กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในเด็ก 0 – 5 ปี
รหัสโครงการ L8411-01-67-17
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทำนบ
วันที่อนุมัติ 6 มีนาคม 2567
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 เมษายน 2567 - 30 กันยายน 2567
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2567
งบประมาณ 19,500.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวอามีเนาะห์ มะลิแต
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
ละติจูด-ลองจิจูด 6.355399858,101.3271073place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานเด็ก เยาวชน ครอบครัว
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 137 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ข้อมูลจากการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา (รง.506) กองระบาดวิทยา และจากโปรแกรมตรวจสอบข่าว การระบาด (Event based surveillance) กรมควบคุมโรค ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 17 ธันวาคม 2566 พบว่ามีการรายงานผู้ป่วยสงสัยไอกรน 617 ราย จาก 18 จังหวัด อัตราป่วย 0.93 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย อายุ 10 วัน, 18 วัน และอายุ 1 เดือน อัตราป่วยตายร้อยละ 0.49 เป็นผู้ป่วย เพศชาย 324 ราย (ร้อยละ 52.51) เพศหญิง 293 ราย (ร้อยละ 47.49) ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 1 - 4 ปี 220 ราย (35.66) รองลงมากลุ่มอายุน้อยกว่า 1 ปีจ้านวน 176 ราย (ร้อยละ 28.53) กลุ่มอายุ 5 - 14 ปี 133 ราย (21.56) กลุ่มอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 15 ปี 77 ราย (12.48) และไม่ทราบอายุ 11 ราย (1.78) มัธยฐานอายุเท่ากับ 2 ปี(10 วัน – 91 ปี) จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด 5 ดับแรก ได้แก่ ปัตตานี (43.49)ยะลา (24.26) นราธิวาส(16.26)ตรัง (0.78)และสงขลา (0.28) สำหรับการรายงานผู้ป่วยไอกรนของประเทศไทย พบว่ามีแนวโน้มการรายงานเพิ่มสูงขึ้น โดยในปี 2566 พบการรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นประมาณ 30 เท่าของปี 2565 และมีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยมีการระบาดของโรคใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้อมูลจากคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2566 ความครอบคลุมของวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยักและไอกรน เข็มที่ 3 (DTP3) ในภาพรวมของประเทศ เท่ากับ ร้อยละ 88.32 ซึ่งยังต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 90 เมื่อทบทวนข้อมูลความครอบคลุมของวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยักและไอกรน เข็มที่ 3 (DTP3) เป็นรายจังหวัด พบว่ามีจังหวัดที่มีความครอบคลุมของวัคซีนต่ำกว่าเกณฑ์ 38 จังหวัด สำหรับข้อมูลสถานการณ์การระบาดของโรคไอกรนในจังหวัดยะลาตั้งแต่ 1 ต.ค.2566 – 5 ก.พ. 2567 พบมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 245 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 54.32 ต่อแสนประชากร มีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 2 ราย มีผู้ป่วยสงสัยสะสม 719 ราย รวมทั้งสิ้น 1,108 ราย พบกลุ่มป่วยเป็นกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี คิดเป็นร้อยละ 60.81 ของจำนวนผู้ป่วยยืนยันโรคไอกรน และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยคิดเป็นร้อยละ 61 เป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ร้อยละ 16
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคไอกรนในพื้นที่อำเภอบันนังสตาตั้งแต่ 1 ต.ค.2566 – 12 ก.พ. 2567 พบมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 84 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 150.48 ต่อแสนประชากร มีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 1 ราย มีผู้ป่วยสงสัยสะสม 258 ราย รวมทั้งสิ้น 342 ราย ในพื้นที่ตาเนาะปูเต๊ะ พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 12 ราย และมีผู้ป่วยที่สงสัยสะสม 21 ราย รวมทั้งสิ้น 33 ราย ซึ่งโรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis จะพบเชื้อได้บริเวณคอหอยหลังโพรงจมูก การติดต่อสามารถติดต่อและแพร่กระจายผ่านการสัมผัส โดยตรงกับละอองฝอยของเสมหะ น้ำมูก น้ำลายที่เกิดจากการไอหรือจามของผู้ป่วยจึงทำให้เด็กเล็กที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนโดยเฉพาะเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและในโรงเรียนชั้นอนุบาลของสถานศึกษาจะเป็นกลุ่มที่ติดต่อกันง่ายและแพร่ระบาดได้รวดเร็ว จึงจำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กกลุ่มนี้เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างขึ้น ซึ่งโรคไอกรนนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอกรน        เด็ก 0 – 5 ปี ควรได้รับวัคซีนทั้งหมดจำนวน 5 ครั้งตามอายุ จึงจะสามารถป้องกันการเกิดโรคได้ และจะมีผลต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ที่สามารถลดการแพร่ระบาดของโรคได้ก็ต่อเมื่อสามารถรณรงค์ให้มีความครอบคลุมของวัคซีนเท่ากับร้อยละ 90
จากการลงพื้นที่ติดตามวัคซีนเด็กพบว่า รพ.สต.ทำนบ มีเด็กอายุ 0 – 5 ปี ทั้งหมด 738 ราย ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรนแล้ว 142 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.24 และจากการลงพื้นที่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และในโรงเรียนพบว่า มีเด็ก นร.ชั้นอนุบาล ในโรงเรียนทั้งหมด 256 ราย ยินยอมฉีดวัคซีนจำนวน 56 ราย ได้รับครบแล้ว 64 ราย บ่ายเบี่ยง/ปฏิเสธจำนวน 136 ราย และมีนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 148 ราย ยินยอมฉีดวัคซีนจำนวน 33 ราย ได้รับครบแล้ว 31 ราย บ่ายเบี่ยง/ปฏิเสธจำนวน 84 ราย จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า เด็กเล็กที่อยู่กันเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรนน้อยกว่าเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดมาก หลายรายผู้ปกครองปฏิเสธและบ่ายเบี่ยงวัคซีนแต่จากการดูประวัติสมุดสีชมพูเด็กนักเรียนพบว่านักเรียนเคยได้รับวัคซีนมาแล้วแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ จากปัญหาดังกล่าวทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทำนบ โครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในเด็ก 0 – 5 ปี ขึ้น โดยมีกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กเรื่องสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็ก 0 – 5 ปีร่วมกับลงเชิงรุกให้บริการวัคซีนในสถานศึกษาและในหมู่บ้าน เพื่อเร่งรัดแก้ปัญหาวัคซีนในพื้นที่ให้มีครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้เด็กในพื้นที่มีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง ห่างไกลโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้พ่อแม่และผู้เลี้ยงดูเด็กมีความรู้เกี่ยวกับโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

 

2 เพื่อให้เด็ก 0 – 5 ปีได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์

 

stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
คงเหลือ
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 137 19,500.00 1 19,500.00 0.00
1 - 31 ส.ค. 67 กิจกรรม อบรมให้ความรู้ผู้ปกครองเด็ก 0-5 ปี 137 19,500.00 19,500.00 0.00
รวมทั้งสิ้น 137 19,500.00 1 19,500.00 0.00

2.1 ประชุมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้าน ทำนบ และอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อชี้แจงขั้นตอนการดำเนินงาน 2.2. ประสานสานวิทยาการและสถานที่ดำเนินการ 2.3 อบรมให้ความรู้ผู้ปกครองเด็ก 0-5 ปี 2.3. ให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกในชุมชนหมู่ 3,4,5,8,9,10 2.4. ประเมินผลโครงการ

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

6.1 พ่อแม่และผู้เลี้ยงดูเด็กมีความรู้เกี่ยวกับโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนและสามารถดูแลเด็ก 0- 5 ปีหลังได้รับวัคซีนที่ถูกต้อง 6.2 เด็ก 0 – 5 ปีได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2567 10:38 น.