กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการหญิงตั้งครรภ์ฟันสวย ลูกน้อยฟันดี ปี 2566
รหัสโครงการ 66-L8020-01-04
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลรัตภูมิ
วันที่อนุมัติ 17 พฤศจิกายน 2565
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 มกราคม 2566 - 31 สิงหาคม 2566
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2566
งบประมาณ 13,106.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ ทพญ.มนรัตน์ หงษ์สวัสดิ์
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
ละติจูด-ลองจิจูด 7.087,100.287place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานอนามัยแม่และเด็ก
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 1 ม.ค. 2566 31 ส.ค. 2566 13,106.00
รวมงบประมาณ 13,106.00
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 95 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด 24 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

จากผลการดำเนินงานสำรวจสภาวะทันตสุขภาพในจังหวัดสงขลา ,อำเภอรัตภูมิ และศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลตำบลกำแพงเพชร พ.ศ.2565 พบว่าเด็กอายุ 3 ปี มีอัตราการเกิดโรคฟันผุร้อยละ 37.05, 43.35 และ 40 ตามลำดับ ซึ่งสาเหตุหลักของโรคฟันผุลุกลามในเด็กเล็กส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เช่น ผู้ปกครองให้เด็กเลิกนมมื้อดึกช้าเกินควร โดยทั่วไปเด็กอายุ 1 ปี ควรเลิกนมมื้อดึก และเมื่อเด็กอายุได้ 18 เดือนควรจะเลิกนมขวด การปล่อยให้เด็กหลับคาขวดนมหลังจากฟันขึ้นแล้ว การให้เด็กทานขนมหรือนมที่มีรสหวานเป็นประจำ หรือผู้ปกครองละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยไม่ได้เริ่มแปรงฟันตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น ซึ่งการดูแลเพื่อให้เด็กมีสุขภาพฟันดี ควรเริ่มตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะฟันน้ำนมจะเริ่มสร้างตั้งแต่อายุครรภ์มารดาได้ 6 สัปดาห์ และการสร้างฟันต้องการสารอาหารหลายชนิดเช่นเดียวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุจำพวกแคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงต่อชั้นเคลือบฟันและเนื้อฟัน ซึ่งการดูแลเอาใจใส่อนามัยช่องปากที่ดีขณะตั้งครรภ์สามารถลดการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากได้ ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางทันตสุขภาพในกลุ่มหญิงมีครรภ์และเด็กเล็กดำเนินการไม่สะดวกในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราการเกิดโรคฟันผุในกลุ่มเป้าหมายนี้เพิ่มขึ้นได้     ในทางทันตกรรม การให้บริการทันตกรรมงานแม่และเด็ก มีกลวิธีโดยเน้นการดำเนินงานแบบบูรณาการระหว่างงานส่งเสริมคุณภาพในหญิงตั้งครรภ์และคลินิกเด็กดี โดยเริ่มตั้งแต่การตรวจสุขภาพช่องปากหญิงมีครรภ์ การให้ทันตสุขศึกษา สอนแปรงฟันที่ถูกวิธี รวมไปถึงการให้บริการทันตกรรมตามความจำเป็นสำหรับหญิงมีครรภ์แต่ละราย ได้แก่ ขูดหินน้ำลาย อุดฟัน ถอนฟันที่ติดเชื้อ เพื่อลดการเกิดโรคฟันผุจากแม่สู่ลูกโดยผ่านทางน้ำลาย ส่วนการดำเนินงานในคลินิกเด็กดีนั้น พบว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ผู้สูงอายุที่ดูแลบุตรหลานที่บ้าน เป็นส่วนสำคัญหลักในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กรวมไปถึงพฤติกรรมการบริโภคของเด็กด้วย การสร้างความตระหนัก การให้ความรู้เรื่องพฤติกรรมการบริโภคตลอดจนวิธีการทำความสะอาดช่องปากเด็กโดยพ่อ แม่ ผู้ปกครองได้ฝึกลงมือปฏิบัติจริง จะทำให้ผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพช่องปากบุตรหลานตนเองได้     กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลรัตภูมิ เล็งเห็นความสำคัญของการเกิดโรคฟันผุในกลุ่มเด็กเล็ก จึงได้จัดทำโครงการหญิงตั้งครรภ์ฟันสวย ลูกน้อยฟันดีขึ้น โดยให้การดูแลแบบองค์รวมและมีการบูรณาการผ่านการเรียนรู้ร่วมกับเครือข่ายสุขภาพที่มีส่วนสำคัญในการดูแลเด็ก นำไปสู่การแก้ปัญหาทันตสุขภาพอย่างยั่งยืนต่อไป

