โครงการบริบาลมารดาหลังคลอดเชิงรุกในชุมชนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย รพ.สต.คูหาใต้
ชื่อโครงการ | โครงการบริบาลมารดาหลังคลอดเชิงรุกในชุมชนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย รพ.สต.คูหาใต้ |
รหัสโครงการ | 65-L8402-01-16 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคูหาใต้ |
วันที่อนุมัติ | 2 ธันวาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2564 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 16,870.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางอรวรรณ บุญเรือง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.173,100.263place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 2 ส.ค. 2565 | 2 ส.ค. 2565 | 16,870.00 | |||
รวมงบประมาณ | 16,870.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 20 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การดูแลสุขภาพหญิงหลังคลอดด้วยการแพทย์แผนไทย หมายถึง การส่งเสริม การฟื้นฟู การป้องกันและการรักษาสุขภาพของหญิงในระยะหลังคลอด การอยู่ไฟหลังคลอดเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมารดาหลังคลอดในอดีตของไทย เพราะคนสมัยนั้นเชื่อว่าหญิงตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลายอย่าง เช่น น้ำหนักตัว สรีระร่างกาย หน้าท้อง และผิวพรรณต่างๆ ทำให้หลังคลอดมารดามีอาการปวดเมื่อยหรืออักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหลัง และต้นขา ดังนั้นจึงมีผู้คิดค้นวิธีบรรเทาอาการดังกล่าว โดยอาศัยภูมิปัญญาพื้นบ้านเพื่อฟื้นฟูร่างกายของมารดาหลังคลอด และปรับสมดุลในร่างกายให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว โดยใช้ความร้อน และสมุนไพรใกล้ตัวเป็นตัวช่วย ความเชื่อเกี่ยวกับการดูแลหญิงหลังคลอดยังคงให้ความสำคัญมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในระยะหลังนี้อาจจะปรับประยุกต์วิธีต่างๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ปัจจุบันการปฏิบัติตัวหลังคลอดนิยมทำกัน มีหลายวิธี โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อออกจากโรงพยาบาลกลับมาดูแลตนเองที่บ้าน หญิงหลังคลอดจะรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบที่เชื่อว่าจะช่วยขับน้ำนม ขับน้ำคาวปลา การอาบน้ำต้มสมุนไพรอุ่นๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายปรับสมดุลเกิดการกระตุ้นระบบขับถ่ายของเสียในร่างกาย การอบไอน้ำสมุนไพรโดยประยุกต์อุปกรณ์ต่างๆให้เหมาะสม เกิดความสะดวกสบาย เช่น ทำเป็นกระโจมผ้า หรือไปอบตามร้านเสริมสวย การบีบนวดส่วนต่างๆที่มีอาการปวดเมื่อย การรับประทานยาสมุนไพร เพื่อขับน้ำคาวปลา บำรุงเลือด บำรุงร่างกาย รวมถึงการดูแลผิวพรรณให้กลับมามีสภาพเหมือนก่อนตั้งครรภ์ จากข้อมูลการรับบริการของหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคูหาใต้ ปีงบประมาณ 2564 พบว่า มีหญิงตั้งครรภ์และคลอดบุตรในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 15 ราย และได้รับการบริบาลมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยเพียง 4 ราย โดยมารดาหลังคลอดที่ปฏิเสธการรับบริการให้เหตุผลว่า ไม่สะดวกต่อการเดินทางมาเข้ารับบริการ หรือต้องใช้เวลานานในการเข้ารับบริการ โดยต้องฝากบุตรที่เพิ่งคลอดไว้กับบุคคลในครอบครัว เป็นต้น ดังนั้น งานแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการบริบาลมารดาหลังคลอดเชิงรุกในชุมชนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ปีงบประมาณ 2565 ขึ้น ตามแนวทางเวชปฏิบัติในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสิมสุขภาพตำบลคูหาใต้ ทั้งการให้บริการในสถานบริการและออกเยี่ยมบ้าน โดยให้บริการดังนี้ การใช้ยาสมุนไพร การนวดหลังคลอด การประคบสมุนไพร การอบไอน้ำสมุนไพร การนวดกระตุ้นในกรณีน้ำนมไหลน้อยและคัดตึงเต้านม การทับหม้อเกลือ ตลอดจนให้ความรู้ คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร การปฏิบัติตัวและท่ากายบริหารมารดาหลังคลอด
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้มารดาหลังคลอดในพื้นที่ได้รับการบริบาลหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย มารดาหลังคลอดในพื้นที่ได้รับการบริบาลหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย |
100.00 | |
2 | เพื่อให้มารดาหลังคลอด และบุคคลในครอบครัว มีความรู้ในการดูแลสุขภาพหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย มารดาหลังคลอด และบุคคลในครอบครัว มีความรู้ในการดูแลสุขภาพหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย |
80.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
5 ส.ค. 65 | ซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินความรู้การดูแลสุขภาพมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย | 10 | 9,000.00 | - | ||
5 ส.ค. 65 | กิจกรรมการบริบาลมารดาหลังคลอด | 10 | 7,650.00 | - | ||
5 ส.ค. 65 | กิจกรรมให้คำแนะนำแก่มารดาหลังคลอด และคู่สมรส | 10 | 220.00 | - | ||
รวม | 30 | 16,870.00 | 0 | 0.00 |
ขั้นเตรียมการ 1.ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ รพ.สต. และ อสม. รับทราบนโยบายและวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้มีความเข้าใจในแนวเดียวกัน 2.วางแผนการดำเนินงานเชิงรุกในการบริบาลมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย 3.จัดทำแผนงาน/โครงการเสนอ เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการบริบาลมาดาหลังคลอดเชิงรุกในชุมชนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ขั้นดำเนินการ 1.กิจกรรมซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินความรู้การดูแลสุขภาพมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย 2.กิจกรรมการบริบาลมารดาหลังคลอด - นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เวลา 60 นาที - ประคบสมุนไพร เวลา 30 นาที - ทับหม้อเกลือ เวลา 30 นาที - อบไอน้ำสมุนไพร เวลา 30 นาที กรณีคลอดปกติ เริ่มให้บริการครั้งแรกระหว่างวันที่ 7 - 14 วันหลังคลอด กรณีผ่าตัดคลอด เริ่มให้บริการครั้งแรกระหว่างวันที่ 30 - 45 วันหลังคลอด 3.กิจกรรมให้คำแนะนำแก่มารดาหลังคลอด และคู่สมรส - เรื่องการปฏิบัติตัวของมารดาหลังคลอด - เรื่องอาหารบำรุงน้ำนม - เรื่องกายบริหารมารดาหลังคลอด กรณีคลอดปกติ เริ่มให้บริการครั้งแรกระหว่างวันที่ 7 - 14 วันหลังคลอด กรณีผ่าตัดคลอด เริ่มให้บริการครั้งแรกระหว่างวันที่ 30 - 45 วันหลังคลอด ขั้นประเมินผล 1.ประเมินภาวะสุขภาพมารดาหลังคลอด และประเมินความรู้กลุ่มเป้าหมายหลังรับบริการ 2.สรุปและรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการ
1.มารดาหลังคลอดที่เข้าร่วมโครงการมดลูกเข้าอู่ได้เร็ว ร้อยละ 100 2.มารดาหลังคลอด และบุคคลในครอบครัว มีความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 100
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 13:28 น.