กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์เพศชายเป็นสิ่งที่ผู้ชายควรต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันความสกปรกจากการทำความสะอาดไม่ทั่วถึง ซึ่งความมุ่งหมายสำคัญในเรื่องนี้คือเพื่อการรักษาความสะอาดเป็นสำคัญ ในด้านการแพทย์ให้ความเห็นว่าการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์เพศชายเป็นมาตรการที่ความสำคัญในทางสุขวิทยาเป็นอย่างมาก ปัจจุบันด้านสุขวิทยามีความเจริญมากกว่าอดีต สมควรแนะนำให้เด็กผู้ชายทุกคนได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ โดยในรายที่เด็กมีหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์แคบและตึงมาก อาจทำให้ไม่สามารถดึงให้หุ้มอวัยวะสืบพันธุ์เพศชายได้หมด อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดเมื่ออวัยวะสืบพันธุ์เพศชายแข็งตัวและปัสสาวะลำบาก ส่วนในรายที่มีหนังหุ้มยาวมากเกินควรอาจส่งผลให้มีการขังของน้ำปัสสาวะบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหากชำระความสะอาดไม่ดี สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญทางโรคมะเร็งยังค้นพบว่าการเป็นโรคมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชาย จะมีอัตราสูงในเพศชายที่ไม่ได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์ อีกทั้งการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายยังช่วยในเรื่องการป้องกันและลดปัญหาการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ โรคซิฟิลิส โรคมะเร็งปากมดลูกของเพศหญิง โรค HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้ถึงร้อยละ 60-70   ดังนั้น คณะกรรมการมัสยิดนูรุลฮูดาบ้านท่าโพธิ์ออก หมู่ที่ 2 ตำบลท่าโพธิ์ จึงมีความประสงค์ที่จะจัดทำโครงการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายในเยาวชน ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในการดูแลสุขภาพ สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขด้านการส่งเสริมและป้องกันโรคติดเชื้อ และเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาวะค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลภายในครอบครัวของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ จะทำการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายในเยาชน อายุระหว่าง 5 – 12 ปี และดำเนินการในช่วงปิดภาคเรียนเพื่อความสะดวกในการดูแลรักษาแผล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 7 – 15 วัน เพื่อให้แผลฟื้นตัว