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในเขตเทศบาลตำบลกำแพงเพชรมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น
  1. ร้อยละ 70 ของหญิงตั้งครรภ์ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก
  2. ร้อยละ 70 ของหญิงตั้งครรภ์ได้รับการฝึกทักษะการแปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติจริง
  3. ร้อยละ 70 ของหญิงตั้งครรภ์ได้รับบริการทันตกรรมตามความเหมาะสม
  4. ร้อยละ 50 ของหญิงตั้งครรภ์หลังคลอดได้รับการเยี่ยมติดตามดูแลทันตสุขภาพที่บ้าน
70.00
2 เพื่อให้เด็กกลุ่มอายุ 0-2 ปี ในเขตเทศบาลตำบลกำแพงเพชร มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น
  1. ร้อยละ 70 ของเด็ก 0-2 ปี ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก
  2. ร้อยละ 70 ของผู้ปกครอง เด็ก 0-2 ปีได้รับการฝึกทำความสะอาดช่องปาก
  3. ร้อยละ 50 ของเด็ก 6 เดือน -2 ปี ได้รับการทาฟลูออไรด์วานิช
  4. ร้อยละ 50 ของเด็ก 1-2 ปี ได้รับการเยี่ยมติดตามดูแลทันตสุขภาพที่บ้าน
70.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
คงเหลือ
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 119 13,106.00 0 0.00 13,106.00
1 ม.ค. 66 - 31 ส.ค. 66 ตรวจสุขภาพช่องปากหญิงตั้งครรภ์ 24 2,016.00 - -
1 ม.ค. 66 - 31 ส.ค. 66 ฝึกแปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติจริง 95 11,090.00 - -
รวมทั้งสิ้น 119 13,106.00 0 0.00 13,106.00

กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 1. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับฝากครรภ์เชิญชวนหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการรายใหม่ทุกรายขึ้นทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม  แม่ลูกฟันดี 2. ทันตบุคลากรลงให้บริการตรวจสุขภาพช่องปากหญิงตั้งครรภ์ ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลตำบลกำแพงเพชร และส่งต่อนัดหมายทางทันตกรรมในรายที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากตามความเหมาะสม 3. จัดให้มีการให้ความรู้ทันตสุขศึกษา และฝึกปฏิบัติทักษะการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน แบบลงมือปฏิบัติจริง ในหญิงตั้งครรภ์เป็นรายบุคคล 4. เชิญชวนหญิงตั้งครรภ์เข้าร่วมกลุ่ม line “ คุณแม่รักฟัน” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการให้ความรู้ทันตสุขศึกษา และหากหญิงตั้งครรภ์มีข้อสงสัย หรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในช่องปาก ก็สามารถสอบถามผ่านทางไลน์ได้ และการติดตามการนัดให้บริการทันตกรรม 5. เยี่ยมติดตามดูแลทันตสุขภาพหญิงตั้งครรภ์หลังคลอด ร่วมกับ อสม.ในพื้นที่ เพื่อตรวจประเมินสุขภาพช่องปากหญิงตั้งครรภ์หลังคลอดว่ายังมีปัญหาสุขภาพช่องปากหรือไม่ พร้อมทั้งให้ความรู้ และฝึกปฏิบัติจริงเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากของลูก 6. บันทึกข้อมูลในสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก และบันทึกในแฟ้มทันตสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ 7. สรุปผล/รายงานผลการดำเนินโครงการ

กลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน 0-2 ปี
1. ทันตบุคลากรลงให้บริการตรวจสุขภาพปากเด็ก 0-2 ปี พร้อมทั้งให้บริการทาฟลูออไรด์วานิชเพื่อป้องกันฟันผุ คลินิกเด็กดี (WCC) ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลตำบลกำแพงเพชร 2. จัดให้มีการให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก ฝึกทักษะการแปรงฟันแก่พ่อแม่/ผู้ดูแลเด็กได้ฝึกการแปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติจริง และเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากแก่บุตรหลาน 3. จัดกิจกรรมให้ผู้ปกครองฝึกตรวจช่องปากลูกน้อยในความดูแลของตนเองรายบุคคล โดยให้มีการตรวจสุขภาพช่องปาก และลงในแบบบันทึกการตรวจฟัน อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มความตระหนักในการดูแลสุขภาพช่องปากลูกโดยผู้ปกครอง และหากตรวจพบฟันผุจะได้ส่งต่อหรือแก้ไขได้ทันท่วงที 4. เชิญชวนผู้ปกครอง เข้าร่วมกิจกรรมส่งหมอถึงมือแม่ โดยเข้าร่วมเพจ Chatbot21 วันฟันดี ทาง facebook เพื่อลูกน้อยมีฟันที่แข็งแรงและยิ้มสดใส 5. เยี่ยมติดตามดูแลทันตสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียน 1-2 ปี ร่วมกับ อสม. ในพื้นที่ พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหาร พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก ส่งเสริมการเลิกดื่มนมขวดและนมมื้อดึก แก่ผู้ดูแลเด็กเป็นหลักที่บ้าน
6. บันทึกข้อมูลในสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กทุกและมีการบันทึกในแฟ้มทันตสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียน 7. สรุปผล/รายงานผลการดำเนินโครงการ

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. หญิงตั้งครรภ์รายใหม่ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก สามารถดูแลและประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
  2. หญิงตั้งครรภ์รายใหม่มีความรู้ทักษะและทัศนคติที่ดีในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. หญิงตั้งครรภ์รายใหม่ได้รับการรักษาทางทันตกรรมตามความเหมาะสม ได้แก่ อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน
  4. เด็กก่อนวัยเรียนได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและทาฟลูออไรด์เฉพาะที่
  5. ผู้ปกครองเด็กได้รับการฝึกทักษะการแปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติ มีความรู้ด้านโภชนาการ และมีทัศนคติที่ดีในการดูแลสุขภาพช่องปากของบุตรหลานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2565 13:27 น.