โครงการครอบครัวสัมพันธ์
ชื่อโครงการ | โครงการครอบครัวสัมพันธ์ |
รหัสโครงการ | 68-L5200-3-6 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนหน่วยงานที่มีหน้ารับผิดชอบเกี่ยวกับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนเทศบาลตำบลนาทวี |
วันที่อนุมัติ | 12 มีนาคม 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 21,030.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางศุภวรรณ ชุมพงษ์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.693,100.777place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบัน สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก อันเป็นผลพวงมาจาก การพัฒนา ประเทศและการดิ้นรนต่อสู้ของประชาชนเพื่อการดำรงชีวิต สถาบันครอบครัวไทยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกเชื่อมโยงเข้ากับ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดขึ้น การพัฒนาตามแนวคิดการพัฒนากระแสหลักให้ความสำคัญกับการสร้างความ มั่งคั่งร่ำรวย หรือความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นการพัฒนาแบบแยกส่วน ทำให้เกิดกระบวนการดึงคนออกมา จากครอบครัว แยกพ่อแม่ ลูกหลาน ปู่ ย่าตายาย ออกจากกัน ซึ่งผลของการพัฒนานั้นแม้จะทำให้ครอบครัวไทยมี ภาวะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น มีความสุขสบายด้านวัตถุมากขึ้น แต่ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวที่เคยแนบแน่นและ อบอุ่นก็เริ่มเลือนหายไป เปลี่ยนแปลงเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่แนบแน่นดังก่อน ความผูกพันกันในเชิงอารมณ์และ ความรู้สึกมีค่อนข้างน้อย คนในครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกันน้อยลง พ่อแม่มีหน้าที่แสวงหาทรัพย์สินเงินทอง และวัตถุ เพื่อมาเลี้ยงดู ปรนเปรอความสุขให้ลูก ส่วนลูกซึ่งต้องทำหน้าที่เรียนหนังสือ ก็ถูกวัฒนธรรมต่างชาติและอบายมุข ชักจูงไปในทางที่เสื่อมเสีย การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นไปตามยถากรรม เด็กๆเรียนรู้ชีวิตด้วยตนเองจากสังคมนอกบ้าน มากกว่าสังคมในบ้าน สภาพการณ์เช่นนี้หลายคนมองว่าสถาบันครอบครัวไทยกำลังตกต่ำอยู่ในสภาพใกล้ล่มสลาย ไม่มีความเป็นครอบครัวเหลืออยู่ ดังนั้นสถาบันครอบครัวเป็นสถาบันหลัก เป็นแกนกลางของสังคมไทย ที่เป็นรากฐานสำคัญยิ่งต่อ การ ดำรงชีวิต ครอบครัวมีหลากหลายรูปแบบ หลายลักษณะนอกจากครอบครัวที่สมบูรณ์ทั้งบิดา มารดา และบุตร สมาชิกในครอบครัวต้องรู้จักรับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่ของตน สามารถผนึกกำลังเป็นพลัง สร้างคนในครอบครัวให้มี ความสุขและมีคุณภาพ ทุกคนต้องตระหนักว่าตนเองมีหน้าที่สร้างครอบครัวให้มั่นคง ด้วยการกระชับความสัมพันธ์ ของสมาชิกในครอบครัว โดยการมอบความรักความเข้าใจ ความเอื้ออาทรให้กันและกัน เนื่องจากครอบครัวที่อบอุ่น จะช่วยเป็นภูมิต้านทานปัญหาต่างๆ และยังช่วยเสริมสร้างสังคมให้น่าอยู่และสันติสุขมากขึ้น “ครอบครัว” เป็นสถาบันแรกเริ่มที่มีความสำคัญที่สุด เพราะเป็นสถาบันพื้นฐานที่บทบาทสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับมนุษย์ทุกคนใน สังคม เป็นสถาบันแรกที่ทำหน้าที่ทางสังคมในการถ่ายทอดค่านิยมปลูกฝังความเชื่อสร้างเสริมทัศนคติ กำหนด บุคลิกภาพ วิธีประพฤติปฏิบัติตนรวมทั้งการสร้างบรรทัดฐานทางสังคมให้แก่สมาชิกรุ่นใหม่ ซึ่งมีผลต่อการพัฒนา สังคมและประเทศ นอกจากนี้รวมครอบครัวยังเป็นแหล่งให้ความช่วยเหลือดูแลเยียวยาบำบัดฟื้นฟู ในยามที่ต้อง เผชิญกับปัญหา