โครงการชุมชนร่วมใจ ป้องกันภัยโรคติดต่อ ปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการชุมชนร่วมใจ ป้องกันภัยโรคติดต่อ ปี 2564 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทัพหลวง |
วันที่อนุมัติ | 28 เมษายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 1 ตุลาคม 2564 |
งบประมาณ | 43,873.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอรรถพล แก้วกับทอง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคูหา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.61,100.833place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไข้เลือดออก และ โรคไข้มาลาเรีย นับเป็นปัญหาสาธารณสุขไทยตลอดมา เพราะเป็นโรคติดต่อที่สร้างความสูญเสียชีวิตและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและความความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งที่ทุกฝ่ายได้ช่วยกันรณรงค์ป้องกันและควบคุมมาโดยตลอด และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ตลอดจนภาคประชาชน พบว่าปัญหาของโรคไม่ได้ลดลงมากนัก ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในระดับประเทศเรื่อยมา
โดยเขตพื้นที่รับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทัพหลวง ประกอบด้วยหมู่ที่ ๑,๗ และ ๘ พบว่าสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออก และ โรคไข้มาลาเรียในปี เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออก และ โรคไข้มาลาเรียมาอย่างต่อเนื่อง โดยพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ในปี ๒๕๖๓ จำนวน ๔ ราย อัตราป่วย ๓๕.๕๓ ต่อแสนประชากร จากปี ๒๕๖๒ พบจำนวน ๖ ราย อัตราป่วย ๕๓.๒๙ ต่อแสนประชากร และไม่พบผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย ในปี ๒๕๖๓ จากในปี ๒๕๖๒ ที่พบ ๙ ราย (ที่มา : จากรายงานการระบาดอำเภอสะบ้าย้อย) ไม่มีผู้ป่วยตายในพื้นที่ตำบลคูหา ผลที่ออกมาถือว่าอัตราป่วยยังไม่เกินเกณฑ์ค่ามาตรฐานที่กำหนดคือ ไม่เกิน ๕๐ ต่อ แสนประชากร ซึ่งหมายถึงเราสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้สำเร็จอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้เป็นผลจากการดำเนินโครงการชุมชนร่วมใจป้องกันภัยโรคติดต่อ ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทัพหลวง โดยได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลคูหา ต่อเนื่องทุกปี
ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อดังกล่าวที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดในการแก้ไขปัญหา จากการตั้งรับไปสู่นโยบายเชิงรุกโดยใช้ยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมให้คนในชุมชนได้ตระหนักถึงสภาพปัญหาของโรคติดต่อ เกิดความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนของตนเอง พร้อมทั้งหาวิธีการแก้ไข ซึ่งปัญหาของโรคฯ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรค จึงต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโรคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญและถือเป็นภารกิจที่ต้องช่วยกัน กระตุ้นและชักนำให้ประชาชน องค์กรชุมชน ตลอดจนเครือข่ายสุขภาพให้มีส่วนร่วมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ
ปัจจุบันในเขตพื้นที่รับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทัพหลวง พบว่าสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออก และ โรคไข้มาลาเรีย มีแนวโน้มและทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็ยังพบผู้ป่วยเกิดขึ้นทุกปี ซึ่งจำเป็นต้องทำการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุม เพื่อให้สถานการณ์ของโรคกลับอยู่ในสภาวะที่ไม่รุนแรงและเป็นการป้องกันอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทัพหลวง ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลคูหา ในนามกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลคูหา จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อควบคุมและป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคไข้มาลาเรีย ตลอดจนโรคอุบัติการณ์ซ้ำ และ โรคอุบัติการณ์ใหม่ ที่ทันท่วงที
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อลดจำนวนและอัตราป่วย ป้องกันอัตราป่วยตายด้วยโรคไข้เลือดออก โรคไข้มาลาเรีย โรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำในชุมชน
|
0.00 | |
2 | เพื่อเป็นการควบคุมลูกน้าและยุงลายในชุมชน แบบบูรณาการ มีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายตามเกณฑ์กำหนด
