โครงการคัดกรองหาสารเคมีในเลือดของเกษตรกร ปี2567 (ปี 3)
ชื่อโครงการ | โครงการคัดกรองหาสารเคมีในเลือดของเกษตรกร ปี2567 (ปี 3) |
รหัสโครงการ | L3332 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียน |
วันที่อนุมัติ | 20 มีนาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 10 กรกฎาคม 2567 - 12 กรกฎาคม 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 12,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียน |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียน |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.435,100.197place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) ประชากรไทยมีอาชีพพื้นฐานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบผู้มีรายได้น้อย แต่ทำงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัด ท่าทางการทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการปวดหลังและกล้ามเนื้ออักเสบ รวมทั้งการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีพิษทั้งแบบเฉียบพลัน และเรื้อรังตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิการ และปริมาณที่ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถเข้าสู้ร่างกายได้หลายทาง โดยการสัมผัสทางผิวหนังที่ไม่สวมถุงมือและรองเท้าบู๊ท ป้องกันขณะทำงานกับสารเคมี การสูดหายใจละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่มีสารเคมีปนเปื้อน พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากสารเคมีเพิ่มขึ้นยกตัวอย่างเช่น ใช้ถังภาชนะบรรจุสารเคมีที่รั่วซึม ฉีดพ่นสวนทิศทางลมทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มสารเคมีโดยไม่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ซึมเปื้อนทันที เป็นต้นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์ และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่างๆขึ้นมาเช่นโรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ เป็นต้น และพบว่าจากการตรวจสารเคมีในเลือดของเกษตรกรตามโครงการที่ได้ดำเนินการในปี 2565 และ2566 มีผู้มีปริมาณสารเคมีในเลือดอยู่ในระดับ มีความเสี่ยง ร้อยละ 30% และระดับปลอดภัย ร้อยละ 40% ทั้ง 2 ปีที่ดำเนินการ และยังตรวจพบว่ามีสารเคมีในเลือด ระดับ ไม่ปลอดภัย ในปี 2566 จำนวน 3 ราย(ตรวจ 240 ราย)ในขณะที่การตรวจในปี 2565 ไม่พบที่มีสารเคมีในเลือดในระดับไม่ปลอดภัยเลย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ยังเป็นปัญหาที่ต้องติดตามดำเนินการต่อไป จากข้อมูลดังกล่าว แสดงว่าเกษตรกรมีระดับความไม่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทั้งนี้เนื่องจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช อย่างไม่ถูกวิธีและขาดความรู้ จึงส่งผลกระทบกับด้านสุขภาพโดยตรง ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียน จึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกร จึงได้จัดทำโครงการคัดกรองหาสารเคมีในเลือดของเกษตรกร ขึ้น เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงและผู้บริโภคได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดหาปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใด เพื่อทำการเฝ้าระวังต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับพิษจากสารเคมี 1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับความรู้เรื่องพิษจากสารเคมี |
||
2 | 2.เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการประกอบอาชีพในการใช้สารเคมี 2.เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจเลือดหาสารเคมีตกค้างร้อยละ 80 |
||
3 | 3.เพื่อให้ผู้ที่มีภาวะเสี่ยง ได้รับการดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกและบริโภคผักปลอดสารพิษ 3.เกษตรกรมีความรู้ในการปลูกพืชปลอดสารพิษ และวิธีการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง |
๑. ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพที่ได้รับการตรวจหาปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสโลหิต ร้อยละ 80 ๒.เกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการประกอบอาชีพได้มีรู้เรื่องเกี่ยวกับพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ๓. เกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการประกอบอาชีพได้รับการเจาะเลือดหาสารเคมีตกค้างและได้รับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการปลูกและบริโภคผักปลอดสารพิษ ๔. ทราบถึงสถานการณ์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในเขตรับผิดชอบ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567 13:26 น.