โครงการเครือข่ายโรเงรียนเด็กไทยฟันดี เทศบาลตำบลกำแพงเพชร
ชื่อโครงการ | โครงการเครือข่ายโรเงรียนเด็กไทยฟันดี เทศบาลตำบลกำแพงเพชร |
รหัสโครงการ | 66-L8020-01-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลรัตภูมิ |
วันที่อนุมัติ | 17 พฤศจิกายน 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2566 - 30 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2566 |
งบประมาณ | 23,064.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ทพญ.มะลิวัลย์ สุวรรณเจริญ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.087,100.287place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 มิ.ย. 2566 | 30 ก.ย. 2566 | 23,064.00 | |||
รวมงบประมาณ | 23,064.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 458 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : ระบุ |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากผลการสำรวจ โรคฟันผุในจังหวัดสงขลา พ.ศ.2561 พบว่าในกลุ่มเด็ก 12 ปี เป็นโรคฟันผุ ร้อยละ 32.35 และจากการสำรวจโรคฟันผุในอำเภอรัตภูมิ ในกลุ่มเด็ก 12 ปี เป็นโรคฟันผุ ร้อยละ 38.92 ซึ่งสูงกว่าระดับจังหวัด โรคฟันผุในเด็กมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ พฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปากที่ไม่เหมาะสม และพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูงซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การมีโรคฟันผุเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งในระดับบุคคล สังคม และเศรษฐกิจ การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในเด็กวัยประถมศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อฟันผุสูง เนื่องจากเป็นวัยที่เริ่มมีฟันแท้ขึ้นมาในช่องปาก สภาวะช่องปากของเด็กในกลุ่มนี้สามารถสะท้อนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพช่องปากในโรงเรียนได้เป็นอย่างดี จากการตรวจสุขภาพช่องปากเด็กนักเรียนในเขตรับผิดชอบของเทศบาลตำบลกำแพงเพชร คือโรงเรียนบ้านปลายละหานและโรงเรียนเจริญรัตน์ศึกษาวัฒนา ในปีการศึกษา 2565 พบปัญหานักเรียนมีฟันผุสูงมากถึงร้อยละ 71.02 จากการดำเนินงานเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีเทศบาลตำบลกำแพงเพชร ในปีการศึกษา 2565 ทำให้นักเรียนได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากทั้งโรงเรียน เด็กที่มีปัญหาได้รับการส่งต่อไปเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรับบริการทางทันตกรรมมากขึ้น มีการจัดอบรมครูและนักเรียนแกนนำ รวมถึงการฟื้นฟูกิจกรรมการแปรงฟันหลังอาหารกลางวัน และการแปรงฟันที่บ้าน ดังนั้นในปีการศึกษา 2566 ที่จะมาถึงนี้ กลุ่มงานทันตกรรมจึงได้จัดทำโครงการเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีเทศบาลตำบลกำแพงเพชร ปี 2566 ขึ้นเพื่อให้มีการดำเนินกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อการสร้างเสริมพฤติกรรมที่ดีในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กและของตนเองได้อย่างยั่งยืนและเผยแพร่สู่ชุมชนต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีในพื้นที่เทศบาลตำบลกำแพงเพชร เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีในพื้นที่เทศบาลตำบลกำแพงเพชร |
||
2 | เพื่อให้โรงเรียนในเครือข่ายจัดกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันวิถีใหม่ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ครอบคลุมทุกชั้นเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 100 ของโรงเรียนในเครือข่ายจัดกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันวิถีใหม่ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ครอบคลุมทุกชั้นเรียน |
||
