โครงการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนในชุมชน
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนในชุมชน |
รหัสโครงการ | 66-L1485-2-16 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 11 |
วันที่อนุมัติ | 15 กุมภาพันธ์ 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2566 - 31 สิงหาคม 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 8 กันยายน 2566 |
งบประมาณ | 12,090.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายปรีชา จงทอง ตำแหน่ง ประธาน อสม.หมู่ที่ 11 บ้านเจ้าพะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.288,99.862place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคขาดสารไอโอดีน เป็นปัญหาสำคัญปัญหาหนึ่งของประเทศ เป็นปัญหาสาธารณสุขทางด้านโภชนาการที่สำคัญ และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะปัญญาอ่อน พบได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่จะมีผลร้ายแรงชัดเจนในทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงอายุ 3 ปี โดยในหญิงตั้งครรภ์หากขาดสารไอโอดีนจะส่งผลต่อสมองของทารกในครรภ์ เพราะสารไอโอดีนมีความสำคัญมากต่อการพัฒนาสมอง ทารกที่อยู่ในครรภ์ต้องการสารไอโอดีนจากมารดาในการเพิ่มขนาดเซลล์สมองและช่วยสร้างโครงข่ายประสาทที่ต่อเชื่อมถึงกัน สร้างปลอกหุ้มเซลล์ใยประสาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากขาดสารไอโอดีนจะส่งผลให้เกิดความด้อยของสมองในทารกและมีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรสูง อาจทำให้ทารกตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือพิการตั้งแต่กำเนิด เด็กที่เกิดจากมารดาที่ขาดสารไอโอดีนจะส่งผลให้สมองและร่างกายเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ ร่างกายแคระแกร็น รูปร่างเตี้ย และมีส่วนทำให้ความฉลาดทางสติปัญญาของเด็กตํ่าลง หรือมีโอกาสที่จะเป็นปัญญาอ่อน เป็นใบ้ ช่วยตัวเองไม่ได้กลายเป็นเด็กเอ๋อ อันจะบั่นทอนคุณภาพชีวิตโดยรวม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ส่วนในเด็กวัยเรียนที่ขาดสารไอโอดีนจะส่งผลให้เรียนรู้ช้า เฉื่อยชา เป็นคอพอก ส่วนในวัยผู้ใหญ่หากขาดสารไอโอดีนจะทำให้กลายเป็นคนเซื่องซึม เฉื่อยชาประสิทธิภาพการทำงานลดลง
ปัจจุบันยังพบว่าประชาชนทุกภาคของประเทศยังประสบปัญหาโรคขาดสารไอโอดีน ระดับความรุนแรงต่างๆ อีกจำนวนมาก ถึงแม้ว่าพื้นที่หมู่ 11 ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นพื้นที่ที่อยู่ภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งภาคใต้เป็นพื้นที่ ที่มีภาวการณ์ขาดสารไอโอดีนน้อยที่สุดของประเทศก็ตาม แต่ความเสี่ยงที่เกิดภาวะโรคขาดสารไอโอดีนก็ยังคงมีอยู่ ปัญหาดังกล่าวไม่อาจขจัดให้หมดไปได้ ต้องมีการเฝ้าระวังและควบคุมป้องกันตลอดเวลา เพราะหากประชาชนไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการบริโภคอาหารที่มีสารไอโอดีนให้เพียงพออย่างต่อเนื่อง ก็สามารถเกิดโรคขาดสารไอโอดีนได้อีก
ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหมู่ที่ 11 ตำบลปะเหลียน ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของไอโอดีน ที่มีผลต่อการเจริญเติบโต สติปัญญา การเรียนรู้ จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนในชุมชน ขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันไม่ให้ ตนเอง ครอบครัวและชุมชน เป็นโรคขาดสารไอโอดีน และเห็นความสำคัญในการบริโภคอาหารที่มีสารไอโอดีนให้เพียงพอต่อร่างกาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคขาดสารไอโอดีน
|
||
2 | 2.เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันไม่ให้เป็นโรคขาดสารไอโอดีน
|
||
3 | 3.เพื่อให้ประชาชนเลือกรับประทานอาหารที่มีสารไอโอดีนและเลือกเกลือบริโภคในครัวเรือนอย่างถูกต้อง
|
๑. ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการดำเนินงานตามโครงการฯ
๒. จัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนในชุมชน ปี ๒๕๖๖ เสนอของบประมาณ
๓. ประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการแก่สมาชิกในชมรม อสม. และขอความร่วมมือในการดำเนินงาน
๔. ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ
๔.๑ จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคขาดสารไอโอดีน และการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารไอโอดีน ป้องกันไม่ให้เป็นโรคขาดสารไอโอดีน
๔.๒ จัดกิจกรรมตรวจเกลือบริโภคที่ใช้ในแต่ละครัวเรือน
5.สรุปผลโครงการ
- ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคขาดสารไอโอดีน
- ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันไม่ให้เป็นโรคขาดสารไอโอดีน
- ประชาชนสามารถเลือกรับประทานอาหารและเลือกใช้เกลือบริโภคที่มีปริมาณไอโอดีนเพียงพออย่างถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 14:19 น.