กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบการติดตามประเมินผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการ (Process Evaluation)

กิจกรรมระยะเวลาเป้าหมาย/วิธีการผลการดำเนินงานปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
ตามแผนปฏิบัติจริงตามแผนปฏิบัติจริงตามแผนปฏิบัติจริง
กิจกรรมที่ 1 รณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทอง 1.1 จัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องโทษและภัยของบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด 1.2 บูรณาการในการจัดการจัดการเรียนรู้ทุกกลุ่มสา 3 ก.พ. 2568 16 พ.ค. 2568

 

ขั้นที่ 1 : การวางแผนดำเนินงาน 1. ประชุมคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อวางแผนการดำเนินกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด 2. แต่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบกิจกรรมในแต่ละส่วน เช่น ด้านวิชาการ ด้านประชาสัมพันธ์ และด้านประเมินผล 3. กำหนดปฏิทินวัน เวลา สถานที่ และรูปแบบการดำเนินกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงวัยของนักเรียน 4. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สถานีตำรวจ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อสนับสนุนวิทยากรและสื่อการสอน

ขั้นที่ 2 : การดำเนินกิจกรรม กิจกรรมย่อยที่ 1.1 จัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องโทษและภัยของบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด 1. จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่นักเรียน โดยเชิญวิทยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2. จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด 3. ให้นักเรียนร่วมทำสื่อรณรงค์ เช่น เดินรณรงค์ ป้ายประชาสัมพันธ์ คลิปวิดีโอ หรือโปสเตอร์ กิจกรรมย่อยที่ 1.2 บูรณาการในการจัดการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 1. ให้ครูผู้สอนบูรณาการเนื้อหาเรื่อง “โทษและผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด” ในการจัดการเรียนรู้ เช่น o วิทยาศาสตร์ : ศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพ o ภาษาไทย : เขียนเรียงความหรือแต่งคำขวัญรณรงค์ o สังคมศึกษา : ศึกษากฎหมายและบทลงโทษ o ศิลปะ : ออกแบบโปสเตอร์รณรงค์ 2. ส่งเสริมให้นักเรียนทำโครงงานหรือกิจกรรมจิตอาสาเกี่ยวกับการป้องกันยาเสพติด ขั้นที่ 3 : การติดตามและประเมินผล 1. ติดตามผลการดำเนินกิจกรรมโดยคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมาย 2. ประเมินผลจากแบบสอบถามก่อนและหลังการจัดกิจกรรม เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงด้านความรู้และทัศนคติของนักเรียน 3. สรุปผลการดำเนินงานและจัดทำรายงานผล เพื่อนำเสนอในการประชุมคณะครูและเผยแพร่ต่อชุมชน ขั้นที่ 4 : การเผยแพร่และต่อยอดผลการดำเนินงาน 1. เผยแพร่ผลการดำเนินงานผ่านเพจโรงเรียนหรือสื่อชุมชน 2. นำผลการประเมินมาพัฒนาและต่อยอดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องในปีถัดไป 3. สร้างเครือข่าย “เยาวชนต้านภัยบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด” ระหว่างโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทอง

 

  1. นักเรียนในโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทองชั้น อนุบาลปีที่ 2 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 100 มีความรู้ในเรื่องโทษและภัยของบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด 2.นักเรียนในโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทองชั้น อนุบาลปีที่ 2 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3  ร้อยละ 100 ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด

 

กิจกรรมที่ 3 พัฒนาทักษะชีวิตและเครือข่ายการป้องกันและช่วยเหลือแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทอง 3.1 จัดค่ายพัฒนาผู้นำนักเรียน 29 ก.ย. 2568 29 ก.ย. 2568

 

ขั้นที่ 1 : การวางแผนและเตรียมการ 1. ประชุมคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางการจัดค่ายพัฒนาผู้นำนักเรียน 2. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานค่ายพัฒนาผู้นำนักเรียน แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ เช่น o ด้านการจัดกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ o ด้านสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ o ด้านอาหารและสวัสดิการ o ด้านการประเมินผล 3. คัดเลือกนักเรียนแกนนำจากแต่ละระดับชั้นเข้าร่วมกิจกรรมค่าย 4. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น วิทยากรอาสา มหาวิทยาลัยทักษิณ โรงเรียนต้นแบบเพื่อร่วมเป็นวิทยากรและผู้สนับสนุนกิจกรรม

ขั้นที่ 2 : การดำเนินกิจกรรมค่าย 1. จัดค่ายพัฒนาผู้นำนักเรียนในรูปแบบ “ค่ายกลางวัน”  โดยมีกิจกรรมหลัก ดังนี้ o กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ (Team Building) เพื่อสร้างความสามัคคีและความร่วมมือ o กิจกรรมเสริมทักษะชีวิต เช่น การตัดสินใจ การแก้ปัญหา การสื่อสาร การรู้เท่าทันสื่อ และการควบคุมอารมณ์ o กิจกรรมเสริมสร้างภาวะผู้นำ เช่น การทำงานเป็นทีม การเป็นผู้นำที่รับผิดชอบและมีจิตอาสา o กิจกรรมเสริมสร้างเครือข่ายนักเรียนแกนนำป้องกันปัญหา เช่น การจัดกลุ่ม “เพื่อนช่วยเพื่อน” หรือ “เยาวชนอาสาป้องกันภัยในโรงเรียน” 2. จัดฐานการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ (Workshop) เช่น ฐานการเรียนรู้ที่ ๑ ““นักอ่าน นักคิด พิชิตการเขียน” กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ฐานการเรียนรู้ที่ ๒ “How to make a sandwich”กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ฐานการเรียนรู้ที่ ๓ “มัดสุข พิมพ์ใจ สานสัมพันธ์ สร้างสายใยสู่ครอบครัว ”กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฐานการเรียนรู้ที่ ๔“ หิ้วปิ่นโตไปวัด”กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม ฐานการเรียนรู้ที่ ๕ “ คีตะมวยไทย”กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ฐานการเรียนรู้ที่ ๖ “การผลิตภาพยนตร์สั้น ”กลุ่มสาระการเรียนรู้การออกแบบและเทคโนโลยี ฐานการเรียนรู้ที่ ๗ “ โดนัทจิ๋ว สร้างอาชีพ”กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวิชาเพิ่มเติม ทักษะอาชีพ ฐานการเรียนรู้ที่ ๘“เล่นดนตรี พอดี พอเพียง”กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชมรมดนตรี 3. จัดกิจกรรมสรุปบทเรียน (Reflection) เพื่อให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้จากค่าย

