กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ปัญหาการสูบบุหรี่และดื่มสุราในประเทศไทยยังทวีความรุนแรง โดยเฉพาะอายุของนักสูบหน้าใหม่ที่อายุน้อยลงและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และส่วนใหญ่จะมีการใช้สารเสพติดอื่นร่วมด้วย เมื่อใช้ไปนานๆ จะส่งผลกระทบทั้งด้านร่างกาย/สมอง และมีผลกระทบต่อครอบครัว เชื่อมโยงถึงปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ อย่างกว้างขวางและเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทำให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเป็นจำนวนมากการสำรวจข้อมูลในเขตรับผิดชอบของ รพ.สต.บ้านลำใน ตำบลบ้านนา พบเป็นผู้ชายร้อยละ 38.25 และผู้หญิงร้อยละ 2.15 โดยสูบบุหรี่จากโรงงานอย่างเดียวมากที่สุด รองลงมาคือบุหรี่มวนเอง และพบว่ายังมีคนที่ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้านร้อยละ 28.1 ซึ่งจากสถิติคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละประมาณ 52,000 คน เฉลี่ยวันละ 142 คน ชั่วโมงละ 6 คน และเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากบุหรี่ร้อยละ 12 ของการตายทั้งหมด ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสตายด้วยโรคมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 20 เท่าที่สำคัญ 1 ใน 4 เป็นเด็กเล็กที่ตายเพราะได้รับควันบุหรี่มือสองหากการควบคุมการบริโภคยาสูบไม่เข็มแข็งจะมีการตายด้วยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ถึง 8 ล้านคนใน 20 ปีข้างหน้า ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในระยะเวลา 3 ปี จะดำเนินการเพื่อลดอัตราจำนวนประชากรผู้สูบบุหรี่ที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป จากปัจจุบันร้อยละ 19.9 ให้เหลือร้อยละ 16.7 และลดอัตราการรับควันบุหรี่มือสองให้เหลือร้อยละ 25 ดังนั้น รพ.สต.บ้านลำใน ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการสูบบุหรี่ สุรา และสารเสพติดและผลกระทบที่มีในวงกว้างต่อสังคมและครอบครัว จึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแกนนำลด ละ เลิกบุหรี่ สุราและวิธีการเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประจำปี 2566 เพื่อให้การช่วยเหลือให้ผู้สูบบุหรี่ เลิกสูบ และเลิกดื่มสุรา และสารเสพติดชนิดต่างๆ หรือลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ให้ห่างไกลจากการสูบุหรี่ สุรา และสารเสพติด ต่อไป