โครงการลดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | โครงการลดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | 2561-L3351-01-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านทุ่งยาว |
วันที่อนุมัติ | 14 กันยายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 20 มกราคม 2561 - 30 มิถุนายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 กรกฎาคม 2561 |
งบประมาณ | 4,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายเอนก กลิ่นรส |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางลัญฉนาคงสุวรรณ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.615,100.003place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 20 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในสถานการณ์การเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีความชุกค่อนข้างสูงและนำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนที่เรื้อรังและรุนแรงได้เช่นภาวะหลอดเลือดตีบแข็งความดันโลหิตสูงจอประสาทตาเสื่อมไตวายโรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือดร่วมกับเป็นแผลเรื้อรังติดเชื้อได้ง่ายซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดความพิการหลายประการได้แก่ตาบอด หรือถูกตัดขาซึ่งปัญหาภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมา เช่นทางด้านร่างกายจิตใจอารมณ์สังคมรวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัวทำให้ญาติผู้เกี่ยวข้องต้องแบกภาระในการติดตามดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนอย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิตของผู้ป่วยทำให้เกิดการขาดรายได้ในการประกอบอาชีพเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวซึ่งหากผู้ป่วยและครอบครัวไม่มีความเข้าใจในโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่ผู้ป่วยกำลังเชิญอยู่ร่วมกับให้การดูแลผู้ป่วยไม่ถูกต้องปัญหาต่างๆดังกล่าวรวมถึงภาวะแทรกซ้อนก็อาจเกิดขึ้นได้ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมภาวะแทรกให้อยู่ในภาวะปกติได้ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาที่เรื้อรังต่อไป จากสภาพพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งยาวรับผิดชอบ ๓ หมู่บ้านประชาการ๒,๖๒๙ คนความชุกของผู้ป่วยโรคเบาหวานปี๒๕๖๐เป็น ๕.๑๗อัตราการเป็นผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ร้อยละ ๐.๖๓ซึ่งสูงขึ้นเรื่อยๆมีผู้ป่วยแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานจำนวน๕ รายส่วนโรคความดันโลหิตสูงความชุกของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงปี๒๕๕๙เป็น ๘.๑๗อัตราการเป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่ร้อยละ ๒.๖๘ซึ่งสูงขึ้นเรื่อยๆมีผู้ป่วยแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงคัดเลือกมาจำนวน๕ รายซึ่งสาเหตุการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากระหว่างที่ผู้ป่วยยังเป็นผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้มีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพตนเองขณะเป็นโรคไมถูกต้องและขาดความตระหนักในการดูแลตนเองเมื่อมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นกับผู้ป่วยจึงไม่สามารถแก้ไขให้อยู่ในสภาวะปกติได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านสาธารณสุขต่างๆ ในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งยาวจึงเห็นว่าการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มีภาวะแทรกซ้อนโดยคิดหาวิธีการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลร่วมรับรู้ในการแก้ไขปัญหาร่วมกันในเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้านต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งใช้วิธีให้ผู้ป่วยและญาติเข้ามามีส่วนร่วมดูแลให้ผู้ป่วยเกิดความตระหนักในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องและมีความต่อเนื่องโดยมีกิจกรรมการออกกำลังกายการรับประทานอาหารการตรวจเลือดสม่ำเสมอให้ผู้ป่วยและญาติเกิดการเรียนรู้อย่างเข้าใจอยากทำทำได้ซึ่งการออกกำลังกายจะเป็นการช่วยกระตุ้นการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลเนื้อเยื่อมากขึ้นและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงและการทำให้ระดับความเครียดลดลงจะช่วยให้ระดับน้ำตาลไม่เพิ่มขึ้นร่วมกับการนำสมุนไพรที่มีรสฝาดเปรี้ยวและเค็มมาต้มและทำให้ร้อนหรืออุ่นพอดีโดยนำมาแช่มือแช่เท้าจะช่วยให้มีการกระตุ้นการไหลเวียนและการทำงานของระบบประสาทส่วนปลายให้ดีขึ้นทุเลาอาการชาปลายมือปลายเท้าลงและให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลซึ่งเริ่มจากการสร้างความตระหนักให้กับผู้ป่วยร่วมกับญาติและฝึกทักษะกิจกรรมในการดูแลตนเองเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้ป่วยเบาหวานในรายอื่นๆต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเบาหวานให้ถูกต้องและมีความเหมาะสมกับโรค ร่วมกับป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงให้กับผู้ป่วยเบาหวานโดยให้ญาติผู้ดูแลมีส่วนร่วม อัตราผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับ HbA1c น้อยกว่า 7 % เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 |
||
2 | เพื่อพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงในแบบวิถีไทในท้องถิ่น มาประยุกต์กับผู้ป่วย รูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงในแบบวิถีไทในท้องถิ่นมาประยุกต์กับผู้ป่วย |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 4,000.00 | 1 | 4,000.00 | |
23 ก.พ. 61 | อบรมให้ความรู้ | 0 | 4,000.00 | ✔ | 4,000.00 |
- ผู้ป่วยและญาติสำรวจพฤติกรรมตนเองในเรื่องปฏิบัติตัวดูแลตนเองในแต่ละวันขณะอยู่บ้านเช่น ในเรื่องการรับประทานอาหารการออกกำลังกายสภาพจิตใจความเครียดในแต่ละวันพร้อมทั้งจดบันทึกกิจกรรมในแต่ละวันเป็นเวลา ๑ สัปดาห์
- ฝึกให้ผู้ป่วยและญาติวิเคราะห์อาหารและผักพื้นบ้านที่มีอยู่ในละแวกบ้านและเหมาะสมกับโรคเบาหวานนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้ป่วยและสอนวิธีการจัดเตรียมอาหารผักพื้นบ้านรวมทั้งวิธีการปรุงอาหารี่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานให้แก่ผู้ป่วยและญาติ
- ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่มีภาวะแทรกซ้อนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
- ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถให้การดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อเนื่อง
- สามารถนำรูปแบบกิจกรรมการดูแลผู้ป่วยเบาหวานแบบวิถีไทมาใช้กับผู้ป่วยเบาหวานได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2560 15:34 น.