โครงการส่งเสริมให้ความรู้เด็กและผู้ปกครองเรื่องโยคะ
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมให้ความรู้เด็กและผู้ปกครองเรื่องโยคะ |
รหัสโครงการ | 66-L8416-03-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไสกุน |
วันที่อนุมัติ | 21 กุมภาพันธ์ 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2566 - 24 กุมภาพันธ์ 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,001.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวจุฑามาศ พลเดช |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.86,99.947place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โยคะ คือการฝึกพัฒนาร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาน โดยเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องทำพร้อมกับการกำหนดลมหายใจ นับเป็ฯการเตรียมกายใจให้พร้อมเพื่อสร้างเสริมสมดุลให้เกิดขึ้น โดยผลพลอยได้นั้นไม่เพียงแต่ช่วยผ่อนคลายความเครียด หรือทำให้จิตใจสงบเย็นลงได้เท่านั้น ทว่ายังช่วยให้สุขชภาพดี เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ แลพทำให้ระบบภายในร่างกายมีความสมดุลยิ่งขึ้นด้วย ประโยชน์ที่มากมายดังกล่าวข้างต้น จึงไม่น่าแปลกที่โยคะจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมานานนับพันปี ทั้งในปัจจุบันไม่เพียงแต่เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้นที่หันมาฝึกโยคะเพื่อการมีสุขภาพที่ดี เพราะมีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนให้ลูกในวัยเรียนได้รับการฝึกโยคะเพื่อพัฒนาจิตใจให้แจ่มใส และมีร่างกายที่แข็งแรงเช่นเดียวกัน โดยในการฝึกโยคะสำหรับเด็กนั้น ผู้ฝึกสอนมักจะเลือกท่าทางที่ไม่ยากมาก อาทิ ท่าผีเสื้อ ท่าภูเขา ท่ากระต่าย ท่าคีม ท่างู ท่าสุนัข ท่าต้นตาลเอน ท่าต้นไม้ ซึ่งการฝึกในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที ไมามากไปกว่านั้น ซึ่งเมื่อเด็กๆสามารถฝึกท่าทางน่ารักๆเหล่านี้ได้ ก็มักจะเกิดความภูมิใจ จึงนับเป็นกุศโลบายที่ดีต่อพัฒนาการในด้านต่างๆของเด็กทั้งร่างกาย จิตใจและอารมณ์ โยคะถือเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบหนึ่งที่ช่วยสร้างเสริมร่างกายเด็กให้แข็งแรง ช่วยการเจริญเติบฌตของกระดูกและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีการยืดเหยียด มีความอ่อนตัว รวมถึงช่วยฝึกการทรงตัว ส่งผลให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางทันอาจมองว่า การฝึกโยคะจะคลายกับการฝึกยิมนาสติก แต่ในความเป็นจริงนั้นมีความแตกต่างกัน เพราะการเล่นยิมนาสติกจะเน้นการฝึกสมรรถภาพร่างกาย มุ่งเน้นการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอและต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมากแต่การฝึกโยคะเป็นเรื่องง่ายๆเหมือนให้เด็กนั่งนิ่งๆสักพักแล้วจดจ่อกับลมหายใจเท่านั้นเอง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปสอนเด็กๆได้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไสกุน จึงเล็งเห็นความสำคัญของการฝึกโยคะสำหรับเด็กปฐมวัย จึงได้ตัดโครงการส่งเสริมให้ความรู้เด็กนักเรียนและผู้ปกครองเรื่องโยคะ เพื่อให้เด็กนักเรียนและผู้ปกครองได้มีความรู้เรื่องการฝึกโยคะและช่วยเสริมสร้างร่างกายเด็กให้แข็งแรงช่วยการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดเหยียด มีความอ่อนตัว รวมถึงช่วยฝึกการทรงตัว ส่งผลให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่ออบรมให้ความรู้เด็กและผู้ปกครองเรื่องโยคะ ผู้ปกครอง ร้อยละ 90 มีความรู้ความเข้าใจ เรื่องโยคะ |
||
2 | เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองสามารถฝึกท่าทางโยคะได้ ผู้ปกครอง รร้อยละ 90 สามารถฝึกโยคะได้ |
||
3 | เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรงเจริญเติบโตเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน ผู้ปกครอง ร้อยละ 90 มีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรงเจริญเติบโตเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน |
1.เด็กและผู้ปกครองมีความรู้เรื่องโยคะ 2.เด็กและผู้ปกครองสามารถฝึกทำท่าทางโยคะได้ 3.เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรงเจริญเติบโตเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 11:30 น.