โครงการรณรงค์ให้ความรู้ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
ชื่อโครงการ | โครงการรณรงค์ให้ความรู้ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวมโรงพยาบาลระแงะ |
วันที่อนุมัติ | 10 สิงหาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2565 |
งบประมาณ | 33,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวมโรงพยาบาลระแงะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.311,101.724place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 210 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของผู้หญิงไทย ซึ่งพบมากในช่วงอายุ 30-50 ปี โรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม สามารถดูแลป้องกันและรักษาได้ในระยะเริ่มต้น และการป้องกันที่ดีที่สุดคือการค้นหาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด ดังนั้นการให้ความรู้ การสร้างความตระหนัก และกระตุ้นให้เกิดการดูแลและป้องกันตัวเอง โดยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การตรวจเต้านมด้วยตนเอง จะช่วยลดอัตราการป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมลงได้ โรคมะเร็งปากมดลูกสามารถตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยวิธี เอชพีวี ดีเอ็นเอ (HPV DNA Test) เป็นการตรวจด้วยวิธีเจาะลึกระดับดีเอ็นเอเพื่อตรวจหาเชื้อเอชพีวี สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงทั้ง 14 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ 16, 18 และ เอชพีวี อีก 12 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักสูงถึง 99% ของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง ดั้งนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจึงสามารถช่วยลดอุบัติการณ์ของการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ โรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ ทำให้เกิด สูญเสียชีวิตและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก อัตราการป่วยตายด้วยโรคมะเร็งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากการดำเนินงานการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีการ PAP Smear ของกลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวมโรงพยาบาลระแงะ ตั้งแต่ 2562-2564 มีผลการดำเนินงานร้อยละ 6.48, 9.92 และ 5.91 ตามลำดับ และพบผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก 3 คน ส่วนการคัดกรองมะเร็งเต้านม ตั้งแต่ 2562 – 2564 มีผลการดำเนินงานร้อยละ 79.18, 37.17 และ 91.96 ตามลำดับ พบว่ามีผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านม 4 คน จากการดำเนินงานที่ผ่านมายังพบปัญหาการดำเนินงานยังไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ดั้งนั้นกลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลระแงะ จึงได้จัดโครงการรณรงค์ให้ความรู้คัดกรองการตรวจมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมอย่างต่อเนื่อง โดยการค้นหาคัดกรองและให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ก็เพื่อให้การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นและกรณีพบความผิดปกติก็จะได้รับการส่งต่อเพื่อดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้สตรีอายุ ๓๐-๖๐ ปี มีความรู้ในเรื่องมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ ๘๐ ของสตรีอายุ ๓๐-๗๐ ปีที่ได้รับการอบรม มีความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น |
0.00 | |
2 | เพื่อให้สตรีอายุ ๓๐-๗๐ ปี มีความรู้ในเรื่องมะเร็งเต้านม ร้อยละ ๘๐ ของสตรีอายุ ๓๐-๗๐ ปีที่ได้รับการอบรม มีความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น |
0.00 | |
3 | เพื่อค้นหาผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ในระยะแรก ร้อยละ ๒๐ ของสตรีอายุ ๓๐-๖๐ ปี ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก |
0.00 | |
4 | เพื่อลดอุบัติการณ์ของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ร้อยละ ๘๐ ของสตรีอายุ ๓๐-๗๐ ปีที่ได้รับการอบรม สามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองได้ถูกต้อง |
0.00 |
1.แต่งตั้งและประชุมคณะกรรมการบริหารในการเขียนโครงการเพื่อขออนุมัติดำเนินการ
2.ประชาสัมพันธ์โครงการให้กับกลุ่มเป้าหมาย
3.ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ โดยจัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องการตรวจมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง โดยมีเนื้อหาดังนี้
ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
การตรวจต้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
แนวทางการป้องกัน และลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
ฝึกทักษะการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
4.ดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยได้รับการตรวจในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา
5.ติดตามประเมินผล
ทดสอบความรู้ผู้เข้าร่วมโครงการหลังการอบรม
ทดสอบการฝึกตรวจเต้านมด้วยตนเอง (ตรวจจากโมเดลเต้านม)
รายงานการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (จากโปรแกรม Hos xp)
6.สรุปผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการพร้อมทั้งส่งแบบรายงาน ส่งให้กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลตันหยงมัส
สตรีกลุ่มเป้าหมายมีความรู้และเข้าใจในเรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม รวมถึงสามารถเผยแพร่ความรู้ในแก่ชุมชนได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2565 09:41 น.