กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ พัฒนาศักยภาพในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง)
รหัสโครงการ 67-L7890-03-002
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 3 สนับสนุนหน่วยงานที่มีหน้ารับผิดชอบเกี่ยวกับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ กลุ่มหรือองค์กรประชาชน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง
วันที่อนุมัติ 6 มีนาคม 2567
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 15 มีนาคม 2567 - 31 กรกฎาคม 2567
กำหนดวันส่งรายงาน 31 สิงหาคม 2567
งบประมาณ 54,595.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง โดยนางจำนรรจ์ ศรประสิทธิ์ ตำแหน่งประธานชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ละติจูด-ลองจิจูด 6.837,100.558place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานผู้สูงอายุ
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 15 มี.ค. 2567 31 ก.ค. 2567 54,595.00
รวมงบประมาณ 54,595.00
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มผู้สูงอายุ 50 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ตั้งแต่ปี 2548 ประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงอายุแล้ว ในปี 2565 ประเทศไทยเข้าสู่ "สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์" (Complete aged society) แล้ว โดยมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปี กว่า 12.9 ล้านคน หรือ 20% จากประชากรทั้งหมด และมีการคาดประมาณว่าในอีกไม่เกิน 15 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็น "สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด" (Super aged society) เมื่อสัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีสูงถึง 28% ของประชากรทั้งหมด ประเทศไทยมีการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี 2525 โดยเริ่มต้นจากแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบบัที่ 1 (พ.ศ. 2525-2544) จากนั้นมีการจัดทำแผนพัฒนาผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545-2564) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่กำหนดทิศทางการพัฒนาและดำเนินงานผู้สูงอายุในภาพรวม ณ ขณะนี้ประเทศไทยใช้แผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545-2564) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ.2563 นอกเหนือจากนโยบายข้าต้น ประเทศไทยยังมีนโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ได้แก่ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนปฏิรูปประเทศ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาและส่งเสริมผู้สูงอายุให้สามารถพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ เป็นต้น ในเดือนพฤษภาคม 2565 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ "ร่างพัฒนาประชากรเพื่อพัฒนาประเทศในระยะยาว ปี 2565-2580" วางโครงสร้างพัฒนาประชากรไทยทุกช่วงวัยด้วยแนวคิด "เกิดดี อยู่ดี กินดี" ให้ความสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การเกิดอย่างมีคุณภาพ การอยู่อย่างมีคุณภาพและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ การแก่และการตายอย่างมีคุณภาพ

ปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ พบได้หลากหลายและแตกต่างกันออกไปในแต่ละครอบครัวและในรายละเอียดปัญหาที่พบมากที่สุดของผู้สูงอายุ ได้แก่ มีรายได้น้อย ด้อยโอกาส เจ็บป่วยเรื้อรัง ว่างงาน ถูกทอดทิ้ง ประสบภัยพิบัติหรือมีติดสารเสพติดในผู้สูงอายุ ปัญหาที่เกิดขึ้นมากจากสภาพพื้นฐานของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย ปัญหาด้านสังคม ปัญหาด้านโภชนาการ ปัญหาด้านการดูแลสุขภาพและการรักษาโรค ปัญหาด้านคำแนะนำทางกฎหมาย เป็นต้น ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาประสบกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบถึงคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้สูงอายุ ประเทศไทยได้เตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งการประกาศเป็นวาระแแห่งชาติ การกำหนดแผนปฏิบัติการผู้สูงอายุแห่งชาติ โอยเฉพาะในปี 2563 ได้กำหนดแนวทางมั่งเน้นเรื่องสังงคมสูงวัยคนไทยอายุยืน ที่ขับเคลื่อนในทุกกระทรวง สำหรับในปี 2566 กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ได้จัดทำแผนบูรณาการรองรับทั้งมิติคนก่อนวัยสูงอายุที่ต้องการสร้างความรู้ความเข้าใจและตระหนักในการก้าวสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพและมิติวัยสูงอายุมีการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้มีความแข็งแรงด้านสุขภาพ มีความมั่นคงในการมีชีวิต มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม รวมถึงการจัดระบบสวัสดิการต่าง ๆ รองรับ

