แบบการติดตามประเมินผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการ (Process Evaluation)
| กิจกรรม | ระยะเวลา | เป้าหมาย/วิธีการ | ผลการดำเนินงาน | ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข | |||
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ||
| ขั้นเตรียมการ 1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร กิจกรรมที่ 1. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัต | 11 มิ.ย. 2568 | 23 ส.ค. 2568 |
|
ขั้นเตรียมการ
1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ
3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร 4. จัดเตรียมเอกสาร ที่จะใช้ในการอบรมแก่กลุ่มเป้าหมาย 1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs” |
|
กิจกรรมที่ 1 พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่
แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” 1.6 ทำแบบทดสอบก่อน - หลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน(การสรุปผลแนบมาพร้อมนี้)
ก่อนอบรม 0 72 คน 27 คน 1 คน 100 คน
ระดับคะแนน น้อยกว่า 12 13 14 15 ร้อยละ 100 ของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อ ให้ควบคุมโรคฯได้
(ทำแบบทดสอบหลังการอบรมผ่าน ร้อยละ 100 ( 13 คะแนน ขึ้นไป) ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) จำนวน 100 คน ค่า BMI จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ น้อยกว่า 18.00 1 1 นน.น้อย 18.01-23.00 34 34 ปกติ 23.00-25.00 13 13 เริ่มอ้วน 25.01 ขึ้นไป 52 52 อ้วน รวม 100 100
จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่มี นน.มาก มีภาวะอ้วน จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs มากกว่า คนที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ จึงควรมีการบริหารจัดการ ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการดำเนินชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การวัดรอบเอว จำนวน 100 คน วัดรอบสะเอว จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ ชายน้อยกว่า 90 ซม. 27 27 ปกติ ชายมากกว่า 90 ซม. 5 5 รอบเอวเกิน หญิงน้อยกว่า 80 ซม. 36 36 ปกติ หญิงมากกว่า 90 ซม. 32 32 รอบเอวเกิน รวม 100 100 จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ ในผู้ชาย รอบเอวจะน้อยกว่า 90 เซนติเมตร ในขณะที่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ผู้หญิง จะไม่ค่อยแตกต่างกัน ระหว่าง กลุ่มรอบเอวปกติ และรอบเอวเกิน ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มเหล่านี้ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เพื่อลด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วยต่อไป ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด อดอาหาร 8 ชม. จำนวน 100 คน ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 58 58 ปกติ 100 – 125 mg% 36 36 เสี่ยง 126 mg% ขึ้นไป 6 6 สงสัยป่วยเบาหวาน ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 9 คน รวม 100 100 จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ
น้ำตาลในเลือด อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 9 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจวัดระดับความดันโลหิต จำนวน 100 คน ระดับความดันโลหิต จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 90/60 - 129/80 mmHg. 53 53 ปกติ 130/81 – 139/89 mmHg. 38 38 เสี่ยง 140/90 – 159/99 mmHg. 6 6 สงสัยป่วยความดันฯ ป่วยด้วยโรค HT 23 คน รวม 100 100 จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ
ความดันโลหิต อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งครัด จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 23 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 1 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ทั้ง 8 หมู่บ้าน แม้จะต้องเดินเพื่อเปลี่ยนฐานการศึกษาเรียนรู้ เนื่องจากข้อจำกัดของระบบอินเตอร์เน็ต กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการโต้ตอบ ถามตอบ ร่วมมือในการเข้าไปศึกษาใน แอปพลิเคชั่น เป็นอย่างดี ช่วยเหลือกันใน “คู่หูบัดดี้ NCDs” เป็นภาพที่ประทับใจ |
|
| 2. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 50 คน 1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ | 1 ก.ค. 2568 | 6 ก.ย. 2568 |
|
|
|
กิจกรรมที่ 2 อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง โดยมีกิจกรรมดังนี้
2.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs” จำนวน 50 คน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ คิดเป็น ร้อยละ 100
2.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง
2.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม
2.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมโรคให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ (DTX น้อยกว่า 126 mg.%)
ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 16 32 ปกติ 100 – 125 mg% 30 60 เสี่ยง 126 mg% ขึ้นไป 4 8 สงสัยป่วยเบาหวาน รวม 50 100 จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรค กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ BP ระหว่าง 90/60 mmHg. ถึง น้อยกว่า 140/90 mmHg. ) ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจวัดระดับความดันโลหิต จำนวน 50 คน ระดับความดันโลหิต จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ
90/60 - 129/80 mmHg. 15 30 ปกติ
130/81 – 139/89 mmHg. 4 8 เสี่ยง
