กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชนไทยยังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะโรคฟันผุเป็นปัญหาที่เด่นชัด ซึ่งเมื่อไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคจะลุกลามและสูญเสียฟันในที่สุด ส่งผลต่อพัฒนาการ สุขภาพ การสบฟัน ตลอดจนการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งจากผลการสำรวจสภาวะช่องปากเด็กอายุ 9 ปี เขตอำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕60 – ๒๕๖2 พบว่ามีฟันผุในฟันแท้ ร้อยละ 30.60 , 17.76 , 38.71 ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าโรคฟันผุกลุ่มวัยนี้ มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งโครงสร้างของอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป การใช้ชีวิตประจำวัน ตลอดจนเด็กช่วงอายุ 6 - 12 ปี ยังมีข้อจำกัดในเรื่องความสามารถในการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตัวเอง จากการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ยังไม่แข็งแรง ประกอบกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งปัจจัยต่างๆของการเกิดโรคฟันผุที่สำคัญ ได้แก่ แผ่นคราบจุลินทรีย์ อาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ลักษณะโครงสร้างของฟัน และเวลา ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ สามารถส่งผลให้เกิดโรคในช่อง จากสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น การดูแลสุขภาพช่องปากจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจดูแลรักษา เพื่อให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งแนวทางการดูแลทันตสุขภาพที่เหมาะสมในเด็กกลุ่มนี้ ควรเน้นไปที่การป้องกันโรคฟันผุ วิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการป้องกันโรคฟันผุคือ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และเมื่อใช้ร่วมกับมาตรการป้องกันต่างๆ ได้แก่ การเคลือบหลุมร่องฟัน และการรักษาทันตกรรมตามความจำเป็นด้วยแล้ว ก็จะสามารถลดอัตราการเกิดโรคฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบได้ รวมทั้งผลจากฟลูออไรด์ในยาสีฟันจะสามารถลดอัตราการเกิดฟันผุได้อีกทางหนึ่งด้วย การป้องกันตั้งแต่เริ่มแรกจึงช่วยลดต้นทุนการรักษา ประหยัดทรัพยากร และประหยัดเวลาได้อีกด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านพูด เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาสุขภาพช่องปาก จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันทันตกรรมในวัยเรียน ในกลุ่มเด็กประถมศึกษา ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุงปี 2564 ขึ้น เพื่อบูรณาการส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปากในกลุ่มเด็กประถมศึกษาให้มีทันตสุขภาพที่ดี ลดการสูญเสียฟันแท้ หรือการลุกลามของโรคในช่องปาก และคงสภาพการใช้งานของฟันและเหงือกให้อยู่ในสภาวะที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต