กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบการติดตามประเมินผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการ (Process Evaluation)

กิจกรรมระยะเวลาเป้าหมาย/วิธีการผลการดำเนินงานปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
ตามแผนปฏิบัติจริงตามแผนปฏิบัติจริงตามแผนปฏิบัติจริง
ประชุมคณะทำงานกลไกขับเคลื่อนโครงการ 7 ม.ค. 2566 7 ม.ค. 2566

 

ประชุมคณะทำงานโครงการเด็กเยาว์ชนตั้งเดินเบิร์นไขมัน มีผู้เข้าร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนมาจากการ อสก.แต่ละหมูบ้าน (อาสาสมัครด้านกีฬาและผู้นำออกกำลังกาย) หมู่บ้านละ 2 คน เพื่อมาเป็นผู้นำและเป็นผู้ประสานงานในหมู่บ้าน คณะทำงาน 5 คน อสก. 16 คน ผู้รับผิดชอบโครงการและเป็น ประธานกลุ่มออกกำลังกายตำบลนาท่อม ชี้แจงวัตถุประสังค์โครงการ เนื่องด้วยกลุ่มออกกำลังกายตำบลนาท่อม ได้ มีการเขียนโครงการที่เกี่ยวกับเด็กเยาว์ที่ไม่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เนื่องด้วยปัจจุบันเด็กเยาวชน ของตำบลนาท่อม ที่มี อายุ ช่วง 5-17 ปี จำนวน 613 คน แต่มีคนที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอเพียง 167 คน คิดเป็นร้อละ 27.20 ยังมีกลุ่มเยาวชนที่ไม่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจำนวน 446 คน คิดเป็นร้อลละ 72.75 ซึ่งสืบเนื่องจากเด็กเยาวชนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับกิจกรรมการขยับกายเคลื่อนไหวร่างกาย ด้วยค่านิยมทางสังคม เด็กเยาวชนหมกมุ่นมักใช้เวลาว่างไปกับมือถือ และประกอบกับการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นอาหารสำเร็จรูป ฟาสฟู๊ด สะดวกแต่ไม่มีประโยนช์ถูกหลักโภชนาการ ก่อให้เด็กเยาวชนมีภาวะน้ำหนักเกินไม่สมส่วน ทางกลุ่มออกกำลังกายตำบลนาท่อมซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ดำเนินการกิจกรรมทางกายที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ มีผู้นำที่เป็นอาสาสมัครด้านกีฬาและผู้นำออกกำลังกาย เห็นถึงสถานการณ์ปัญหาดังกล่าว จึงเข้าร่วมทุนสนับสนุนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเด็กเยาวที่มีน้ำเกินไม่สมส่วน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสามารถเป็นต้นแบบให้เด็กเยาวชนของตำบลนาท่อมต่อไป
จากนั้นได้มีการกำหนดแนวทางการดำเนินงาน ของโครงการ มีแผนกิจกรรมในเดือน มีนาคม เมษายน เพราะเป็นช่าวเวลาที่กลุ่มเด็กเยาวชนปิดเทมอ และมีการมอบหมายบทบาทหน้าที่

 

เกิดกลไกขับเคลื่อนโครงการที่มาจาก ทุกหมูบ้าน

 

ประชุมสร้างความเข้าใจเด็กเยาว์ชนกลุ่มน้ำหนักเกิน 4 มี.ค. 2566 4 มี.ค. 2566

 

ประชุมสร้างความเข้าใจกลุ่มเด็กเยาวชนที่มีน้ำหนักเกิน ชี้แจงวัตถุประสงค์ เป้าหมายโครงการ เพื่อเพิ่มกิจกรรมทางกายใน เด็ก และเยวาชน และ ส่งเสริม ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเพิ่มกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ พร้อมด้วยความรู้ในการเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย จะมีการมีการเก็บข้อมูลสถานการณ์สุขภาพเด็ก การชั่งน้ำหนักส่วนสูง รอบเอว พฤติกรรมการกินอาหารพฤติกรรมการออกกำลังกาย และการกำหนดแนวทางการทำกิจกรรมทางกาย การสร้างช่องทางการสื่อสาร ของกลุ่ม

วิทยากร ให้ความรู้เรื่องการเลือรับประทานอาหารตามหลักโภคชนาการที่สมวัย ร่างกายเราต้องการสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารต่างๆ เพื่อให้มีสุขภาพดี แต่เราจะต้องรู้ว่าจะกินอย่างไร กินอาหารอะไรบ้าง มากน้อยเพียงใดจึงจะได้สารอาหารครบและเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

