โครงการอบรมเชิงปฎิบัติการการพัฒนาศักยภาพครูและแกนนำสุขภาพในการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kite (ATK) ด้วยตนเอง
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมเชิงปฎิบัติการการพัฒนาศักยภาพครูและแกนนำสุขภาพในการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kite (ATK) ด้วยตนเอง |
รหัสโครงการ | 65-L2477-1-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลผดุงมาตร |
วันที่อนุมัติ | 3 มีนาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 18,930.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางรุสยานี ดอสะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลผดุงมาตร อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 18 มี.ค. 2565 | 18 มี.ค. 2565 | 18,930.00 | |||
รวมงบประมาณ | 18,930.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 88 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | พัฒนาศักยภาพครูและแกนนำสุขภาพ ในการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kite (ATK) ด้วยตนเอง | 88.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ตามที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 และตามมติคณะรัฐมนตรีได้ขยาย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปถึง 30 กันยายน 2564 และในปี2564 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ที่ 11/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกาศระบุว่า ตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 13 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 นั้น สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ทวีความรุ่นแรงมากยิ่งขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดถึง 29 จังหวัด เนื่องจากมีการติดเชื้อแบบกลุ่มใหม่ๆ ในการระบาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระบบสาธารณสุขที่ให้บริการรักษาเข้าสู่ภาวะวิกฤตในการให้การดูแลผู้ป่วย ทั้งขาดแคลนอุปกรณ์ที่จำเป็นบุคลากรและสถานที่ ที่ให้การรักษามีอัตราครองเตียงสูงมากยิ่งขึ้น มีผลกระทบขยายวงกว้างไปยังทุกจังหวัดในประเทศ ซึ่งจังหวัดนราธิวาสอยู่ในพื้นที่ควบคุม อีกทั้งยังมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเป็นการร่วมมือหยุดการแพร่ระบาด เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาเชิงรุกและการป้องกันไม่ให้เกิดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งมาจากการปฏิบัติตนไม่ถูกต้องของบุคคลทั่วไปและผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ โดยมีภาวะโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูงใน 7 กลุ่มโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง และโรคทางเดินหายใจ กลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาดเสี่ยงสูง หรือผู้สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย ตามนิยามผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูงของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องกำหนดมาตรการควบคุมป้องกัน ตามหลัก New Normal หรือ DMHTT อย่างเข้มงวดเพียงพอต่อการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ และมีนโยบายให้โรงเรียนเปิดเรียนแบบ on-site โดยต้องทำเป็นพื้นที่ปลอดโควิด หรือ Covid free setting มีกิจกรรมให้ครู และนักเรียนฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ครบถ้วน มีการสุ่มตรวจนักเรียนที่มาเรียน on-site ด้วยชุดตรวจ ATK เพื่อเป็นการดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันการแพร่ระบาดของติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อให้ครูและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีความความรู้และทักษะการตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โดยการใช้ชุดตรวจ ATK ที่ถูกต้อง เพื่อเป็นแกนนำในการตรวจหาเชื้อภายในชุมชนและโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลผดุงมาตร จึงได้จัดทำโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพครูและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kite (ATK) ด้วยตนเอง ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ครู และแกนนำสุขภาพ มีความรู้ความสามารถและมีทักษะในการใช้ชุดตรวจ ATK อย่างถูกต้อง ครู และแกนนำสุขภาพ มีความรู้ความสามารถและมีทักษะในการใช้ชุดตรวจ ATK อย่างถูกต้อง ร้อยละ100 |
100.00 | 100.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : เพื่อให้ครู และแกนนำสุขภาพ มีความรู้ความสามารถและมีทักษะในการใช้ชุดตรวจ ATK อย่างถูกต้อง |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
ไม่ระบุวัตถุประสงค์ |
||||||
1 พ.ค. 65 - 30 มิ.ย. 65 | จัดอบรมภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ แก่ครูและแกนนำสุขภาพ | 18,930.00 | ✔ | - | ||
1 พ.ค. 65 - 30 ก.ย. 65 | ตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | 0.00 | ✔ | - |
หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้
ครู และแกนนำสุขภาพ มีความรู้ความสามารถในการใช้ชุดตรวจ ATK ได้อย่างถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2565 00:00 น.