โครงการเด็กฟันสวย ยิ้มใส ห่างไกลฟันผุ
ชื่อโครงการ | โครงการเด็กฟันสวย ยิ้มใส ห่างไกลฟันผุ |
รหัสโครงการ | 68-L3026-01-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะตา |
วันที่อนุมัติ | 28 มกราคม 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2567 - 30 กันยายน 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2568 |
งบประมาณ | 20,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวรอฮีมะฮ์ อับดุลเลาะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 มี.ค. 2568 | 31 ต.ค. 2568 | 20,000.00 | |||
รวมงบประมาณ | 20,000.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 140 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันปัญหาด้านสุขภาพเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะโรคฟันผุจะพบมากในเด็กนักเรียนประถมศึกษาเมื่อเทียบกับโรคอื่นๆ ที่ตรวจพบในกลุ่มเดียวกัน ปัญหาด้านทันตสุขภาพนั้น นอกจากจะมีผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพช่องปากของเด็กแล้วยังมีผลกระทบต่อการเรียน และพัฒนาการของเด็กนักเรียนประถมศึกษาในช่วงอายุ ๖-๑๒ ปี เป็นวัยที่มีฟันแท้ขึ้นใหม่ๆ ลักษณะรูปร่างฟันมีหลุมร่องลึกทำให้เกิดโรคฟันผุได้ง่ายหากขาดทั้งความรู้ในเรื่องโรคในช่องปาก ความตระหนักในการดูแลสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลช่องปากล้วนก่อให้เกิดแนวโน้มโรคฟันผุ และภาวะเหงือกอักเสบสูงขึ้น ตลอดจนมีข้อจำกัดในเรื่องความสามารถในการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเองล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคในช่องปากได้ง่าย หากไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีพอโรคในช่องปากเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้และสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเริ่มต้นส่งเสริมตั้งแต่วัยเด็ก การฝึกฝนให้เด็กมีทันตสุขนิสัยที่ดีและการส่งเสริมและป้องกัน รวมทั้งการบำบัดรักษาในระยะเริ่มแรกของการเป็นโรคจะช่วยป้องกันและควบคุมโรคในช่องปากของเด็กได้
จากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา มีอัตราการเกิดโรคฟันผุทำให้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางทันตสาธารณสุขต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ส่วนใหญ่จะประสบปัญหาทางทันตสุขภาพ ดังนี้ ๑. มีฟันผุเพิ่มขึ้น๒. ไม่มีกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวัน ๓.กินอาหารรสชาติติดหวาน จากการสำรวจนักเรียนโรงเรียนบ้านละหารยามูปีการศึกษา ๒๕๖๖พบว่านักเรียนมีฟันแท้ผุ จำนวน ๔๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๕๗ และในพื้นที่ตำบลกอลำ หมู่ที่ ๑ ๒ และ ๓ พบว่ามีฟันผุ อุด ถอนที่สูงมากของนักเรียนอายุ ๑๒ ปี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑.๗๙ ซี่ต่อ เนื่องจากนักเรียนขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเอง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาทางทันตสุขภาพที่สำคัญ ประกอบด้วย การตรวจสุขภาพช่องปากการให้สุขศึกษา การให้บริการทันตกรรม และการแปรงฟันที่ถูกวิธี
ในการนี้ ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะตา ได้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในโรงเรียนประถมศึกษา "เด็กสะตาฟันสวย ยิ้มใส ห่างไกลฟันผุ "ขึ้น เพื่อให้เด็กนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีความตระหนักในการดูแลสุขภาพช่องปาก และได้รับการดูแลทันตสุขภาพอย่างเหมาะสม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อลดภาวะฟันผุของเด็กวัยเรียน 2.เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมที่ดีขึ้นในการดูแลสุขภาพช่องปาก 3.เพื่อให้นักเรียนมีการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันเป็นประจำทุกวัน 4.เพื่อให้นักเรียนมีการแปรงฟันอย่างถูกวิธี 5.เพื่อเสริมสร้างสุขภาพอนามัยช่องปากและการป้องโรคฟันผุในเด็ก
|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 20,000.00 | 0 | 0.00 | 20,000.00 | |
1 ต.ค. 67 - 30 ก.ย. 68 | อบรมให้ความรู้เด็กฟันสวย ยิ้มใส ห่างไกลฟันผุ | 0 | 20,000.00 | - | - | ||
รวมทั้งสิ้น | 0 | 20,000.00 | 0 | 0.00 | 20,000.00 |
๑. นักเรียนมีสภาวะทางทันตสุขภาพที่ดีขึ้น ๒. นักเรียนมีความเข้าใจและเห็นความสำคัยของการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเอง ๓. นักเรียนมีทัศนคติและพฤติกรรมที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปาก ๔. นักเรียนสามารถดูแลสุขภาช่องปากของตนเองได้อย่างีประสิทธิภาพ ๕. นักเรียนสามารถแปรงฟันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๖. นักเรียนสามารถลดความถี่ในการรับประทานอาหารได้ ๗. นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2568 00:00 น.