กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบประเมินผลการดำเนินงาน (Performance/Product Evaluation)

 เป้าประสงค์หรือวัตถุประสงค์/ตัวชี้วัด(Indicator)สถานการณ์เป้าหมายผลผลิต
(Output)
ผลลัพธ์
(Outcome)
ผลกระทบ
(Impact)
อธิบายข้อสังเกตที่สำคัญ
1 1.เพื่อชะลอภาวะไตเสื่อมในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง เพื่อลดอุบัติการณ์การเกิดภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในตำบลบาโงย 2.เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้องโดยครอบครัวมีส่วนร่วม
ตัวชี้วัด : กลุ่มผู้ป่วยโรคไต ,กลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยโรคเรื้อรังความดันโลหิตสูง และเบาหวาน และผู้ดูแลผู้ป่วย จำนวน 120 คน แบ่งเป็นจำนวน 2 รุ่นๆ ละ 60 คน จำนวน 2 วัน
50.00

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Expected Outcomes) 1. ด้านพฤติกรรมสุขภาพ • ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไตและการป้องกันภาวะไตเสื่อมเพิ่มขึ้น • ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดเค็ม ลดหวาน ลดมัน ดื่มน้ำสะอาดเพียงพอ • ลดการใช้ยาสมุนไพรหรือยาชุดที่มีผลต่อไต • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (เบาหวาน ความดันโลหิตสูง) มีการควบคุมระดับน้ำตาลและความดันได้ดีขึ้น 2. ด้านสุขภาพ • อัตราผู้ป่วยรายใหม่ที่มีภาวะไตเสื่อมลดลง • ค่าการทำงานของไต (ค่า eGFR, Creatinine) ของกลุ่มเป้าหมายดีขึ้นหรือคงที่ • อัตราการเข้าสู่ระยะล้างไตลดลง • ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลจากโรคไตเรื้อรัง 3. ด้านระบบบริการและชุมชน • มีระบบเฝ้าระวังและคัดกรองภาวะไตเสื่อมในกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง • เกิดเครือข่ายสุขภาพระดับชุมชน (อสม., ชมรมผู้ป่วย, โรงเรียน, อปท.) ที่ร่วมมือกันรณรงค์ลดการบริโภคเค็ม • มีนโยบายหรือข้อตกลงชุมชน “ลดเค็ม ลดไตเสื่อม” • ร้านอาหารในพื้นที่ปรับสูตรอาหารให้ลดโซเดียม 4. ด้านจิตสังคม • ชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไต • ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว • เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน

  1. ต่อประชาชนและผู้ป่วย • ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตเรื้อรัง • ผู้ป่วยโรคไตมีอัตราการเสื่อมของไตช้าลง และสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ • ลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟอกไตหรือล้างไต • คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวดีขึ้น ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจ
  2. ต่อระบบสาธารณสุข • ลดภาระค่าใช้จ่ายของระบบสาธารณสุขจากการรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง • บุคลากรสาธารณสุขสามารถดำเนินงานป้องกัน คัดกรอง และติดตามกลุ่มเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น • เกิดรูปแบบการดำเนินงานเชิงรุกในชุมชนที่สามารถต่อยอดเป็นต้นแบบได้
  3. ต่อชุมชนและสังคม • ชุมชนมีความตระหนักและเข้มแข็งในการดูแลสุขภาพตนเองและคนรอบข้าง • เกิดข้อตกลงชุมชน เช่น “ชุมชนลดเค็ม ลดไตเสื่อม” หรือมาตรการควบคุมอาหารเค็มในตลาด ร้านอาหาร โรงเรียน • ลดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมจากการสูญเสียแรงงานวัยทำงานที่ป่วยเป็นโรคไต • ส่งเสริมวัฒนธรรมการกินอาหารสุขภาพในชุมชนอย่างยั่งยืน
  4. ผลกระทบระยะยาว • ลดอัตราการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะไตเสื่อม • ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีต่อเนื่อง กลายเป็น “สังคมลดเค็ม” • สนับสนุนเป้าหมาย “คนไทยสุขภาพดี” ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข
  1. การรับรู้และพฤติกรรมของประชาชนยังแตกต่างกัน • แม้ประชาชนส่วนใหญ่จะได้รับความรู้เกี่ยวกับโรคไต แต่บางกลุ่มยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาหารเค็มและการดูแลไต • พฤติกรรมการบริโภคอาหารรสเค็มและการใช้เครื่องปรุงโซเดียมสูงยังคงพบในกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ
    1. ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างยังควบคุมได้ไม่เต็มที่ • ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงบางรายยังควบคุมระดับน้ำตาลและความดันไม่ได้ตามเกณฑ์ • การใช้ยาสมุนไพร ยาชุด หรือยานอกระบบสุขภาพที่มีผลต่อไตยังพบอยู่ในบางพื้นที่
    2. ความร่วมมือของชุมชนมีแนวโน้มดีขึ้น • มีการเกิดกลุ่มหรือชมรมผู้ป่วยโรคไตและโรคเรื้อรังที่ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ • ผู้นำชุมชน อสม. และหน่วยงานท้องถิ่นเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการรณรงค์ “ลดเค็ม ลดไตเสื่อม”
    3. การดำเนินงานเชิงระบบยังต้องพัฒนา • ระบบข้อมูลการเฝ้าระวังและติดตามภาวะไตเสื่อมในกลุ่มเสี่ยงยังไม่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย • การคัดกรอง eGFR/creatinine ยังไม่ต่อเนื่องในบางพื้นที่ เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณและบุคลากร
    4. แนวโน้มผลลัพธ์เชิงสุขภาพเป็นบวก • พบว่าค่าการทำงานของไตในกลุ่มที่ได้รับการดูแลต่อเนื่องมีแนวโน้มดีขึ้นหรือคงที่ • ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการลดเค็มและเริ่มปรับพฤติกรรมการกินมากขึ้น