โครงการอบรมให้ความรู้ด้านศาสนา หลักสูตร การอาบน้ำศพและการจัดการศพ
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมให้ความรู้ด้านศาสนา หลักสูตร การอาบน้ำศพและการจัดการศพ |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | มัสยิดบูรฮานุดดีน |
วันที่อนุมัติ | 5 กันยายน 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2566 - 30 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2566 |
งบประมาณ | 48,920.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอับดุลเลาะ นิมะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 20 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นกับคนในชุมชนสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้มีชีวิตอยู่ คือ การจัดการศพไม่ว่าจะเป็นการ อาบน้ำทำความสะอาด หรือชำระสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดมากับศพ เพราะหากผู้จัดการศพไม่มีความรู้ในการจัดการศพ ให้ถูกสุขลักษณะอาจนำไปสู่การติดเชื้อต่าง ๆ จากศพได้เนื่องจากศพเกิดจากหลายสาเหตุซึ่งถ้าผู้จัดการศพไม่มีความรู้ ในการป้องกันตนเองให้ถูกต้องจึงมีวามเสี่ยงจะติดโรคหรือเชื้อต่าง ๆ จากศพได้ดังนั้นผู้ที่ทำความสะอาดศพต้องมี ความรู้เพื่อการปฏิบัติที่ถูกสุขลักษณะทั้งศพและผู้จัดการศพ
การอาบน้ำให้ศพ การห่อศพ การละหมาดญะนาซะฮ์ (ละหมาดให้ศพ) และการฝังศพถือเป็น ฟัรฎูกิฟายะฮฺ ซึ่งหากมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจากชาวมุสลิมได้ทำหน้าที่แล้ว กลุ่มอื่นๆ ก็จะพ้นจากบาปไปด้วย แต่หากทุก คนละเลยไม่มีใครกระทำ ก็จะรับบาปกันทุกคน ถ้าผู้ตายเป็นผู้ชาย ผู้ที่ควรเป็นผู้อาบน้ำให้กับศพมากที่สุดก็คือผู้ที่ ได้รับการสั่งเสียจากผู้ตายเองให้เป็นผู้อาบน้ำให้ หากไม่มีการสั่งเสียจากผู้ตาย ผู้อาบน้ำควรเป็นญาติสนิท เช่น บิดา ของผู้ตายเพราะเป็นผู้ที่มีความผูกพันกับผู้ตายมากที่สุด ประสบการณ์ความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับการจัดการศพ มากกว่าลูก รองลงมาก็คือลูกชาย และลำดับต่อมาก็คือญาติผู้ใกล้ชิดตามลำดับความใกล้ชิด ถ้าผู้ตายเป็นผู้หญิง ผู้ที่ ควรเป็นผู้อาบน้ำให้กับศพผู้ตายมากที่สุดคือผู้ที่ได้รับการสั่งเสียจากผู้ตายเอง ( ในหมู่ผู้หญิงด้วยกัน) ให้เป็นผู้อาบน้ำ ให้ หากไม่มีการสั่งเสียจากผู้ตาย ผู้อาบน้ำเป็นญาติสนิท เช่น มารดาของผู้ตาย รองลงมาคือลูกสาว ลำดับต่อมาก็คือ ญาติผู้หญิงที่ใกล้ชิดตามลำดับ ซึ่งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถอาบน้ำศพและจัดการศพได้ถูกต้อง เนื่องจาก ยังขาดความรู้ความเข้าใจ และวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการอาบน้ำศพตามหลักศาสนาอิสลาม เป็นการอนุรักษ์และ เสริมสร้างประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้ดำรงอยู่ต่อไป ดังนั้น เพื่อเป็นการปลูกฝัง ฝึกฝนและนำหลักการที่ถูกต้องตามหลักศาสนา เพื่อนำไปปรับใช้ได้จริง มัสยิดนูรฮานุดดีน จึงจัดโครงการอบรมให้ความรู้ด้านศาสนา หลักสูตร การอาบน้ำศพและการจัดการศพ ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อเยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการ วิธีการ การจัดการศพและ การอาบน้ำศพที่ถูกต้องตาม หลักการศาสนาอิสลาม 2. เพื่อเป็นการอนุรักษ์และเสริมสร้างประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป 3. เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่เยาวชน ที่ถูกต้องตามหลักการศาสนาอิสลาม 4. เพื่อเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่เทศบาลตำบลต้นไทร ได้รู้จักประเพณีในพื้นที่ที่มีมาอย่างช้านาน
|
- จัดอบรมให้ความรู้ภาคทฤษฎีเกี่ยวกับหลักการ วิธีการ การจัดการศพและ การอาบน้ำศพที่ถูกต้องตาม หลักการศาสนาอิสลาม 2. จัดอบรมให้ความรู้ภาคปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการ วิธีการ การจัดการศพและ การอาบน้ำศพที่ถูกต้องตาม หลักการศาสนาอิสลาม โดยวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ 3. ทําแบบสอบถามความพึงพอใจในกิจกรรมการอบรม
- ผู้เข้ารับการอบรม มีความรู้และนำหลักการ วิธีการ เกี่ยวกับ การจัดการศพ การอาบน้ำศพที่ถูกต้องตาม หลักการศาสนาอิสลาม 2. ผู้เข้ารับการอบรม มีความหวงแหนที่จะอนุรักษ์และเสริมสร้างประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป 3. เยาวชน รับวาด ที่ถูกต้องตามหลักการศาสนาด้าน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2566 12:05 น.