3 | เพื่อให้โรงเรียนในเครือข่ายปลอดน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ไอศกรีม และเครื่องดื่มรสหวาน (น้ำตาลไม่เกิน 5%) และมีการจัดอาหารกลางวันที่ถูกหลักโภชนาการและจัดอาหารว่างที่เหมาะสมให้นักเรียน ร้อยละ 100 ของโรงเรียนในเครือข่ายปลอดน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ไอศกรีม และเครื่องดื่มรสหวาน (น้ำตาลไม่เกิน 5%) และมีการจัดอาหารกลางวันที่ถูกหลักโภชนาการและจัดอาหารว่างที่เหมาะสมให้นักเรียน |
||
4 | เพื่อให้โรงเรียนในเครือข่ายมีการบูรณาการหลักสูตรการเรียนรู้ด้านทันตสุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกชั้นเรียน ร้อยละ 100 ของโรงเรียนในเครือข่ายมีการบูรณาการหลักสูตรการเรียนรู้ด้านทันตสุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกชั้นเรียน |
||
5 | เพื่อให้แกนนำนักเรียนมีความรู้เรื่องทันตสุขภาพของนักเรียนโรงเรียนในเครือข่าย ร้อยละ 80 ของแกนนำนักเรียนมีความรู้เรื่องทันตสุขภาพมีระดับคะแนนของแบบทดสอบหลังให้ความรู้เพิ่มขึ้น |
||
6 | เพื่อให้โรงเรียนในเครือข่ายมีการจัดทำโครงงาน/นวัตกรรม/งานวิจัยด้านทันตสุขภาพอย่างน้อย 1 เรื่อง โรงเรียนในเครือข่ายมีการจัดทำโครงงาน/นวัตกรรม/งานวิจัยด้านทันตสุขภาพ อย่างน้อย 1 เรื่อง |
||
7 | เพื่อให้โรงเรียนในเครือข่ายเกิดมุมทันตสุขศึกษาเพื่อให้นักเรียนตลอดจนบุคคลทั่วไปได้มีความรู้เรื่องสุขภาพช่องปาก ภายในโรงเรียนในเครือข่าย ร้อยละ 100 ของโรงเรียนในเครือข่ายเกิดมุมทันตสุขศึกษาเพื่อให้นักเรียนตลอดจนบุคคลทั่วไปได้มีความรู้เรื่องสุขภาพช่องปาก ภายในโรงเรียนในเครือข่าย |
||
8 | เพื่อให้โรงเรียนในเครือข่ายจัดรณรงค์และประกวดวิชาการด้านทันตสุขภาพ และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียน ร้อยละ 100 ของโรงเรียนในเครือข่ายเข้าร่วมการประกวดวิชาการด้านทันตสุขภาพ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียน |
1 ประชุมเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 110 | 20,364.00 | 0 | 0.00 | |
1 มิ.ย. 66 - 30 ก.ย. 66 | จัดอบรมคณะทำงาน | 10 | 4,064.00 | - | ||
1 มิ.ย. 66 - 30 ก.ย. 66 | กิจกรรมจัดทำโครงการ/นวัตกรรม/งานวิจัยด้านทันตสุขภาพ | 0 | 2,000.00 | - | ||
1 - 30 มิ.ย. 66 | ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านทันตสุขภาพระหว่างโรงเรียนในเครือข่าย | 100 | 13,800.00 | - | ||
1 มิ.ย. 66 - 30 ก.ย. 66 | ให้บริการทันตกรรมแก่เด็กนักเรียน ชั้น ป.1 - ป.6 ในเครือข่าย | 0 | 500.00 | - | ||
วิธีดาเนินการ (ออกแบบให้ละเอียด)
1. ชี้แจงโครงการกับผู้บริหารโรงเรียนและกำหนดบทบาทความรับผิดชอบโดยมีข้อตกลงในการดำเนินงานดังนี้
1.1 โรงเรียนจัดกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ครอบคลุมทุกชั้นเรียน
1.2 โรงเรียนปลอดน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ไอศกรีม และเครื่องดื่มรสหวาน (น้ำตาลไม่เกิน 5%) และมีการจัดอาหารกลางวันที่ถูกหลักโภชนาการและจัดอาหารว่างที่เหมาะสมให้นักเรียน
1.3 โรงเรียนมีการบูรณาการหลักสูตรการเรียนรู้ด้านทันตสุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกชั้นเรียน
1.4 มีการจัดทำโครงงาน/นวัตกรรม/งานวิจัยด้านทันตสุขภาพ อย่างน้อย 1 เรื่องต่อหนึ่งเครือข่าย
1.5 มีระบบเฝ้าระวังทันตสุขภาพทุกโรงเรียน ครอบคลุมทุกชั้นเรียน โดยมีครูหรือทันตบุคลากรเป็นผู้ตรวจสุขภาพช่องปาก นักเรียน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง มีการวิเคราะห์ข้อมูลและสะท้อนข้อมูลแก่ผู้บริหาร ผู้ปกครอง และชุมชน รวมทั้งมีการให้บริการ รักษาทางทันตกรรมแก่นักเรียน และการส่งต่อเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
1.6 มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เข้ามามี ส่วนร่วมในการดำาเนินงานด้านทันตสุขภาพของโรงเรียน
1.7 เครือข่ายสุขภาพอำเภอรัตภูมิให้การสนับสนุนทางวิชาการและทรัพยากรต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมกระบวนการ สร้างเครือข่าย เอื้ออำนวยให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำงานร่วมกันภายในเครือข่าย
2. สำรวจกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันวิถีใหม่ เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ที่เกิดจากกิจกรรมการแปรงฟันด้วย ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์โรงเรียนในเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกชั้นเรียน โดยมีครูประจำชั้น หรือแกนนำนักเรียนคอยกำกับดูแลความ เรียบร้อย โดยการตรวจสอบใน 4 ประเด็น ได้แก่
2.1 อุปกรณ์การแปรงฟันครบถ้วน ประกอบด้วย แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แก้วน้ำ
2.2 ปฏิบัติกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันที่โรงเรียน
2.3 จัดเก็บอุปกรณ์แปรงฟันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
2.4 ฟันสะอาดหลังจากแปรงฟันจากการสังเกตแผ่นคราบจุลินทรีย์หรือการย้อมสีฟัน
3. สำรวจและเก็บข้อมูลการบริโภคอาหารว่างและควบคุมการบริโภคอาหารว่างที่เสี่ยงต่อฟันผุในโรงเรียน
4. วางแผนการดำเนินงานบูรณาการหลักสูตรการเรียนรู้ด้านทันตสุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกชั้นเรียน
5. สำรวจและเก็บข้อมูลทันตสุขภาพของนักเรียนภายในโรงเรียนโดยครูและทันตบุคลากร และเกิดการวิเคราะห์ข้อมูลและ สะท้อนข้อมูลแก่ผู้บริหาร ผู้ปกครอง และชุมชนรวมทั้งมีการให้บริการรักษาทางทันตกรรมแก่นักเรียน และการส่งต่อเพื่อรับการรักษาที่ เหมาะสม โดยหารือร่วมกับกลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลรัตภูมิ
6. จัดอบรมคณะทำงานเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก วิธีการแปรงฟันวิถีใหม่ การใช้ไหมขัดฟันและฝึกปฏิบัติจริงให้แก่คณะทำงาน ประกอบด้วยครูอนามัย ครูประจำชั้น และแกนนำนักเรียนโรงเรียน
7. จัดมุมทันตสุขศึกษาเพื่อให้นักเรียนตลอดจนบุคคลทั่วไปได้มีความรู้เรื่องสุขภาพช่องปาก
8. เจ้าหน้าที่กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลรัตภูมิออกให้บริการทันตกรรม โดยให้บริการตรวจฟันลงในแบบบันทึกการตรวจฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน ชั้น ป.1-ป.6 เคลือบฟลูออไรด์เด็กอายุ 6-12 ปี โดยใช้ฟลูออไรด์เข้มข้นเฉพาะที่ และเด็กนักเรียน ป.1-ป.6 ได้รับ บริการทันตกรรม ขูด/อุด/ถอน ตามความเหมาะสม
9. มีการจัดกิจกรรมรณรงค์และประกวดผลงานวิชาการด้านทันตสุขภาพเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในเครือข่าย
- เครือข่ายสุขภาพอำเภอรัตภูมิให้การสนับสนุนทางวิชาการและทรัพยากรต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมกระบวนการสร้างเครือข่าย เอื้ออำนวยให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำงานร่วมกันภายในเครือข่าย เกิดการกำหนดนโยบายส่งเสริมทันตสุขภาพใน โรงเรียนเพื่อให้การดำเนินการส่งเสริมทันตสุขภาพในโรงเรียน สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- โรงเรียนในเครือข่ายจัดกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวันวิถีใหม่ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ครอบคลุมทุกชั้นเรียน
- โรงเรียนในเครือข่ายปลอดน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ไอศกรีม และเครื่องดื่มรสหวาน น้ำตาลไม่เกิน 5%) และมีการจัดอาหาร กลางวันที่ถูกหลักโภชนาการและจัดอาหารว่างที่เหมาะสมให้นักเรียน
- โรงเรียนในเครือข่ายมีการบูรณาการหลักสูตรการเรียนรู้ด้านทันตสุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกชั้นเรียน
- โรงเรียนในเครือข่ายมีระบบเฝ้าระวังทันตสุขภาพทุกโรงเรียน ครอบคลุมทุกชั้นเรียน โดยมีครูหรือทันตบุคลากรเป็นผู้ตรวจสุขภาพช่อง ปากนักเรียน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง มีการวิเคราะห์ข้อมูลและสะท้อนข้อมูลแก่ผู้บริหาร ผู้ปกครอง และชุมชน รวมทั้งมีการ ให้บริการรักษาทางทันตกรรมแก่นักเรียน และการส่งต่อเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมทำให้นักเรียนเข้าถึงการบริการทันตกรรมมากขึ้นและ มีความครอบคลุมมากขึ้น
- โรงเรียนในเครือข่ายมีการจัดทำโครงงาน/นวัตกรรม/งานวิจัยด้านทันตสุขภาพ อย่างน้อย 1 เรื่อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2566 15:10 น.