|
0.00 | |
3 | เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหาและควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคไข้มาลาเรียที่ต่อเนื่องเข้มแข็งและยั่งยืน
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 43,873.00 | 0 | 0.00 | |
22 มิ.ย. 64 | รณรงค์และทำลายแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงพาหะในหมู่บ้าน | 0 | 43,873.00 | - |
๑.ประชุมชี้แจงคืนข้อมูล จัดเวทีประชาคมโดยทีมงานเครือข่ายจัดการสุขภาพในชุมชน
๒. ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดทำโครงการฯ
๓. เขียนโครงการเพื่อเสนอคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลคูหา เพื่อขออนุมัติเงินสนับสนุนโครงการ
๔. ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรคฯ และขอความร่วมมือให้ประชาชนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์และกำจัดลูกน้ำยุงลายทุกวันศุกร์ ผ่านสื่อต่างๆ เช่น อสม. ผู้นำ เสียงตามสายในหมู่บ้าน อย่างต่อเนื่อง
๕. รณรงค์และทำลายแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงพาหะในหมู่บ้าน โรงเรียน โดย รพ.สต.ทัพหลวงร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ผู้นำฝ่ายต่างๆ แกนนำประจำครอบครัว และ ทีมควบคุมโรคเคลื่อนที่เร็วโดยวิธี
ทางกายภาพ รณรงค์เคาะประตูบ้านในชุมชนร่วมโรงเรียน พร้อมร่วมกันดำเนินการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงพาหะ ในชุมชนและโรงเรียน
ทางชีวภาพ ส่งเสริมความรู้ให้แกนนำประจำครอบครัวในชุมชนเกี่ยวการปลูกพืชไล่ยุง เช่นตะไคร้หอมไล่ยุง การเลี้ยงปลากินลูกน้ำ เช่น ปลาหางนกยูง
ใช้สารเคมี - ช่วงสถานการณ์ปกติเพื่อเฝ้าระวังป้องกัน โดยการใส่สารเคมีทรายกำจัดลูกน้ำยุงลายในตุ่มน้ำใช้ในครัวเรือน และโรงเรียน และพ่นหมอกควัน จำนวน ๒ ครั้ง ทุก ๗ วัน
๖.การควบคุมการระบาด ช่วงเกิดโรค ทั้งพื้นที่เสี่ยงและพื้นมีการระบาด โดยการแจก สเปรย์ ๒กระป๋องในบ้านที่พบผู้ป่วยเพื่อใช้พ่นกำจัดยุงตัวแก่ในบ้านวันละ๒ครั้ง ติดต่อ ๓วัน กรณีพบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่ละแวกบ้านที่พบผู้ป่วยรายแรกในห้วงระยะเวลา ๗ วัน แสดงว่ามีการระบาดต้องดำเนินการควบคุมโรคโดยการพ่นหมอกควันบ้านผู้ป่วยและทุกบ้านที่อยู่ใกล้บ้านผู้ป่วยรัศมี ๑๐๐เมตร ติดต่อกันจำนวน ๔ ครั้ง ทุก ๗ วันร่วมกับการจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และ ดำเนินการพ่นละอองฝอย(ULV) เพื่อทำลายยุงตัวแก่ จำนวน 4 ครั้ง ห่างกัน 1 สัปดาห์ ในกรณีมีการระบาดของโรคมาลาเรีย (ขอใช้งบกรณีเกิดภัยพิบัติ โรคระบาด สถานการณ์ฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วน ของ อบต.คูหา)
๗. แกนนำประจำครอบครัวสำรวจลูกน้ำยุงลายด้วยตัวเองทุกสัปดาห์ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขในเขตรับผิดชอบ
๘.แจกมุ้งชุบน้ำยาป้องกันยุงพาหะให้ทุกครอบครัวที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้มาลาเรีย(ศคร.ที่๑๒.๒สงขลา)
๙. เจาะเลือดเพื่อตรวจคัดกรองผู้ที่สงสัย/สัมผัสกับผู้ป่วย หรือ อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมีการระบาดของโรคไข้มาลาเรีย เพื่อสกัดกั้นการระบาดและแพร่เชื้ออย่างทันท่วงที โดย อาสาสมัครมาลาเรียในพื้นที่(MP)
๑๐. ดำเนินการพ่นเคมีฤทธิ์ตกค้าง(เดลต้า วิธทริน)ที่บ้าน เพื่อทำลายยุงตัวแก่ ป้องกันโรคมาลาเรีย จำนวน 2 ครั้ง ห่างกัน 6 เดือน (โดยศคร.ที่ ๑๒.๒ สงขลา)
๑๑.ติดตาม ประเมินการดำเนินกิจกรรม สรุปผลรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๑. อัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก และ โรคไข้มาลาเรีย ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ เมื่อเทียบกับค่ามัธยฐานย้อนหลังของ ๕ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๓ ) ๒. ไม่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าว รวมทั้งโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ หรือ สามารถควบคุมอัตราป่วยไม่ให้เกินเกณฑ์ที่กำหนด คือ ๕๐ ต่อ แสนประชากร ๓. สถานบริการ โรงเรียน วัด มัสยิด ครัวเรือน ปลอดลูกน้ำยุงลาย (สุ่มประเมินผล HI CI ) - รพ.สต./รร. ค่า CI = ๐ ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ - ศาสนสถาน ค่า CI ไม่เกินร้อยละ ๕ - ชุมชน ค่า HI ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ๔. ทีมภาคีเครือข่าย มีศักยภาพ และความเข้มแข็งของระบบเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2564 09:44 น.