โครงการคลองหรังร่วมใจ ทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีห่างไกลโรค
ชื่อโครงการ | โครงการคลองหรังร่วมใจ ทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีห่างไกลโรค |
รหัสโครงการ | 65-L5205-01-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองหรัง |
วันที่อนุมัติ | 5 เมษายน 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 7 เมษายน 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2565 |
งบประมาณ | 8,320.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสุวดี จันกระจ่าง |
พี่เลี้ยงโครงการ | น.ส.ดวงดาว อุปสิทธิ์ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคลองหรัง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.924,100.591place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่นา 2019 (COVID-19) ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562โดยพบครั้งแรกในนครอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาคกลางของประเทศจีน กว่า 19 ล้านคน วันที่ 30 ธันวาคม 2562 สำนักงานสาธารณสุขเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ได้ออกประกาศเป็นทางการ พบโรคปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับตลาดอาหารทะเลที่เมืองอู่ฮั่น โดยสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดในการติดต่อสู่คน คือการสัมผัสกับเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆที่วางขายในตลาด และเนื่องจากเมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น จึงทำให้การระบาดแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว มีผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่นา 2019 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่๑๒ มกราคม ๒๕๖๓ ภายในเวลา ๒ สัปดาห์และเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2563 ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยชาวไทยรายแรก อาชีพขับรถแท็กซี่ ซึ่งไม่เคยมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ แต่มีประวัติขับรถแท็กซี่ให้บริการกับผู้ป่วยชาวจีน ในระยะต่อมาจำนวนผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2563 กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโร่นา 2019 หรือ COVID -19เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย ในระยะต่อมาได้พบการแพร่ระบาดใหญ่ โดยเป็นการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) จนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม พ.ศ 2563 เป็นต้นมา จากสถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขยังคงเน้นย้ำในแถลงการณ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันตนเองเพื่อชะลอการระบาดของ โควิด-19 โดยใช้มาตรการ DMHTT คือ อยู่ห่างไว้ (Distancing: D) ใส่มาสก์กัน (Mask Wearing: M) หมั่นล้างมือ (Hand Washing: H) ตรวจให้ไว (Testing: T) และใช้ไทยชนะ (Thai Cha na: T) โดยมาตรการหนึ่งที่สำคัญเน้นย้ำ คือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพื่อป้องกันการสัมผัสและลดการฟุ้งกระจายของละอองฝอยจากการพูด ไอ จาม ทั้งนี้ หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วจัดได้ว่าเป็นขยะติดเชื้อ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วปนเปื้อนด้วยเสมหะ น้ำลาย น้ำมูกของบุคคลผู้ใช้ และอาจยังปนเปื้อนเชื้อโรคจากบุคคลที่ป่วย หรือผู้เป็นพาหะนำโรคได้ ถ้าหากหน้ากากอนามัยเหล่านี้ไม่ได้รับการคัดแยกอย่างถูกวิธี ถูกทิ้งปะปนกับขยะชุมชน จะส่งผลให้พนักงานที่ทำหน้าที่เก็บขนขยะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อโควิด 19 และเมื่อขยะถูกนำไปกำจัดด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง เช่น เทกองกลางแจ้ง ก็อาจเพิ่มโอกาสที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายไปยังคนในชุมชนทั้งทางน้ำและทางอากาศ นอกจากหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงานเก็บขยะและคนในชุมชนแล้ว ปริมาณขยะหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่จัดการไม่ถูกต้องยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากหน้ากากอนามัยมีองค์ประกอบที่ผลิตจากวัสดุที่ ย่อยสลายยาก เช่น โพลีโพรไพลีน (Polypropylene : PP) ซึ่งเป็นพลาสติก ชนิดหนึ่งที่นำมาขึ้นรูปให้เป็นเส้นใยสังเคราะห์แล้วทอให้เป็นแผ่น รวม ไปถึงลวดสำหรับปรับให้เข้ากับโครงจมูกก็ทำมาจากแผ่นพลาสติกขนาดเล็ก หรือลวดโลหะอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของหน้ากากอนามัย ดังนั้น มาตรการที่สำคัญในการจัดการขยะติดเชื้อ ควรเน้นการจัดการขยะที่ต้นทาง คือ การสร้างความตระหนักและให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธี โดยประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนว่าสามารถทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธีได้อย่างไร รวมทั้งประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมืออย่างจริงจังให้ประชาชนคัดแยกและทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี โดยแนะนำให้ประชาชนนำหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว พับบรรจุใส่ถุงที่ปิดสนิท มัดปากถุงให้แน่น พร้อมและเขียนหรือติดหน้าถุงว่า “หน้ากากอนามัย” เพื่อให้รถเก็บขนขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเก็บไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป จากความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดโครงการ“คลองหรังร่วมใจ ทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีห่างไกลจากโรค” ขึ้นเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากขยะติดเชื้อประเภทหน้ากากอนามัย และลดโอกาสที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายไปยังคนในชุมชน ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงานเก็บขยะ รวมทั้งลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1 เพื่อให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19และการจัดการขยะติดเชื้อประเภทหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี แบบทดสอบก่อน/หลัง ให้ความรู้ |
50.00 | |
2 | ข้อที่ 2 เพื่อสร้างเสริมพฤติกรรมการจัดการขยะติดเชื้อประเภท หน้ากากอนามัยที่เหมาะสม การปฏิบัติวิธีการสวมหน้ากากอนามัยและวิธีคัดแยกขยะติดเชื้อที่ถูกต้อง |
50.00 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | เม.ย. 65 | พ.ค. 65 | มิ.ย. 65 | ก.ค. 65 | ส.ค. 65 | ก.ย. 65 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | คลองหรังร่วมใจ ทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีห่างไกลจากโรค(7 เม.ย. 2565-30 ก.ย. 2565) | 8,320.00 | ||||||
รวม | 8,320.00 |
1 คลองหรังร่วมใจ ทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีห่างไกลจากโรค | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 150 | 8,320.00 | 0 | 0.00 | |
7 - 30 เม.ย. 65 | ประชุมชี้แจงคณะทำงาน | 0 | 500.00 | - | ||
7 - 30 เม.ย. 65 | ลงทะเบียน/คัดกรองตามมาตราการ COVID-19 | 0 | 360.00 | - | ||
7 - 30 เม.ย. 65 | กิจกรรมละลายพฤติกรรม | 50 | 450.00 | - | ||
7 - 30 เม.ย. 65 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องโรคโควิด - 19 | 50 | 1,970.00 | - | ||
1 - 31 พ.ค. 65 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องขยะติดเชื้อ/เรื่องหน้ากากอนามัย | 50 | 5,040.00 | - | ||
1 มิ.ย. 65 - 30 ก.ย. 65 | ติดตามผู้เข้าร่วมอบรม | 0 | 0.00 | - | ||
- หลังการอบรมผู้เข้าอบรมมีความรู้เพิ่มมากขึ้น
- หลังการอบรม ผู้เข้าร่วมมีพฤติกรรมการทิ้งหน้ากากอนามัยและคัดแยกขยะติดเชื้อที่ถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 08:57 น.