กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

สถานการณ์ภายในประเทศ การแพร่ระบาดของการติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศไทยพบจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 7,663 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมจำนวนรวม 1,995,890 ราย หายป่วยสะสม 1,883,083ราย และเสียชีวิตสะสม 20,081 ราย ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 การระบาดระลอกใหม่นี้มีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก และพบผู้ป่วยในหลายพื้นที่ ตลอดจนมีรายงานการติดต่อระหว่างคนสู่คนภายในประเทศ จึงเป็นเหตุผลสำคัญให้ทางองค์การอนามัยโลกได้ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก    จากสถานการณ์การระบาดรอบใหม่ของประเทศไทย ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ประกาศยกระดับตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่ วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปอย่างต่อเนื่องเป็นระยะนั้นโดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด- 19 ที่มีการกลายพันธุ์เป็นหลายสายพันธุ์ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเสี่ยงที่จะเกิดภาวะวิกฤติด้านสำธารณสุข
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ของจังหวัดตรังพบว่า มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้จำนวนผู้ป่วยในพื้นที่มีจำนวนมากโรงพยาบาลที่มีอยู่ในพื้นที่หรือโรงพยาบาลสนามที่จัดตั้งขึ้น ไม่สามารถที่จะรองรับจำนวนผู้ป่วยดังกล่าวได้ ทำให้มีผู้ป่วยที่รอรับการส่งตัวไปรักษาตัวต่อต้องรอเตียงอยู่ที่บ้านส่งผลให้คนใกล้ชิดต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อต่อ ๆ กันไป และอาจขยายเข้าสู่ชุมชนในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการที่สำคัญในการควบคุมโรค โดยมีการค้นหาผู้ติดเชื้อ ดูแลรักษา แยกกัก การกักตัวดูแลรักษาที่บ้าน การจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อเตรียมตัวรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (โควิด-19)ในพื้นที่ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม โดยบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชนในการแก้ปัญหา โดยอำเภอได้รับแจ้งจากจังหวัดว่า กระทรวงมหาดไทย ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 50 (4) บัญญัติให้เทศบาลตำบลมีหน้าที่ในการป้องกันและระงับโรคติดต่อ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 67 (3) บัญญัติให้องค์การบริหารส่วนตำบลมีหน้าที่ในการป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ ประกอบกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มาตรา 16 (19) เทศบาลและองค์การบริการส่วนตำบลมีอำนาจในหน้าที่การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล ดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงมีอำนาจหน้าที่ในการป้องกัน บำบัดโรคและระงับโรคติดต่อ จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรัง ครั้งที่ 24/2564 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่ละอำเภอจัดตั้งศูนย์พักคอย (Community Isolation) อย่างน้อย อำเภอละ 1 แห่ง ดังนั้น การพัฒนาระบบศูนย์พักคอยเตียงเพื่อรอการส่งตัวไปรักษาต่อหรือดูแลผู้ป่วยโควิดแก่คนในชุมชนด้วยการจัดตั้งศูนย์พักคอย (Community Isolation) จึงเป็นทางออกเพื่อการรับมือสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่เป็นอย่างดี ประกอบกับคำสั่งจังหวัดตรัง ที่ ตง 0023.3/ว 4981 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางการดำเนินงานและการใช้จ่ายในการดำเนินศูนย์พักคอยและการแยกกักตัวที่บ้าน (Community Isolation และ Home Isolation) และคำสั่งที่ ตง 0023.14/ว1055 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 เรื่อง โครงการจัดตั้งศูนย์พักคอย (Community Isolation) โดยให้มีการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน/ศูนย์พักคอย (Community Isolation) ในแต่ละอำเภอ ซึ่งเกิดจาการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน อันจะนำปสู่การแก้ปัญหาเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ในพื้นที่ได้ทันท่วงที ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ สำหรับในส่วนของตำบลนาเมืองเพชรนั้น ได้กำหนดให้จัดตั้งศูนย์พักคอยระยะที่ 2 ในระดับอำเภอสิเกา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลไม้ฝาด เพื่อเตรียมรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยโควิค-19 ที่ได้รับการยืนยัน ที่จัดเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว  /กลุ่มเหลือง ดังนั้น เพื่อเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคดังกล่าวไม่ให้ขยายวงระบาดสู่ชุมชน เทศบาลตำบล  นาเมืองเพชร จึงจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์พักคอยเตียงระยะที่ 2 ในระดับอำเภอสิเกา (Community) ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อรับมือสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เป็นสถานที่สำหรับรับผู้ติดเชื้อหรือผู้ติดเชื้อที่อาการไม่หนักมากจนต้องเข้าโรงพยาบาล