140/90 – 159/99 mmHg. 17 34 สงสัยป่วยความดันฯ
160/100-179/109
mmHg. 14 28 ป่วยรายใหม่ จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดัน
โลหิตสูง ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับความดันโลหิต อยู่ในกลุ่มสงสัยป่วย กลุ่มปกติ และกลุ่มป่วยรายใหม่ ตามลำดับ ค่าที่ได้ไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อมารวมกลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยรายใหม่ จะมี กลุ่มนี้มากถึง ร้อยละ 62 ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าเป็นห่วง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งครัด จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มป่วย หรือกลุ่มที่เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 2 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากวิทยากร โรงพยาบาลควนโดน และวิทยากร นักโภชนาการ จาก โรงพยาบาลสตูล จากกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง 8 หมู่บ้าน ร่วมเสนอความคิดเห็น มีการถามตอบในข้อสงสัย และมีการตั้งเป้าหมายในการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งการเรียนรู้และเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บางรายเดินทางมาร่วมกิจกรรมท่ามกลางสายฝน เป็นภาพที่ประทับใจ แม้จะมาช้ากว่าคนอื่น แต่ตอบคำถามได้ ในหลายๆข้อคำถาม เป็นบรรยากาศที่ประทับใจผู้จัดเช่นกัน |
|
| 3. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เข้าร่วม DM Remission Clinic จำนวน 50 คน 1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิต | 14 ก.ค. 2568 | 7 ก.ย. 2568 |
|
|
|
กิจกรรมที่ 3. อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เข้าร่วม DM Remission Clinic ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 1 2 ปกติ 100 – 125 mg% 34 68 ควบคุมโรคได้ค่อนข้างดี 126 mg% ขึ้นไป 15 30 ควบคุมได้ไม่ค่อยดี รวม 50 100 จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า กลุ่มป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับน้ำตาลในเลือด ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 3 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากวิทยากร โรงพยาบาลควนโดน และวิทยากร จาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านกุบังปะโหลด และจากกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง 8 หมู่บ้าน ร่วมเสนอความคิดเห็น มีการถามตอบในข้อสงสัย และมีการตั้งเป้าหมายในการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งการเรียนรู้และเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ร่วมกันนำเสนอความคิดเห็น ในการพูดคุยถึงประเด็นปัญหา เกี่ยวกับโรค ไม่ติดต่อ ที่เจอในชุมชน ร่วมกันวิเคราะห์ จัดเวทีประชาคม “อ่อนหวาน ลดเค็ม ต่อเต็ม เติมใจ ห่างไกล NCDs “ ซึ่ง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประชาคม ประกอบด้วย ดังนี้ “อ่อนหวาน ลดเค็ม ต่อเต็ม เติมใจ ห่างไกล NCDs “ วันที่ 7 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมโรงเรียน อสม. รพ.สต.ควนโดน จากการจัดเวทีประชาคม เพื่อร่วมกันกำหนดประเด็นปัญหา ตั้งเป้าหมาย พร้อมจัดทำแผนงาน/โครงการ และกิจกรรม โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการ พชอ.ควนโดน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จาก สสอ.ควนโดน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จาก รพ.สต.ควนโดน ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ตัวแทนร้านค้า ตัวแทนจากผู้ประกอบอาหารในงานบุญ ตัวแทนกลุ่มสตรีควนโดน อสม.ตำบลควนโดน และแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ตำบลควนโดน ได้ร่วมกัน
1. ระดมความคิด โดยใช้เครื่องมือ SPOME ปัญหาหลัก : คนในชุมชน ชอบกิน หวาน มัน เค็ม
- ด้านสุขภาพ
o โรคความดันโลหิตสูง
o โรคเบาหวาน
o โรคหัวใจและหลอดเลือด - ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม
-งานบุญ งานนูหรี และวันสำคัญต่างๆ ในชุมชน การตั้งเป้าหมายร่วมกัน
1. ด้านพฤติกรรม จากการดำเนินการ เกิดข้อตกลง/มาตรการชุมชน/นโยบายสาธารณะ ชุมชนร่วมกำหนดมาตรการที่ทำได้จริง ครอบคลุมระดับครัวเรือน ชุมชน/สังคม และร้านค้า ดำเนินงานอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน มาตรการสำหรับครัวเรือน 1. ให้ความรู้ เกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพโรคไม่ติดต่อ ตั้งแต่วัยเรียน วัยรุ่น 2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเคร่งครัด พร้อมติดตามการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง 3. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบ 4. ปลูกพืชผักสมุนไพร อย่างน้อย 5 ชนิด เพื่อลดการใช้โซเดียม เช่นโหระพา ใบมะกรูด คะน้าไชยา ตะไคร้ พริกสด ขิง ข่า เป็นต้น 5. ตำเครื่องแกงใช้เองในครัวเรือน 6. ลดการใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียมสูง เช่นน้ำปลา น้ำมันหอย ผงปรุงรส เป็นต้น มาตรการสำหรับร้านค้า 1. ผู้บริโภค ชิมก่อนปรุง งดซด งดปรุง งดเกลือ งดโซเดียม ลดโรค 2. ร้านค้าไม่วางเครื่องปรุงบนโต๊ะ 3. ร้านค้ามีเมนูทางเลือกเพื่อสุขภาพ อย่างน้อย 1 เมนู 4. ร้านค้ามีบริการลดเค็มสั่งได้ 5. ร้านน้ำหวาน น้ำชง คาเฟ่ มีบริการลดหวานสั่งได้ มาตรการสำหรับชุมชน/สังคม 1. งานบุญมีเมนูที่มีส่วนประกอบของกะทิเพียง 1 เมนู มีเมนูน้ำใสอย่างน้อย 1 เมนู (ไม่ใส่กะปิ) เพิ่มผัก เน้นเมนูต้ม อบ นึ่ง ย่าง ยำ 2. งานบุญ (นูหรี) เลือกใช้น้ำสมุนไพรหวานน้อย หรือน้ำเปล่า ปลอดน้ำอักลม 3. ผู้ไปร่วมงานบุญ ไม่นำน้ำอัดลม น้ำหวานไปร่วมงานบุญ |
|