ข้อปฏิบัติการกินอาหากเพื่อสุขภาพที่ดี
1.กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัว เนื่องจากร่างกายเราต้องการสารอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหาร ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน น้ำ และใยอาหาร แต่ไม่มีอาหารชนิดใด ชนิดเดียวที่ให้สารอาหารต่างๆครบ ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ จึงจำเป็น ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินแต่ละหมู่ให้หลากหลาย จึงจะได้สารอาหารต่างๆครบถ้วน และเพียงพอ น้ำหนักตัว เป็นเครื่องบ่งชี้บอกถึงสุขภาพของเรา จึงควรหมั่นดูแลโดยใช้ดัชนีมวลกาย(Body Mass Index) ซึ่งคำนวณจากสูตร ดัชนีมวลกาย(BMI) =น้ำหนัก(กิโลกรัม) /ส่วนสูง (เมตร)ยกกำลัง2 ค่าปกติจะอยู่ที่ 18.5-24.9 กก/ตร.ม.
2 .กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยที่ให้กำลังงาน มีสารอาหารคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินกับแร่ธาตุ และใยอาหาร ควรกินข้าวที่ขัดสีแต่น้อย และกินสลับกับ อาหารประเภทแป้งอื่นๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปัง เผือกและมัน
3. กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ พืชผักและผลไม้ นอกจากให้วิตามินแร่ธาตุ และกากอาหารแล้ว ยังมีสารอื่นๆ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปเกาะตามหลอดเลือด และช่วยทำให้เยื่อบุของเซลล์ และอวัยวะต่างๆแข็งแรงอีกด้วย
4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
-เนื้อสัตว์ทุกชนิดมีโปรตีน แต่ควรกินชนิดไม่ติดมันเพื่อลดการสะสมไขมันในร่างกาย
-ไข่เป็นอาหารโปรตีนราคาถูก หาซื้อง่าย เด็กสามารถกินได้ทุกวัน แต่ผู้ใหญ่ควรกิน ไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง
-ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์ เป็นโปรตีนที่ดี ราคาถูก ควรกินสลับกับเนื้อสัตว์เป็นประจำ
5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย นมมีโปรตีน วิตามินบี และแคลเซียมซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโต และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน จึงเป็นอาหารที่เหมาะสมกับบุคคลทุกวัยในคนอ้วนควรดื่มนมพร่องมันเนย
6. กินอาหารที่มีแต่ไขมันพอควร ไขมันให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทั้งช่วยดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี และเค แต่ไม่ควรกินมากเกินไป จะทำให้อ้วน และเกิดโรคอื่นๆตามมาการได้รับไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ และอาหารที่มีโคเลสเตอรอลมากเกินไป จะทำให้โคเลสเตอรอลในเลือดสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ควรกินอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง อบ จะช่วยลดปริมาณไขมันในอาหารได้
7.หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัดการกินอาหารรสจัดมากจนเป็นนิสัย ให้โทษแก่ร่างกาย รสหวานจัดทำให้ได้พลังงานเพิ่มทำให้อ้วน รสเค็มจัดเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง
8. กินอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อนอ าหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ มีการปกปิดป้องกันแมลงวันและบรรจุในภาชนะที่สะอาด มีอุปกรณ์หยิบจับที่ถูกต้อง ย่อมทำให้ปลอดภัยจากการเจ็บป่วยด้วยระบบทางเดินอาหาร
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ เป็นโทษแก่ร่างกาย ทำให้สมรรถภาพการทำงานลดลง ขาดสติ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย สูญเสียทรัพย์สิน เงินทอง ตลอดจนชีวิต เสี่ยงต่อ การเป็นโรคตับแข็ง แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้มะเร็งหลอดอาหารและโรคกระเพาะอาหาร จึงควรงด หรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และไม่ขับขี่ยานพาหนะในขณะมึนเมา ต่อด้วยความรู้ความเข้าใจ เรื่องกิจกรรมทางการที่เพียง

 

ผลผลิต ได้ข้อมูลสถานการณ์สุขภาพเด็กเยาวชน
ได้แกนนำเป็นกลไลช่วยขับเคลื่อน 10 คน
มีช่องทางการสือสารข้อมูล

ผลลัพธ์
กลุ่มเป้าหมายรับทราบวัตถุประสงค์เป้าหมายโครงการ มีความรู้เข้าใจในเรื่องการทำกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ

 

เดินเบิร์นไขมัน ทุกวันอาทิตย์ 5 มี.ค. 2566 5 มี.ค. 2566

 

กลุ่มเด็กเยาวชนทำกิจกรรมทางกาย ด้วยการเดินออกกำลังกาย ไปยังสถานที่แหล่งเรียนรู้ของตำบลนาท่อม เดินไปทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน เดินไปเยี่ยมผู้สูงอายุ ปราชญ์ชาวบ้าน ในกิจกรรมการเดินและกิจกรรมทางกาย สันทนาการ อย่างน้อยต้องใช้เวลา 60 นาที และปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 เดือนๆละ 4 ครั้ง รวม 12 ครั้ง จะมีการติดตามและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกครั้ง มีการเก็บข้อมูลสถานการณ์ทุกครั้ง