วิกฤตที่มากระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของสมาชิกในครอบครัวอีกด้วยอาจกล่าวได้ว่า ครอบครัวเป็นทุนทางสังคมที่สำคัญในการพัฒนาคนและประเทศชาติให้เจริญมั่นคงอย่างยังยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทยที่มี เอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องความเป็นครอบครัวที่เข้มแข็งที่มีระบบเครือญาติและสายใยผูกพันมาช้านาน อย่างไรก็ตาม บทบาทของสถาบันครอบครัวเริ่มมีแนวโน้มอ่อนแอลง ไม่สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่าง รวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมทำให้เกิดปัญหาสังคมในรูปแบบต่างๆ เด็กและผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งจากครอบครัว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและสังคมเมืองมีมากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุในชนบทเป็นจำนวนมากถูก ทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพัง หรือต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานเพราะพ่อแม่ต้องออกไปประกอบอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงดู ครอบครัวปัญหาในครอบครัวอาจแสดงอาการออกได้หลายรูปแบบ เช่น บางคนมีความเครียด ปวดหัว ปวดท้องไม่ ทราบสาเหตุ หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า เบื่อหน่าย ท้อแท้ชีวิต จนอาจถึงคิดอยากตาย อาจมีการทะเลาะเบาะแว้งกัน บ่อยๆ ปัญหาอาจลุกลามใหญ่โต เรื้อรัง จนอาจทำให้สมาชิกในครอบครัวเกิดอาการทางจิตเวช หรือป่วยทางจิตเวชได้ หลายคน เช่น โรคจิต โรคประสาท โรคติดสารเสพติด โรคบุคลิกภาพแปรปรวน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาครอบครัว ตั้งแต่ต้น จึงช่วยป้องกันปัญหาทางจิตเวช และความเจ็บปวดทางกายได้ ด้วยเหตุนี้ ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน เทศบาลตำบลนาทวี จึงได้จัดทำโครงการ “ครอบครัวสัมพันธ์” ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวทั้งสามช่วง คือ วัยเด็กถึงวัยคู่ครอง วัยกลางคนถึงวัยพ่อแม่ และวัยสูงอายุ ได้มีปฏิสัมพันธ์ทำกิจกรรมร่วมกัน ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความเข้าใจต่อกันมากยิ่งขึ้น การมีสุขภาพจิตที่แข็งแรง อีกทั้งเป็นการลดช่องว่างระหว่างวัยของคนใน ครอบครัว ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวแนบแน่น รักใคร่กลมเกลียวผูกพันกันมากยิ่งขึ้น มีการพบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เกิดการ บูรณาการร่วมกันทั้งสามวัยมีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันให้มากขึ้น ภายในครอบครัวสร้างความรัก ความสามัคคีและเพิ่มสายใยรักที่ดีต่อกันภายในครอบครัวมากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 |
1.เพื่อให้ครอบครัวมีเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้วิเคราะห์สภาพปัญหาในครอบครัวของตนเอง
2.เพื่อให้ครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพและมีความสุข
3.เพื่อพัฒนาสถาบันครอบครัวในชุมชนให้มีความแข็งแรง และคนในครอบครัวมีสุขภาพจิตที่ดี ลดปัญหาภาวะซึมเศร้า
1.ครอบครัวในชุมชนมีความแข็งแรง และคนในครอบครัวมีสุขภาพจิตที่ดีลดปัญหาภาวะซึมเศร้า
2.ครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดี ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกกัน และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
- ชุมชนมีความตื่นตัวในการทำงานด้านการส่งเสริมความแข็งแรงของครอบครัวในชุมชน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2568 10:58 น.