โครงการออกกำลังกายโดยใช้สมาธิบำบัด (SKT) ฯ
ชื่อโครงการ | โครงการออกกำลังกายโดยใช้สมาธิบำบัด (SKT) ฯ |
รหัสโครงการ | 64-L1529-1-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่างิ้ว |
วันที่อนุมัติ | 25 มกราคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 7,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายประยงค์ ขวัญสิริดำรง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลท่างิ้ว อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.845,99.651place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ แต่โรคภัยก็คุกคามมนุษย์มากขึ้นเช่นกัน ภัยสุขภาพที่คุกคามมนุษย์มากที่สุดคือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมผิดปกติ ดังนั้นต้องปรับใจและต้องใช่สมาธิบำบัดเป็นตัวช่วยที่สำคัญ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยอและการแพทย์ทางเลือกได้เล็งเห็นความสำคัญของสมาธิบำบัดและได้ดำเนินโครงการสมาธิบำบัดในระบบสุขภาพอย่างต่อเนื่อง การฝึกสมาธิบำบัดได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก เพื่อนำมาบำบัดโรคต่างๆ ที่ยังเป็นปัญหาในการรักษาของแพทย์ปัจจุบัน การฝึกสมาธิช่วยบำบัดโรคเรื้อรังต่างๆได้ดี ทำให้ผลการรักษาดีขึ้น ใช้ยาน้อยลง หรืองดการใช้ยาได้ โดยหลักการของสมาธิคือการทำจิตใจให้สงบอันจะส่งผลให้การทำงานของร่างกายเป็นไปตามปกติ จากการพัฒนาเทคนิคความเชื่อมโยงของการปฏิบัติสมาธิกับการทำงานของระบบประสาทประกอบกับการวิจัยเรื่องสมาธิเพื่อสร้างเสริมสุขภาพของ รศ.ดร.สมพร กันทรดุษฎี-เตรียมชัยศรี อาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลสาธาณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าการทำสมาธิแบสมถะ หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ นั้นสามารถช่วยให้คลายเครียดได้อย่างดี ซึ่งการฝึกควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 6 อันได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส และการเคลื่อนไหวด้วย จะทำให้การทำสมาธินั้นมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ระบบประสาทส่วนปลาย ระบบประสาทอัตโนมัติ ระบบอารมณ์และพฤติกรรมระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ระบบไหลเวียนเลือด และระบบอื่นๆในร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งการฝึกสมาธิบำบัดนั่นมีทั้งหมด 7 เทคนิค หรือเรียกว่า SKT 1 - 7 ซึ่งสามารถทำให้ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตที่สูงลดลงได้ และจิตใจสงบมากขึ้น สถานการณ์โรคเรื้อรัง NCD ที่เป็นปัญหาของพื้นที่ตำบลท่างิ้ว ปี 2563 พบว่า มีผู้ป่วยความด้นโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ 241 ราย คิดอัตราป่วยต่อแสนประชากร 37.30 จากจำนวนผู้โรคความดันโลหิตสูงจำนวน 646 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการมีพฤติกรรมในการดูแลตนเองไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารเค็ม รับประทานยาไม่ต่อเนื่อง การลืมรับประทานยา ส่งผลให้ระดับความดันโลหิตมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท จนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรงเป็ฯนอันตรายต่อชีวิตได้ จากปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่บุคลากรทางสาธาณสุขต้องให้ความสนใจ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่างิ้ว ตำบลท่างิ้ว อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้ตระหนักถึงปัญหาของการควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง จึงได้จัดทำโครงการออกกำลังกายโดยใช้วิธีสมาธิบำบัด (SKT) กับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงเพื่อที่จะทำให้ความดันโลหิตสูงลดลงได้ และสามารถนำการฝึกอบรมสมาธิบำบัดไปใช้ในครอบครัวเผยแพร่ให้กับคนในชุมชนได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ ได้รับความรู้เกี่ยวกับสมาธิบำบัด SKT 2. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ ได้ฝึกสมาธิบำบัด SKT 3. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ มีระดับความดันโลหิตลดลง 1.ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้รับความรู้เกี่ยวกับสมาธิบำบัด SKT มากกว่าร้อยละ 80 2.ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ได้ฝึกสมาธิบำบัด SKT มากกว่าร้อยละ 90 3.ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง มีระดับความดันโลหิตลดลงจากเดิม มากกว่าร้อยละ 80 |
0.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 |
1.กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสมาธิบำบัด SKT 1) ค่าอาหารว่างผู้เข้ารับการอบรม 25 บาท x 2 มื้อ x 40 คนเป็นเงิน 2,000 บาท 2) ค่าอาหารกลางวันผู้เข้ารับการอบรม 1 มื้อ มื้อละ 70 บาท x 40 คน เป็นเงิน 2,800 บาท 3) ป้ายไวนิลโครงการขนาด 1x3 เมตร จำนวน 1 ป้าย เป็นเงิน 800 บาท รวมเป็นเงิน 6,100 บาท
- ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเป็นแกนนำและถ่ายทอดการฝึกสมาธิบำบัด SKT ได้
- อัตราการควบคุมระดับความดันโลหิตสูงที่ควบคุมระดับความดันโลหิตได้เพิ่มขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2564 14:07 น.