กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ตามที่ประชากรทั้งประเทศ มีประชากรสูงอายุสูงขึ้นถึงร้อยละ 20 ใน พ.ศ.2564 กลายเป็น “สังคมสูงอายุ อย่างสมบูรณ์” (complete aged society) จากการสำรวจของกรมอนามัย (2556) พบว่าผู้สูงอายุร้อยละ 95 เจ็บป่วยด้วยโรคใดโรคหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรังซึ่งจะนำไปสู่ภาวะทุพพลภาพและพึ่งพิงและมีผู้ป่วยนอนติดเตียงร้อยละ 1 นอกจากนั้นยังพบว่าผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงระดับสูง แต่ต้องดูแลตนเองหรือไม่มีคนดูแลถึงร้อยละ 13 ในกลุ่มเดียวกัน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการดำเนินการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เป้าหมายสำคัญป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรงมีการเจ็บป่วยจนต้องอยู่ในภาวะพึ่งพิง และหากผู้สูงอายุอยู่ในภาวะพึ่งพิงจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดให้มีบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขแก่ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิง โดยใช้ท้องถิ่นและชุมชนเป็นฐานในการจัดการดูแล สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สนับสนุนค่าใช้จ่ายผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการ และบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และเอกสารแนบท้ายประกาศ ฯ ณ วันที่ 13 กันยายน 2561 และประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 กำหนดให้เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพในส่วนค่าบริการสาธารณสุข สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิง ตามข้อ 7 วรรคสองให้สนับสนุนแก่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนหน่วยบริการหรือสถานบริการ เพื่อจัดบริการสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิงต่อปีตามชุดสิทธิประโยชน์การบริการด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง และบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิง ที่กำหนดในเอกสารหมายเลข 2 แนบท้ายประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ตามโครงการที่คณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิงอนุมัติ
เทศบาลเมืองคอหงส์ เป็นพื้นที่บริบทหนึ่งที่เผชิญกับการเพิ่มของกลุ่มผู้สูงอายุ มีจำนวน ๓,๑๓๐ คนคิดเป็นร้อยละ ๑๕.๒๖ ของประชากรทั้งหมด อันประกอบด้วยผู้สูงอายุที่ติดสังคม ติดบ้าน และติดเตียง สัดส่วนโครงสร้างประชากรเทศบาลเมืองคอหงส์ในปัจจุบันวัยสูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ข้อมูลทะเบียนราษฎร์เทศบาลเมืองคอหงส์ ๒๕๖๒) และมีความต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน โดยในกลุ่มผู้สูงอายุวัยต้นและวัยกลาง ยังเป็นกลุ่มทีมีศักยภาพและสามารถช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจาก ๒ กลุ่มนี้ยังสามารถที่จะใช้พลัง พร้อมนำความรู้ประสบการณ์ที่ตนทำงานมาสร้างประโยชน์ให้กับตนเองและสังคม เว้นแต่เริ่มมีความเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงบ้างเป็นต้น และในกลุ่มวัยปลายต้องการการดูแลอยู่ในภาวะพึ่งพิง ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยและมีภาวะทุพพลภาพ จากการสำรวจภาวะสุขภาพของประชาชนในเขตตำบลคอหงส์ ระหว่างเดือนธันวาคม 2564-กันยายน 2565 พบผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 205 คน จำแนกกลุ่มผู้สูงอายุติดสังคม จำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 18.53 กลุ่มผู้สูงอายุติดบ้าน จำนวน 87 คน คิดเป็นร้อยละ 42.43กลุ่มผู้สูงอายุติดเตียง จำนวน 80 คน คิดเป็นร้อยละ 39.02 ปัญหาที่พบในกลุ่มติดบ้าน/ติดเตียง พบว่าปัญหาการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุให้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นปัญหาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ถึงร้อยละ 20.25 ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ร้อยละ 5 ซึ่งอยู่ในภาวะพึ่งพิงระดับสูง

ดังนั้น เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่เทศบาลเมืองคอหงส์ ได้รับการดูแลขั้นพื้นฐานตามชุดสิทธิประโยชน์การบริการสาธารณสุข งานศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองคอหงส์ (บ้านปลักธง) จึงได้จัดทำโครงการจัดบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิง เทศบาลเมือง คอหงส์ ประจำปี 2566