โครงการสุขภาพดีเริ่มที่วัคซีน ปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการสุขภาพดีเริ่มที่วัคซีน ปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L4119-1-4 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านศรีท่าน้ำ |
วันที่อนุมัติ | 5 เมษายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤศจิกายน 2563 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 14,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางบงกช อาดำ |
พี่เลี้ยงโครงการ | - |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลธารโต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.167,101.187place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 20 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคป้องกันด้วยวัคซีนเป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญในอดีต ในปี พ.ศ.2520 กระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มใช้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคระดับประเทศ ทำให้อุบัติการณ์ของโรคคอตีบลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าอุบัติการณ์ของโรคคอตีบ จะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีต แต่ยังคงพบรายงานการระบาดของโรคคอตีบอยู่เสมอ เช่น บริเวณที่ติดกับชายแดนระหว่างประเทศ บริเวณที่มีความยากลำบากในการดำเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงในประชากรกลุ่มอายุที่คาดว่าจะไม่ได้รับวัคซีนในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มโรค ซึ่งเหตุการณ์การระบาดเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการระบาดขยายวงกว้าง การจัดการเพื่อควบคุมการระบาดให้รวดเร็วที่สุดและเตรียมความพร้อมป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในพื้นที่อื่นจึงมีความจำเป็นอย่างสูง ซึ่งโรคคอตีบเป็นโรคที่พบการระบาดเป็นช่วงๆโดยตั้งเเต่ปี 2520 ผู้ป่วยโรคคอตีบมีจำนวนลดลงจาก2,290 ราย เหลือไม่เกินปีละ 10 ราย ในช่วงระหว่างปี 2548 -2551 แต่หลังจากปี 2552-2554 จำนวนผู้ป่วยกลับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12-77 ราย โดยในช่วงที่มีการระบาดในปี 2555มีผู้ป่วยจำนวน 63 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารรสุขได้ให้วัคซีนเพื่อควบคุมการระบาดของโรคคอตีบในเด็กและผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นผู้ป่วยเริ่มลดลงเหลือ 29 ราย ในปี 2556 ส่วนปีนี้ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ณ วันที่13 มีนาคม 2557 มีผู้ป่วยจำนวน 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย ด้วยสถานการณ์ผู้ป่วยคอตีบที่ไม่แน่นอน และยังมีตัวเลขขึ้นลงตลอด ซึ่งการระบาดในแต่ละครั้งของโรคคอตีบมักจะพบในเด็กที่ยังไม่ได้วัคซีนหรือยังได้วัคซีนไม่ครบ และในกลุ่มคนที่มีประวัติได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับวัคซีนกระตุ้นในเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ทำให้ไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะป้องกันโรคได้โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้เกิดการระบาดของโรคคอตีบ โดยพบมากที่สุดในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและกว่า 5 ปี และในผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 40 ปี จะมีอัตราเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่นซึ่งภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีการเคลื่อนย้ายเข้ามาของแรงงานอพยพจากหลายพื้นที่ทั้งแรงงานต่างด้าวเเละเเรงงานจากภููมิภาคอื่นของประเทศ ทำให้กลุ่มเด็กที่ย้ายตามผู้ปกครองจึงไม่ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนตามเกณฑ์หรือมีบางส่วนไม่ได้รับวัคซีนเลย ในเขตของพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริ่มสุขภาพตำบลบ้านศรีท่าน้ำ อำเภอธารโต จังหวัดยะลา พบว่าเขตพื้นที่อำเภอธารโตได้มีเด็กป่วยด้วยโรคไอกรน 1 ราย และพื้นที่ใก้ลเคียงเช่น บังนังสตา ได้มีเด็กป่วยโรคไอกรน 9 รายเเละโรคคอตีบ 2 ราย ประกอบกับเป็นพื้นที่ชายแดนที่การเข้า ออกของเด็กต่างถิ่นโอกาสที่จะสัมผัสและระบาดได้สูง เเละจากการดำเนินงานพบว่าเด็กที่มีอายุ 1 ปีครึ่ง 5 ปี มีอัตราการรับวัคซีนต่ำ ไม่ครอบคลุมเป้าหมาย และยังพบเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์และน้ำหนักค่อนข้างน้อยมีจำนวนเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการเร่งรัดและกระตุ้นให้ผู้ปกครองมีความตระหนักเห็นความสำคัญ เพื่อให้เด็กได้รับวัคซีนครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายน้ำหนักตามเกณฑ์และพัมนาการสมวัย ลดอัตราการป่วยหรือตายจากโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งกลุ่มเด็กเหล่านี้จะได้โตเป็นผู้ใหญที่มีคุณภาพที่มีความสมบูรณ์ทั้งทวงสติปัญญา ร่างกายที่ดีเเละแข็งเเรงมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานรับวัคซีนครบชุดตามวัย เด็กอายุ 0-5 ปีได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์อายุ ร้อยละ 60 |
0.00 | |
2 | 2.เพื่อส่งเสริมให้ชุมชน องค์กรท้องถิ่นสนับสนุนมีส่วนร่วมการแก้ปัญหาการรับวัคซีนในเด็ก ร้อยละ70 ชุมชน องค์กรท้องถิ่นสนับสนุนมีส่วนร่วมการแก้ปัญหาการรับวัคซีนในเด็ก |
0.00 | |
3 | เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคในเด็กและความรู้ในการดูเเลด้านอาหารตามวัยได้ ร้อยละ 70ผู้ปกครองมีความรู้เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคในเด็กและความรู้ในการดูแลด้านอาหารตามวัยได้ |
0.00 |
1.ร้อยละ 90 เด็ก 0-5 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนครบชุดตามเกณฑ์ 2.ผู้ปกครองมีความรู้ที่ถูกต้องและเกิดความตระหนักในเรื่องวัคซีน 3.เกิดกิจกรรมรณรงค์การรับวัคซีนในพื้นที่ โดยมีอสม.แกนนำ และภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วม 4.สามารถป้องกันและควบคุมโรค จากโรคที่สามารถป้องกันด้วยการรับวัคซีน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2564 12:27 น.