ขั้นที่ 3 : การติดตามและประเมินผล 1. ประเมินความรู้ ทักษะ และทัศนคติของนักเรียนก่อนและหลังเข้าร่วมค่าย 2. ครูที่ปรึกษาและคณะกรรมการค่ายติดตามการนำความรู้ไปใช้จริงในการดำเนินกิจกรรมภายในโรงเรียน เช่น การรณรงค์ป้องกันยาเสพติด หรือการช่วยเหลือเพื่อนที่มีปัญหา 3. รวบรวมข้อมูลและข้อเสนอแนะจากนักเรียน วิทยากร และครูผู้ดูแล เพื่อปรับปรุงการจัดค่ายในครั้งต่อไป

ขั้นที่ 4 : การเผยแพร่และต่อยอดผลการดำเนินงาน 1. จัดทำรายงานผลการดำเนินงานค่าย พร้อมภาพกิจกรรม และเผยแพร่ผ่านเพจโรงเรียนหรือช่องทางประชาสัมพันธ์ของชุมชน 2. สร้างเครือข่าย “ผู้นำนักเรียนจิตอาสา” ระหว่างโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทอง เพื่อดำเนินกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง 3. ส่งเสริมให้นักเรียนแกนนำที่ผ่านการอบรมเป็นพี่เลี้ยงหรือวิทยากรให้น้องรุ่นต่อไป

 

โรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทองจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต และเครือข่ายการป้องกันและช่วยเหลือแก่นักเรียนโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทอง  จำนวน  4 กิจกรรม ได้แก่
๑. จัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องโทษและภัยของบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด
๒. บูรณาการในการจัดการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
๓. จัดกิจกรรมชุมนุม
๔.จัดค่ายพัฒนาผู้นำนักเรียน

 

กิจกรรมที่ 2 เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทอง 2.1 จัดกิจกรรมชุมนุม 8 ต.ค. 2568 16 พ.ค. 2568

 

ขั้นที่ 1 : การวางแผนและเตรียมการ 1. ประชุมคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินกิจกรรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่นักเรียน 2. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานกิจกรรมชุมนุม แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ เช่น o ด้านวางแผนและจัดตารางชุมนุม o ด้านกิจกรรมและสื่อการเรียนรู้ o ด้านติดตามและประเมินผล 3. สำรวจความสนใจของนักเรียน เพื่อจัดตั้งชุมนุมที่สอดคล้องกับความถนัด ความชอบ และส่งเสริมทักษะชีวิต 4. วางแผนรูปแบบกิจกรรมชุมนุมที่มุ่งเสริมสร้างทักษะชีวิต ทักษะสังคม และความมั่นคงทางอารมณ์ เช่น ชุมนุมดนตรี การเต้น เถ้าแก่น้อย กีฬา เป็นต้น

ขั้นที่ 2 : การดำเนินกิจกรรม 1. จัดกิจกรรมชุมนุมให้นักเรียนเข้าร่วมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยกำหนดหัวข้อหรือภารกิจที่ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และการทำงานเป็นทีม 2. ครูที่ปรึกษาชุมนุมจัดกิจกรรมเน้นการฝึกทักษะชีวิต เช่น o การรู้จักตนเอง การควบคุมอารมณ์ o การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ o การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ o การทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข 3. จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมนุม  เพื่อให้นักเรียนได้แสดงผลงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ 4. บูรณาการแนวคิด “โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยและมีความสุข” ในทุกกิจกรรม เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างครู–นักเรียน

ขั้นที่ 3 : การติดตามและประเมินผล 1. ครูที่ปรึกษาชุมนุมบันทึกผลการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียนเป็นรายบุคคล 2. ประเมินผลนักเรียนจากพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม การมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบ และทักษะทางสังคม 3. สำรวจความพึงพอใจของนักเรียนต่อกิจกรรมชุมนุม และข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา 4. สรุปผลการดำเนินกิจกรรมและรายงานต่อผู้บริหารโรงเรียนเพื่อใช้ปรับปรุงในรอบถัดไป

ขั้นที่ 4 : การเผยแพร่และต่อยอดผลการดำเนินงาน 1. เผยแพร่ผลการดำเนินกิจกรรมผ่านเพจโรงเรียน บอร์ดประชาสัมพันธ์ หรือในงานประชุมผู้ปกครอง 2. นำผลงานเด่นของนักเรียนในชุมนุมไปแสดงในกิจกรรมระดับเขตพื้นที่หรือชุมชน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจ 3. พัฒนาชุมนุมให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเชื่อมโยงกับแนวคิด “ทักษะชีวิต–ทักษะอาชีพ–ทักษะจิตใจ”

 

1.นักเรียนในโรงเรียนบ้านโหล๊ะเร็ดและโรงเรียนบ้านไทรทองชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3  ร้อยละ 100 เข้าร่วมกิจกรรมชุมนุม