ปลูกง่ายในด้านผักสลัดและเป็นการปลูกผักที่ประหยัดพื้นที่ ผักไฮโดรโปนิกส์ประเภทผักสลัดนั้นมีประโยชน์มากมายสามารถบริโภคได้ตั้งแต่ เด็กยันผู้สูงอายุ สามารถทานได้เพื่อสุขภาพและเพื่อการบริโภคต่างๆ การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นนวัตกรรมการปลูกผักแบบใหม่ที่เป็นที่น่าสนใจในยุคปัจจุบันและคิดว่าในอนาคตนี้จะเป็นที่นิยมกันมากในสังคม ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานพืชผักที่ปลอดสารพิษกันมาขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาต่อสุขภาพต่อเกษตรกรและผู้บริโภคด้วยด้วยเหตุนี้จึงได้จัดทำโครงการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เพื่อสุขภาพตำบลบูกิต
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อเรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน ร้อยละ 80 ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน |
0.00 | |
2 | เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับข้อจำกัดในการทำเกษตร เช่น การไม่มีพื้นที่ทำกิน ความแห้งสภาพดินไม่สมบูรณ์ ประชาชนสามารถปลูกพืชได้แม้ไม่มีพื้นที่ทำกิน หรือ สภาพดินไม่สมบูรณ์ |
0.00 | |
3 | เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาลดการใช้สารเคมี และ ยาปรับศัตรูพืชซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคพืชผัก ที่ปลอดสารพิษ ร้อยละ 80 ประชาชนไม่นิยมใช้สารเคมี และ ยาปรับศัตรูพืช และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคพืชผักส่วนครัว |
0.00 | |
4 | เพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพในอนาคต ร้อยละ 80 ประชาชนมีความรู้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 10,000.00 | 0 | 0.00 | |
??/??/???? | ประชาสัมพันธ์รับสมัครประชาชนเข้าร่วมโครงการ | 0 | 0.00 | - | ||
??/??/???? | จัดอบรมประชาชนเข้าร่วมโครงการ | 0 | 4,150.00 | - | ||
??/??/???? | จัดทำแปลงปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ | 0 | 5,850.00 | - | ||
??/??/???? | ติดตามการปลูกผัก | 0 | 0.00 | - |
1.ประชาชนมีความรู้และได้รู้จักการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ 2.ประชาชนมีการปลูกผักปลอดสารพิษรับประทานเองในครัวเรือน 3.ประชาชนประหยัดพื้นที่ในการเพาะปลูกสำหรับผู้ที่มีพื้นที่น้อย 4.เกษตรกรและผู้บริโภคสามารถลดปริมาณสารเคมีตกค้างในผัก
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2564 12:11 น.