กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

จากสถานการณ์ปัจจุบัน โรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ ที่หน่วยงานและทุกภาคส่วนต้องระดมความร่วมมือเพื่อป้องกันเเละเเก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยาพบว่าเยาวชนมีเเนวโน้มอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพราะโรคหนองใน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวี มากขึ้นกว่าคนปกติ 3-9 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปปลอดภัยโดยพบว่าอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในรอบปีที่ผ่านมา ยังต่ำอยู่ เพียงร้อยละ 46.9 เท่านั้น ผลกระทบประการสำคัญที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของวัยรุ่น นอกจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ คือ การตั้งครรภ์ การคลอดบุตรชองเเม่วัยรุ่นในประเทศไทย ปี 2564 พบว่า มีวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่มาคลอดบุตร รวม 104,289 คน เท่ากับว่าในเเต่ละวันมีเด็กที่เกิดจากแม่วัยรุ่นถึง 286 คน สอดคล้องกับการดำเนินงานอนามัยแม่เเละเด็กของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลฉลุง มีอัตราการคลอดบุตรอายุน้อยกว่า 20 ปี มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเกิดมาจากมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการร่วมเพศ คิดว่าการร่วมเพศครั้งเดียวเเล้วจะไม่ตั้งครรภ์ การใช้ถุงยางอนามัยจะขัดขวางความรู้สึกทางเพศ โดยร้อยละ 80 เป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม ทำให้วัยรุ่นตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์หรือทำแท้ง ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ปลอดภัยเสี่ยงอันตรายและอาจเสียชีวิตได้ เเละยังพบว่า มีวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลฉลุง ได้ตระหนักถึงปัญหาการมีพฤติกรรมเสี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การระบาดของโรคเอดส์ในเด็กเเละเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้การดำเนินงานการสร้างความเข้มเเข็งในการดำเนินงานเพื่อการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์ในเด็กและเยาวชนจึงได้จัดโครงการป้องกันเเก้ไขปัญหาเอดส์และเพศสัมพันธ์แก่เยาวชน และประชากรกลุ่มเสี่ยง ให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการป้องกันตนเอง เเละมีพฤติกรรมที่ปลอดภัยจากเอดส์ตลอดจนการสร้างค่านิยมในการมีเพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาเฃิงป้องกันและสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของโครงการเพื่อมีทักษะในการป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นผ่านตามเกณฑ์ไม่เกินร้อยละ 10 รวมทั้งปัญหาพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยใช้การวิเคราะห์ปัญหาโดยใช้เทคนิค AIC (Appreciahon Influeuce Control) มุ่งเน้นการพัฒนาแบบพร้อมกันทุกด้าน วิธีคิดและวิธีปรับทำงานเปลี่ยนจากการ ฟัง จดจำ ทำตามกันมาเป็นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม การรับคำสั่งทำตาม ควบคุม มาเป็นร่วมกันคิด วิเคราะห์ เเละร่วมกันเป็นเจ้าของและจีดการเองโดยทางภาครัฐเป็นผู้สนับสนุนและเสริมพลัง