การทำกิจกรรมเดินกิจกรรมทางกาย ในแต่ละครั้ง จะมีการเดินไปยังสถานที่ต่างๆ ใน ตำบลนาท่อม  เดินไปเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ เดินไปศึกษาวิถีชีวติของการทำเกษตรผสมผสาน เดินไปยังปราชชุมชนที่เกี่ยวกับขนบเนียมประเพณีของชุมชน เดินไปบ้านของผู้นำชุมชน และหลังจาการเดินในแต่ละครั้ง เด็กเยาวชนจะมีการสรุปกิจกรรมและพูดคุยกัน วางแผนในการทำกิจกรรมในครั้งต่อไป
ในส่วนกิจกรรมที่เนื่องมาจากการเดิน เด็กเยาวชนยังมีกิจกรรมที่เป็นสันทนาการสร้างสุข เข้าร่วมในการทำกิจกรรมทางสังคม เป็นกลุ่มเด็กที่นำเสนอการผลการทำกิจกรรม และยังเข้าร่วมการทำกิจกรรมเข้าค่ายครอบครัวของตำบล
หลังการดำเนินการกิจกรรมทุกๆครั้ง จะมีการเก็บข้อมูลสถานการณ์  การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเด็กเยาวชนตั้งในเดินเบิร์นไขมัน

 

กลุ่มเด็กเยวาชน ได้มีการขยับกาย ในรูปแบบการเดิน การทำกิจกสันทนาการณ์

 

สรุปผลถอดบทเรียน 4 ก.ย. 2566 27 พ.ค. 2566

 

สรุปผลการดำเนินงานโครงการกระบวนการและวิธีการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การปรับเปลี่ยนการขยับกายที่เพียงพอ เป็นวิธีการที่สามารถเพิ่มกิจกรรทางกายที่เพียงพอในกลุ่มเด็กเยาวชนได้มากน้อยเพียงใด และนำข้อมูลสถานการณ์สุขภาพเด็กเยาวชนที่มีผลการเปลี่ยนแปลงมานำเสนอและมอบประกาศนียบัตรเยาวชนที่เป็นสามาชิก โดยมี คณะทำงาน จำนวน 5 คน แกนนำเด็ก 10 คน อสก. 16 คน

ผลการดำเนินงานและผลการเปลี่ยนแปลงโครงการ เด็กเยวาชนตั้งใตเดินเบร์นไขมัน

กิจกรรมที่1 ประชุมคณะทำงานกลไกขับเคลื่อนโครงการ
ผลผลิต  ประชุมคณะทำงานโครงการเด็กเยาว์ชนตั้งเดินเบิร์นไขมัน มีผู้เข้าร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนมาจากการ อสก.แต่ละหมูบ้าน (อาสาสมัครด้านกีฬาและผู้นำออกกำลังกาย) หมู่บ้านละ 2 คน เพื่อมาเป็นผู้นำและเป็นผู้ประสานงานในหมู่บ้าน คณะทำงาน 5 คน อสก. 16 คน
ผลลัพธ์  เกิดกลไกขับเคลื่อนโครงการที่มาจาก ทุกหมูบ้าน

กิจกรรมที่ 2 ประชุมสร้างความเข้าใจเด็กเยาว์ชนกลุ่มน้ำหนักเกิน ผลผลิต ได้ข้อมูลสถานการณ์สุขภาพเด็กเยาวชน ได้แกนนำเป็นกลไลช่วยขับเคลื่อน 10 คน มีช่องทางการสือสารข้อมูล ผลลัพธ์  กลุ่มเป้าหมายรับทราบวัตถุประสงค์เป้าหมายโครงการ มีความรู้เข้าใจในเรื่องการทำกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ

กิจกรรมที่ 3  เดินเบิร์นไขมัน ทุกวันอาทิตย์ กลุ่มเด็กเยวาชน
ผลที่เกิดขึ้นจริง ได้มีการขยับกาย ในรูปแบบการเดิน การทำกิจกสันทนาการณ์ ของ กลุ่มเด็กเยาวชน
เป็นการสรุปบทเรียนและการวางแนวทางการร่วมมือการสานต่อโครงการ จาก หน่วยงาน ภาคีเครือข่าย เพื่อการต่อยอดงานของกลุ่มเด็กเยวาชนของตำบลนาท่อมต่อไป

 

มีผลการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเด็กเยาวชนตั้งเดิน
1 กลุ่มเด็กเยาวชนมีกิจกรรมทางกายที่เพียง
2 รอบเอว น้ำหนัก ลดลง การปรับพฤติกรรมการกิน พฤติกรรมการทำกิจกรรมทางกาย
3 ได้เด็กเยาวชนต้นแบบ จำนวน 10 คน