โครงการเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนู (Leptospirosis)ในชุมชนอย่างเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ 2561
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนู (Leptospirosis)ในชุมชนอย่างเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ 2561 |
รหัสโครงการ | 61-L1519-5-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 5 สนับสนุนกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลวังวิเศษ |
วันที่อนุมัติ | 21 ธันวาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 15 ธันวาคม 2560 - 31 ธันวาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 มกราคม 2561 |
งบประมาณ | 23,170.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลวังวิเศษ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.746,99.398place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 0.00 | |||||
รวมงบประมาณ | 0.00 |
คำเตือน : รวมงบประมาณของทุกงวด (0.00 บาท) ไม่เท่ากับ งบประมาณโครงการ (23,170.00 บาท)
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 114 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) จากสถานการณ์อุทกภัย ภัยพิบัติในพื้นที่ปัจจุบัน ประชาชนมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อสูง ซึ่งพื้นที่อำเภอ วังวิเศษเป็นพื้นที่ราบลุ่มพื้นที่เกษตรกรรมด้านการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน อีกทั้งยังมีบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง เป็นเวลานานทั้งในสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันและบริเวณที่อยาอาศัยประกอบกับภาคใต้มีฤดูฝนติดต่อกันเป็นเวลานานซึ่งในปี 2560 มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ประชาชนขาดรายได้ ไม่สามารถไปทำงานตามปกติได้ ประชาชนที่ทำสวนก็มีปัญหาน้ำท่วมที่ทำกิน จึงส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งโรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู มักจะมาช่วงฤดูฝน ประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการเดินย่ำโคลนหรือพื้นที่ที่มีน้ำขังด้วยเท้าเปล่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันเป็นช่วงๆ ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือ "โรคฉี่หนู" ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า เชื้อเลปโตสไปร่า (Leptospirosis) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือไชเข้าผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน พบมากในพื้นที่ ที่มีการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันเนื่องจากต้องเดินย่ำน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ อาการของโรคคือมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเจ็บกล้ามเนื้อที่โคนขาและน่องอย่างมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ตาแดง บางรายอาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปนหรือตัวเหลืองตาเหลือง เนื่องจากเยื้อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตับวาย ไตวาย และเสียชีวิตได้ นับตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2560 ถึงวันที่11 ธันวาคม 2560 จังหวัดตรังได้รับรายงานผู้ป่วยโรคLeptospirosisจำนวนทั้งสิ้น 138 ราย คิดเป็นอัตราป่วย21.60ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย อัตราตายต่อประชากรแสนคน เท่ากับ0.63อัตราผู้ป่วยตายเท่ากับร้อยละ2.90อำเภอที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ อำเภอวังวิเศษ พบผู้ป่วยจำนวน 18 ราย คิดเป็นอัตราป่วยเท่ากับ 41.57ต่อประชากรแสนคนเมื่อแยกรายตำบลพบว่าตำบลอ่าวตงพบผู้ป่วยสูงที่สุดถึง 7 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 65.24 ต่อแสนประชากรรองลงมา คือตำบลท่าสะบ้า จำนวน 3 ราย อัตราป่วย 55.27 ต่อแสนประชากรและตำบลวังมะปราง 2 ราย อัตราป่วย 52.92 ต่อแสนประชากรตำบลวังมะปรางเหนือ 3 ราย อัตราป่วย 33.39 ต่อแสนประชากรตำบลเขาวิเศษ 2 ราย อัตราป่วย 16.01 ต่อแสนประชากรโรงพยาบาลวังวิเศษมีความห่วงใยสุขภาพประชาชนและตระหนักถึงโรคภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนู (Leptospirosis)ในชุมชนอย่างเร่งด่วนแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันตนเองจากโรคฉี่หนูในช่วงฤดูฝนและช่วงน้ำท่วม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1 เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต จากโรคเลปโตสไปโรซีสในเขตตำบลวังมะปรางเหนือ 1.ร้อยละ80ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเร็วลดการตาย 2.ร้อยละ 80 ผู้ป่วยโรคเลปโตสไปโรซีสไม่เสียชีวิต 3.ร้อยละ100 ผู้ป่วยสงสัยโรคเลปโตสไปโรซีสรับยาปฏิชีวนะเร็วภายใน 5 วัน ลดความรุนแรงของโรค |
||
2 | เพื่อให้ความรู้ประชาชนเรื่องโรคเลปโตสไปโรซีสและการป้องกันตนเองจากโรคดังกล่าว 1.ร้อยละ 80 ของประชาชนมีความรู้เรื่องโรคเลปโตสไปโรซีสและการป้องกันตนเอง 2.ร้อยละ 80 ของประชาชนนำความรู้ที่ได้สามารถป้องกันตนเองลดการติดเชื้อ |
||
3 | เพื่อให้ อสม./อบต./กรรมการ/ผู้นำชุมชนและประชาชนทั่วไปปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้าน 1ร้อยละ 90 อสม./อบต./กรรม จัดกิจกรรมจัดการสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้านลดแหล่งรังโรค 2 ร้อยละ 90 อสม.คัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชนที่มีประวัติตรงตามแนวทางด้านสาธารณสุข |
- จัดทำแผนงานโครงการขออนุมัติงบประมาณดำเนินการ
- ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง
- จัดประชุมชี้แจงการดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
- จัดตั้งศูนย์การเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีสในระดับตำบล/รพ.สต.
- รณรงค์ประชาสัมพันธ์โดยรถประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการควบคุมและป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู
- รณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบแบบเคาะประตูบ้านเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันตนเองจากโรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนูและการปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในชุมชนทุกหลังคาเรือน
- ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน
- รายงานผลการปฏิบัติงานเมื่อเสร็จสิ้นโครงการ
1.ประชาชนมีความรู้เรื่องโรคเลปโตสไปโรซีสและสามารถป้องกันตนเองจากโรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู และกำจัดพาหะนำโรคได้ด้วยตัวเอง 2. สามารถลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต จากโรคเลปโตสไปโรซีสในเขตพื้นที่โรงพยาบาลวังวิเศษ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2560 15:48 น.