กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

คุณภาพของเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่สะท้อนสภาพสังคมในปัจจุบันและโอกาสในการพัฒนาของประเทศในอนาคต เพราะฉะนั้นการพัฒนาคุณภาพเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ เด็กจะเติบโตมาเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพนั้นประกอบด้วยปัจจัยหลายประการ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยหากเด็กได้รับการเลี้ยงดูให้มีพัฒนาการตามวัย จะช่วยให้เด็กสามารถเรียนรู้และปรับตัวต่อสิ่งต่างๆ ได้ดี ตลอดจนสามารถพัฒนาตัวเองและสังคมได้ตามศักยภาพสูงสุด การที่เด็กจะมีพัฒนาการตามวัยนั้น มิใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เองแต่เป็นสิ่งที่พ่อ แม่ ผู้ดูแลเด็กจะต้องให้ความสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการลูก จากการสำรวจพบว่าเด็กไทยยังขาดการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย จะเห็นได้จาการสำรวจพัฒนาการเด็กปฐมวัยของกรมอนามัยทุก 3 ปี ในปี 2542 – 2558 พบว่าเด็กมีพัฒนาการล่าช้ามีแนวโน้มสูงขึ้น กระทรวงสาธารณะสุขโดยกรมอนามัยและกรมสุขภาพจิตได้ร่วมกันพัฒนา การให้บริการในคลินิกสุขภาพเด็กดี (Well child clinic) เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับคัดกรองและส่งเสริมพัฒนาการจากการดำเนินงานพบว่า พ่อ แม่ ผู้ดูแลเด็กซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ยังขาดความตระหนักและขาดความรู้ในการเลี้ยงดูเด็กอย่างเหมาะสม พ่อ แม่ และผู้เลี้ยงดูเด็กขาดความรู้ ทักษะในการเลี้ยงดูเด็กที่ถูกต้อง (สำนักส่งเสริมสุขภาพ,2556) นอกจากนี้จากสำรวจของสำนักงานสถิติ ยังพบว่าพ่อ แม่ ผู้ดูแลเด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนของลูกเพียงร้อยละ 20 เด็กที่มีหนังสือสำหรับเด็กอย่างน้อย 3 เล่มในบ้าน มีเพียงร้อยละ 43 (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2555) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อพัฒนาการของเด็ก ทำให้เด็กไทยจำนวนมากมีพัฒนาการต่ำกว่าที่ควรจะเป็นตามศักยภาพ การสร้างความตระหนักแก่ พ่อ แม่และผู้เลี้ยงดูในเรื่องการเลี้ยงดูที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการตามวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน จากการจัดการเรียนการสอนภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจังหวัดชายแดนใต้ ได้มีการบันทึกและประเมินพัฒนาการทั้ง 4 ด้านของเด็กปฐมวัยพบว่า เด็กร้อยละ 50 จากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลสะนอ ของจำนวนเด็กทั้งหมดมีพัฒนาการทางด้านสติปัญญาล่าช้า ทำให้เด็กมีพัฒนาการไม่สมวัย ทำกิจกรรมหลักในแต่ละวันอย่างล่าช้า ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ยาก ขาดสมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ นอกจากนี้พบว่าผู้ปกครองเด็ก กว่าร้อยละ 70 ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการประเมินพัฒนาการและการกระตุ้นพัฒนาการเด็กในด้านต่าง ๆ ดังนั้น กองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลสะนอ เล็งเห็นความสำคัญในการให้ความรู้เรื่องการส่งเสริมพัฒนาการเด็กแก่พ่อ แม่และผู้เลี้ยงดู จึงจัดทำกิจกรรมเสริมสร้างด้านสติปัญญาการเรียนรู้แบ BBL โดยจัดทำสื่อการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง (BBL) ภายใต้โครงการ “สิทธิของหนูเลี้ยงดูอย่างเข้าใจ ประจำปี 2560” ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ปกครองในเรื่องการเสริมสร้าง IQ สำหรับเด็กปฐมวัย พัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย และเพื่อการพัฒนาศักยภาพของสมองและการรู้คิดของเด็กไทยอันเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต