โครงการการส่งเสริมการจัดการสุขภาพแบบองค์รวม ในเขตพื้นที่ ศูนย์บริการสาธารณสุขเตาหลวง ศูนย์สุขภาพชุมชนพาณิชย์สร้างสุข และศูนย์สุขภาพชุมชนกุโบร์รวมใจ
ชื่อโครงการ | โครงการการส่งเสริมการจัดการสุขภาพแบบองค์รวม ในเขตพื้นที่ ศูนย์บริการสาธารณสุขเตาหลวง ศูนย์สุขภาพชุมชนพาณิชย์สร้างสุข และศูนย์สุขภาพชุมชนกุโบร์รวมใจ |
รหัสโครงการ | L7250-1-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์บริการสาธารณสุขเตาหลวง |
วันที่อนุมัติ | 3 เมษายน 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 เมษายน 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 239,160.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางวสุธิดา นนทพันธ์ ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.204461,100.597891place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 180 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันสถานการณ์โรควิถีชีวิตในประเทศไทยกำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะ ๕ โรคสำคัญ ได้แก่ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคไม่ติดต่อ รักษายาก
และไม่หายขาด ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อโรค แต่เกิดมาจากสาเหตุการใช้วิถีชีวิตแบบสังคมคนเมืองสมัยใหม่
ที่มีพฤติกรรมการกินเปลี่ยนแปลงไป โดยบริโภคอาหารหวาน มัน และเค็มเพิ่มขึ้น กินผักผลไม้น้อยลง มีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายน้ำหวาน ร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้น และขาดการออกกำลังกาย จึงส่งผลให้คนไทยมีภาวะน้ำหนักเกินและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลกและประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบมากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความพิการและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิด
โรคล้วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสุขภาพของมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสความเจริญของโลก ประกอบกับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงที่ทำให้มีผู้สงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงยังทำให้ผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่ม ทำให้สำนักระบาดวิทยาต้องดําเนินการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ๕ โรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง
ข้อมูลจำนวนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปี 2566 ในเขตพื้นที่ศูนย์บริการสาธารณสุขเตาหลวง ที่อยู่ในระบบการรักษา มีทั้งหมด 1,843 คน แยกเป็นโรคเบาหวาน จำนวน 266 คน โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 1,045 คน และเป็นทั้งสองโรค จำนวน 532 คน ซึ่งมารับบริการในคลินิกโรคเรื้อรังของศูนย์บริการสาธารณสุขเตาหลวง เครือข่ายโรงพยาบาลสงขลา 175 คน และอีก 1,668 คน รับยาที่โรงพยาบาลสงขลา, โรงพยาบาลอื่นๆ ของรัฐ
และคลินิก
ศูนย์สุขภาพชุมชนพาณิชย์สร้างสุข อยู่ในระบบการรักษา มีทั้งหมด 1,514 คน แยกเป็นโรคเบาหวานจำนวน 118 คน โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 932 คน และเป็นทั้งสองโรค จำนวน 312 คน ซึ่งมารับบริการในคลินิกโรคเรื้อรังของศูนย์สุขภาพชุมชนพาณิชย์สร้างสุข เครือข่ายโรงพยาบาลสงขลา 208 คน และอีก 1,457 คน รับษาที่โรงพยาบาลสงขลา, โรงพยาบาลอื่นๆ ของรัฐ และคลินิก
ศูนย์สุขภาพชุมชนกุโบร์รวมใจ ที่อยู่ในระบบการรักษา มีทั้งหมด 1,528 คน แยกเป็นโรคเบาหวานจำนวน 145 คน โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 983 คน และเป็นทั้งสองโรค จำนวน 400 คน ซึ่งมารับบริการในคลินิกโรคเรื้อรังของศูนย์สุขภาพชุมชนกุโบร์รวมใจ เครือข่ายโรงพยาบาลสงขลา จำนวน 185 คน และอีก 1,343 คน รับยาที่โรงพยาบาลสงขลา,โรงพยาบาลอื่นๆ ของรัฐ และคลินิก
ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทั้ง 3 หน่วยบริการ จะต้องได้รับการดูแลแบบองค์รวมตามมาตรฐานวิชาชีพเฉพาะโรค
เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และไตวาย จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อประเมินผู้ป่วยเรื้อรัง-ติดเตียง-ผู้พิการ-ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยเรื้อรังระยะท้าย ได้รับการดูแลตามมาตรฐานวิชาชีพเฉพาะโรค และลดภาวะแทรกซ้อนโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจ ไตวาย 1.ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะท้าย ได้รับการดูแลแบบองค์รวมตามมาตรฐานวิชาชีพ |
80.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ผู้ป่วยมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและสามารถควบคุมโรคเรื้อรังได้อย่างเหมาะสม 2.ร้อยละ 80 ผู้ป่วยเรื้อรังไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน |
80.00 | |
3 | 3.เพื่อเสริมสร้างความรู้ให้กับแกนนำสุขภาพ 3.ร้อยละ 90 ของแกนนำสุขภาพมีความรู้และทักษะในการจัดการสุขภาพของตนเองและครอบครัว |
90.00 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | เม.ย. 67 | พ.ค. 67 | มิ.ย. 67 | ก.ค. 67 | ส.ค. 67 | ก.ย. 67 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | กิจกรรมที่ 1 งานภาคประชาชนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการส่งเสริมสุขภาพและแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน(3 เม.ย. 2567-30 ก.ย. 2567) | 36,000.00 | ||||||
2 | กิจกรรมที่ 2 งานควบคุมโรคไม่ติดต่อ(3 เม.ย. 2567-30 ก.ย. 2567) | 172,800.00 | ||||||
3 | กิจกรรมที่ 3 สร้างความตระหนักรู้ในการจัดการสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคเรื้อรังและแกนนำสุขภาพเพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรคไตวายเรื้อรัง(3 เม.ย. 2567-30 ก.ย. 2567) | 30,360.00 | ||||||
รวม | 239,160.00 |
1 กิจกรรมที่ 1 งานภาคประชาชนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการส่งเสริมสุขภาพและแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 80 | 36,000.00 | 0 | 0.00 | |
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม | 80 | 36,000.00 | - | ||
2 กิจกรรมที่ 2 งานควบคุมโรคไม่ติดต่อ | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 540 | 172,800.00 | 0 | 0.00 | |
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าอาหารเช้า | 60 | 10,800.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม | 60 | 5,400.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าอาหารกลางวัน | 60 | 10,800.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าตอบแทนวิทยากร | 0 | 7,200.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าวัสดุ อุปกรณ์ในการจัดฐาน | 0 | 9,000.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าโปสเตอร์โฟมบอร์ดความรู้โรคไตวาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ | 0 | 10,800.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าแฟ้มใส่เอกสารประวัติการตรวจรักษาผู้ป่วยเรื้อรัง | 180 | 21,600.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าสติกเกอร์เตือนใจ รู้ไว ไปเร็ว ปลอดภัย จากโรคหลอดเลือดสมองติดที่บ้านผู้ป่วย | 0 | 54,000.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่านวัตกรรมกระเป๋าผ้ากันลืม | 180 | 43,200.00 | - | ||
3 กิจกรรมที่ 3 สร้างความตระหนักรู้ในการจัดการสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคเรื้อรังและแกนนำสุขภาพเพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรคไตวายเรื้อรัง | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 0 | 30,360.00 | 0 | 0.00 | |
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าเครื่องวัดความเค็มในอาหารแบบพกพา (Salt Meter) | 0 | 12,360.00 | - | ||
3 เม.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | ค่าเครื่องตรวจวัดความเค็มในปัสสาวะ KME-03 | 0 | 18,000.00 | - | ||
1.ผู้ป่วยเรื้อรัง-ติดเตียง-ผู้พิการ-ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะท้าย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 2.ผู้ป่วยมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและควบคุมโรคเรื้อรังได้อย่างเหมาะสม 3.นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดกับปฏิบัติให้กับคนอื่นได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2567 10:22 น.