ในเขตเทศบาลตำบลพะตง ณ เดือนมกราคม 2567 มีจำนวนประชากร 7,673 คน เป็นประชากรสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 1,587 คน คิดเป็นร้อยละ 20.69 ของจำนวนประชากรทั้งหมด (ที่มา : งานทะเบียนราษฎร เทศบาลตำบลพะตง ณ เดือนมกราคม 2567) ถือได้ว่าเทศบาลตำบลพะตงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งปัญหาที่พบในพื้นที่ มีทั้งปัญหาด้านสุขภาพ ด้านรายได้และเศรษกิจครัวเรือน ด้านที่อยู่อาศัย การขาดผู้ดูแล เป็นต้น และจากรายงานของสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในประเทศไทยประชากรกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป พบโรคที่ทำให้ผู้สูงอายุสูญเสียสุขภาวะที่ดี 5 อันดับแรกในผู้สูงอายุชาย ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวานและโรคมะเร็งตับ ส่วนผู้สูงอายุหญิง ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ สมองเสื่อมและซึมเศร้า ตามลำดับ และภาวะคุกคามด้านการดูแลผู้สูงอายุในปัจจุบัน ประกอบด้วย 1. ระบบดูแลรักษาผู้สูงอายุยังไม่แตกต่างจากกลุ่มอายุอื่นซึ่งมุ่งเน้นรักษาโรค (Disease management) มากกว่าการรักษาแบบเฉพาะราย (Case management) 2. มาตรฐานในการดูแลผู้สูงอายุในสถานบริการและในชุมชนต้องการการพัฒนา 3. ระบบและรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชนต่าง ๆ 4. บุคลากรที่มีองค์ความรู้และทักษะในการดูแลรักษาผู้สูงอายุ 5. รูปแบบของบริการสาธารณสุขในอนาคต เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยชะลอการเสื่อมของร่างกายและจิตใจ จากปัญหาอันนำมาซึ่งปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม ค่ามช้จ่ายของภาครัฐและครอบครัว สวัสดิการและสุขภาพอนามัยจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล ประเด็นปัญหานี้จึงเป็นประเด็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐจะต้องกำหนดนโยบายเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว

ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง ได้ดำนเนินการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุ) มาแล้วจำนวน 2 รุ่น (ปีงบประมาณ 2563 และ 2566) ซึ่งสรุปผลการดำเนินงานได้ว่ามีกลุ่มผู้สูงอายุที่ให้ความสำคัญ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเกินเป้าหมายทั้ง 2 รุ่น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายมีทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ ช่วงอายุโดยเฉลี่ย 65 - 70 ปี ซึ่งหลักสูตรได้มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและตามสถานการณ์ ตามยุตสมัย มีทั้งการทบทวนความรู้ที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และเรื่องใหม่ ๆ เพิ่มเติม ผลการประเมินโดยแบบสอบถามและการสังเกต เป็นที่น่าพอใจมากต่อการดำเนินโครงการ ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง ขอรับงบประมาณเพื่อจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง) เพื่อป้องกันภาวะคุกคามจากโรคภับไข้เจ็บต่าง ๆ ทั้งจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต โรคที่เกิดจากสภาพแวดล้อม และโรคที่เกิดจากทางจิตใจ เช่น การมีภาวะซึมเศร้า อีกทั้งเป็นการเสริมความรู้ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถพัฒนาองค์ความรู้ตัวเอง ไปให้ความรู้คนรอบตัวต่อไป ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง จึงมีความประสงค์ขอรับงบประมาณในการจัดทำโครงการครั้งนี้

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้ความรู้และการปฏิบัติสร้างทักษะในการดูแลตนเองขั้นพื้นฐานของผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุมีความรู้และทักษะการดูแลตัวเองขั้นพื้นฐานหลังเสร็จสิ้นโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 (เทียบกับแบบประเมินก่อนร่วมโครงการ)

2 เพื่อป้องกันการเกิดภาวะเจ็บป่วยทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และัสงคมในผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุมีภาวะสุขภาพกายและใจดีขึ้น ภาวะการเจ็บป่วยลดลง ร้อยละ 80

stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
คงเหลือ
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 50 54,595.00 0 0.00 54,595.00
15 มี.ค. 67 - 31 ก.ค. 67 กิจกรรมเสริมสร้าง/ทบทวน ให้ความรู้สู่การนำไปปฏิบัติด้วยตนเอง 50 54,595.00 - -
รวมทั้งสิ้น 50 54,595.00 0 0.00 54,595.00

 

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. เสริมสร้างความรู้และทักษะพัฒนาศักยภาพในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ
  2. เสริมสร้าง ป้องกันการเกิดภาวะเจ็บป่วยทางด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคมในผู้สูงอายุ
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2567 14:30 น.