กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ปัจจุบันประเทศไทยมีประชาชนเสียชีวิตจากโรคหัวใจเฉลี่ยปีละ 54,000 คนหรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน เป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็งและอุบัติเหตุ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน คือภาวะที่หัวใจหยุดการส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายอย่างทันทีผู้ที่เกิดอาการจะหมดสติใน 10 นาที และเซลล์สมองจะเริ่มเสียหายภายในระยะเวลา 4 นาที จากอาการขาดเลือด ภาวะหัวใจหยุดเต้นหรือหยุดหายใจเฉียบพลัน เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ี่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือจากโรคหัวใจขาดเลือด จากการมีดรคหัวใจอยู่เดิม ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
    ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมีโอกาสเสียชีวิตในไม่กี่นาทีภายหลังหัวใจหยุดเต้น การเริ่มกดนวดหน้าอกโดยเร็วมีผลต่อการกลับมาเต้นของหัวใจ ผู้พบเห็นคนแรกที่เริ่มทำการฟื้นคืนชีพเร็วมีความสัมพันธ์กับอัตรารอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นตามหลักการห่วงโซ่ของการอยู่รอด สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาให้ข้อเสนอแนะว่าบุคคลแรกที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่พบเห็นเหตุการณ์มีบทบาทสำคัญใน3 ห่วงแรกของการช่วยชีวิต คือ 1.เมื่อพบผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินทันที 2.เริ่มกดนวดหน้าอกให้เร็วภายในเวลา 4 นาที และ 3.กระตุ้นหัวใจด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า (AED) แต่พบว่าผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรงพยาบาล ได้รับการช่วยฟื้นคืนชีพโดยพบเห็นคนแรกค่อนข้างน้อยอัตราการรอดชีวิตจนออกจากโรงพยาบาลค่อนข้างต่ำคือประมาณร้อยละ 7.6 -7.9 เท่านั้น     ดังนั้น อาสาสมัครสาธาณสุข หมู่ที่ 1 ได้เล็งเห็นความสำคัญของการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน จึงจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุข ผู้นำชุมชน ประชาชนทั่วไปในเขตรับผิดชอบ รพ.สต.ควนโส ด้านการแพทยืฉุกเฉินปี 2566 เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะที่ถูกต้องในการปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉิน ช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในระหว่างรอนำส่งโรงพยาบาลลดอัตราการสูญเสียชีวิตหรือพิการจากการให้การช่วยเหลือที่ไม่ถูกต้องและสร้างเครือข่ายที่มีขีดความสามารถในการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน