โครงการคัดกรองวัณโรคในกลุ่มที่สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคและกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้
ชื่อโครงการ | โครงการคัดกรองวัณโรคในกลุ่มที่สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคและกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้ |
รหัสโครงการ | 61-50105-02-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม อสม.ตำบลชะมวง |
วันที่อนุมัติ | 31 ตุลาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2560 - 31 สิงหาคม 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 20,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ชมรม อสม. ตำบลชะมวง |
พี่เลี้ยงโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวถนน |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.765,99.956place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
วัณโรค (Tuberculosis:TB) เป็นโรคติดต่อที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุขเป็นสาเหตุของการป่วย และการเสียชีวิตในหลายๆประเทศทั่วโลกอีกทั้งปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ทำให้ปัญหาวัณโรคมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นวัณโรคจึงนับเป็นปัญหาที่ท้าทายต่อวงการสาธารณสุขของประเทศต่างๆ (กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข,๒๕๔๘) ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ที่ติดเชื้อวัณโรคประมาณ ๒พันล้านคน หรือเกือบ ๑ใน ๓ของประชากรโลก มีผู้ป่วยวัณโรคเสียชีวิต ๑.๙๐ล้านคนในแต่ละปี ประเทศไทยมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน และการขยายงานในการควบคุมวัณโรค ทั้งปัจจัยด้านผู้ป่วยสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจเช่นความยากจนการด้อยโอกาสทางการศึกษาชุมชนแออัดปัญหายาเสพติดแรงงานย้ายถิ่นแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นต้นจากการคำนวณทางระบาดวิทยาในรายงานขององค์การอนามัยโลกคาดว่า ประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่ทุกประเภทประมาณ ๙๒,๓๐๐คน ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ ๔๔,๔๗๕คนเป็นผู้ป่วยที่สามารถแพร่เชื้อได้ และมีผู้ป่วยวัณโรคเสียชีวิตปีละ ๑๒,๐๘๙รายนอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยโรคเอดส์รายใหม่ตรวจพบวัณโรคร่วมด้วย ประมาณร้อยละ ๑๗ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ประเทศไทยมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ชนิดเสมหะพบเชื้อจำนวน ๒๕,๙๖๖ราย รวมผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทมีจำนวน ๕๓,๓๕๗ราย เสียชีวิต ๒,๕๔๘ ราย อัตราการตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่คิดเป็นร้อยละ ๖๙.๐๐ ซึ่งยังไมบรรลุเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกที่มีเป้าหมายอัตราการตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ อยู่ที่ร้อยละ ๘๕.๐๐ ภายในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ มีอัตราความสําเร็จของการรักษาคิดเปน รอยละ ๘๓.๐๐ ซึ่งยังต่ำกวาเปาหมายขององค์การอนามัยโลกที่มีเปาหมายอัตราความสําเร็จของการรักษาอยูที่รอยละ ๘๗.๐๐ ภายในป ค.ศ. ๒๐๑๕(สำนักวัณโรคกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๕๓) อาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)เป็นตัวแทนประชาชนที่ถูกคัดเลือกให้ทำงานด้านสาธารณสุข และมีงบประมาณสนับสนุนในรูปแบบของงานสาธารณสุขมูลฐานอีกทั้งปัจจุบันได้รับการยอมรับจากส่วนต่างๆ ทั้งระดับประเทศ และในชุมชนเอง เป็นอย่างดี จึงมีความคล่องตัวต่อการดำเนินงานปรับเงื่อนไขทางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชน ให้เอื้อต่อการป้องกันวัณโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้ง อสม.นับเป็นแกนนำด้านสุขภาพที่มีความสำคัญในชุมชน ได้รับการพัฒนาศักยภาพจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการติดต่อของโรค การดูแลและรักษาพยาบาล อันตรายของโรค การป้องกันและควบคุมโรคที่ดีระดับหนึ่ง ทำให้มีความเป็นไปได้ในการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาวัณโรคในชุมชนตนเอง นอกจากเป็นการส่งเสริมศักยภาพของชุมชนเองแล้ว ยังเป็นทางเลือกที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์สาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาวัณโรคอีกทั้ง อสม.เป็นบุคคลที่อาศัยและทำงานในชุมชนประจำ มีระบบเครือญาติและระบบเครือข่ายทางสังคมย่อมมีความคุ้นเคย เข้าใจสภาพปัญหาในชุมชนทำให้รู้ปัญหา และความต้องการที่แท้จริงของชุมชนตนเองทำให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาวัณโรค ด้วยชุมชน และเพื่อชุมชนตนเองอสม. เป็นกลุ่มบุคคลที่มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคการติดต่อความรุนแรงของโรค ที่ดีระดับหนึ่ง และเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิด คุ้นเคยกับชุมชน ทำให้เข้าใจสภาพปัญหาต่างๆในชุมชน อย่างดีโดยการจัดกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้ ดูวีดีทัศน์ ศึกษาคู่มือ การเล่าประสบการณ์จากผู้ป่วย การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ภายในกลุ่ม การระดมความคิดเห็นในการดำเนินงาน การร่วมกำหนดบทบาทหน้าที่ของตนเองในการดำเนินงาน การร่วมวางแผนดำเนินงานการฝึกปฏิบัติจริงในชุมชน การติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน โดยกิจกรรมดังกล่าว จะเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้ อสม.ในพื้นที่ มีความสามารถในการดำเนินงานป้องกันวัณโรคปอดได้ด้วยชุมชนเอง ทำให้เกิดความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาวัณโรคในชุมชน ต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อเร่งรัดการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคปอด และกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยโรคเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้ ผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคปอดทุกรายได้รับการตรวจเอกเรย์ปอด ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้ได้รับการตรวจเอกเรย์ปอด |
0.00 | |
2 | เพื่อลดอัตราการป่วยและการแพร่ระบาดโรควัณโรคในชุมชน ผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็วตามแนวทางการรักษา |
0.00 | |
3 | ผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องตามแนวทางการรักษา ผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็วตามแนวทางการรักษา |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 20,000.00 | 1 | 17,900.00 | 2,100.00 | |
26 เม.ย. 61 | เพื่อเอกเรย์ปอด | 0 | 20,000.00 | ✔ | 17,900.00 | 2,100.00 | |
รวมทั้งสิ้น | 0 | 20,000.00 | 1 | 17,900.00 | 2,100.00 |
- จัดทำแผนโครงการและประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ในการจัดทำโครงการ
- จัดทำฐานข้อมูลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้และข้อมูลผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยดรควัณโรคปอดจากข้อมูลย้อนหลัง 2557 - 2560 เพื่อส่งคัดกรองโดยการเอกเรย์ปอด
- ประสานงานกับ TB คลินิก โรงพยาบาลควนขนุน เพื่อส่งกลุ่มเป้าหมายไปเอกเรย์ปอด
- แจ้งกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเข้ารับการเอกเรย์ปอดตามวันที่ TB คลินิกกำหนดให้
- สรุปผลโครงการ
- สามารถค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ได้เพิ่มขึ้น
- สามารถลดอัตราการป่วยและการแพร่ระบาดของโรควัณโรคในชุมชนลงได้ระดับหนึ่ง
- ผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ได้รับการดูแลตามแนวทางการดำเนินงานควบคุมวัณโรคแห่งชาติ (NTP)
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2560 11:34 น.