โครงการส่งเสริมให้ความรู้ผู้ปกครองเรื่องสุขภาพช่องปากของเด็ก
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมให้ความรู้ผู้ปกครองเรื่องสุขภาพช่องปากของเด็ก |
รหัสโครงการ | 66-L8416-03-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไสกุน |
วันที่อนุมัติ | 21 กุมภาพันธ์ 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2566 - 28 มีนาคม 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 5,167.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวจุฑามาศ พลเดช |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.86,99.947place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
พระราชบัญญัติการศึกษาแห้งชาติ พ.ศ.2552 มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปรัชญาการศึกษาปฐมวัยคือ การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคนตามศักยภาพภายใต้บริบทสังคม และวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ด้วยความรัก ความเอื้ออาทรและความเข้าใจของทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตัวเองและสังคม วัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่เด็กมีการเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ดีมาก สุขภาพของเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดูแลเมื่อเด็กมีปัญญาเรื่องสุขภาพก็จะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กอีกด้วย สุขภาพในช่องปากหมายถึงภาวะที่ปราศจากโรคในช่องปาก เช่นโรคเหงือก โรคฟัน โรคมะเร็ง และอื่นๆอีก การดูแลสุขภาพในช่องปากจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ทารกจนถึงผู้สูงอายุ หลักการดูแลประกอบไปด้วย การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน การไปตรวจกับทันตแพทย์อย่างน้อยปีละสองคร้ัง และการเฝ้าระวังโรคในช่องปาก ปรากฎการณ์ที่พบเป็นปกติภาวะฟันขึ้น เมื่อทารกมีอายุ 6-9 เดือน ฟันซี่แรกจะโผล่ขึ้น เมื่ออายุ 3 ปี ฟันน้ำนมขึ้นครบทุกชุดทั้ง 20 ซี่ หน้าที่สำคัญของฟันน้ำนม - ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็ก - รักษาระยะของฟันแท้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต - ส่งเสริมการพูด ยิ้ม และความมั่นใจในตนเองของเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไสกุนดูแลเด็กอายุตั้งแต่ 2 ปี จนถึง 5 ปี มีจำนวนเด็กนักเรียนทั้งหมด 21 ซึ่งพบว่ามีเด็กที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ซึ่งสุขภาพช่องปากมีความสำคัญต่อสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะในเด็กปฐมวัย โรคฟันในเด็กสามารถพบได้ ตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้นในช่วงขวบปีแรก และอัตราการผุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 1-3 ปี สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กมีฟันผุมาจากพฤติกรรมของผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตรหลานที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการดูแลทำความสะอาดช่องปากไม่ถูกวิธี และมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดโรคฟันผุในฟันน้ำนมอย่างรุนแรง ทำให้เด็กมีความเจ็บปวดเคี้ยวอาหารไม่ได้ตามปกติ ได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอ และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กได้ การเกิดฟันผุในฟันน้ำนมนอกจากจะมีผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพของเด็กในขณะนั้นแล้ว ยังมีผลเสียต่อฟันแท้ของเด็กในอนาคตด้วย กล่าวคือ ฟันน้ำนมที่เสียหรือหลุดไปก่อนที่ฟันแท้จะขึ้นแทนที่ จะทำให้ฟันที่อยู่ติดกันเอียงเข้าหาช่องว่างทำให้ฟันแท้ที่จะขึ้นแทนตำแหน่งนั้นไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติ อาจจะขึ้นมาในลักษณะบิกซ้อนกัน หรือมีขนาดใหญ่ไม่เหมาะกับใบหน้าของเด็ก ซึ่งจะเป็นปมด้อยทำให้เด็กไม่กล้าแสดงออก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไสกุน จึงเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพช่องปากของเด็ก จึงได้จัดโครงการส่งเสริมให้ความรู้ผู้ปกครองเรื่องสุขภาพช่องปากของเเด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้เรื่องดผุแลสุขภาพช่องปากของเด็ก ผู้ปกครองได้นำความรู้ไปดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กได้อย่างถูกวิธีและเด็กมีอุปกรณืแปรงฟันหลังรับประธานอาหารทุกคน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่ออบรมให้ความรู้ผู้ปกครองเรื่องสุขภาพช่องปากของเด็ก ผู้ปกครอง ร้อยละ 90 มีความรู้ความเข้าใจ เรื่องสุขภาพช่องปากของเด็ก |
||
2 | เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถนำความรู้เรื่องสุขภาพช่องปากของเด็กไปดูแลบุตรหลานได้ ผู้ปกครอง ร้อยละ 90 สามารถนำความรู้เรื่องสุขภาพช่องปากของเด็กไปดูแลบุตรหลานได้ |
||
3 | เพื่อให้เด็กมีอุปกรณ์แปรงฟันได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี เด็ก ร้อยละ 90 ได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี |
1.ผู้ปกครองมีความรู้เรื่องสุขภาพช่องปากของเด็ก 2.ผู้ปกครองสามารถนำความรู้เไปดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กได้อย่างถูกวิธี 3.เด็กมีอุปกรณ์แปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกคน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 11:18 น.